การสร้างเว็บไซต์เองอาจฟังดูน่ากลัวสำหรับมือใหม่ แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไป ตอนนี้การทำเว็บไซต์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป บทความนี้ CIPHER ผู้เชี่ยวชาญด้าน การออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ จะแนะนำวิธีการสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเอง 7 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง!
Table of Contents
ทำไมการสร้างเว็บไซต์ถึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจ?
ก่อนที่เราจะเริ่มการเขียนเว็บไซต์ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมคุณควรมีเว็บไซต์ของตัวเอง เว็บไซต์ไม่ได้เป็นเพียงแค่หน้าตาของธุรกิจในโลกออนไลน์เท่านั้น แต่ยังมีข้อดีต่าง ๆ ดังนี้
- สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณ
- เข้าถึงลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- เพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการ
- สร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง
- เก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อนำไปวิเคราะห์และพัฒนาธุรกิจ
การทำเว็บไซต์จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และด้วยเครื่องมือที่มีอยู่ในปัจจุบัน คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด
ขั้นตอนการวางแผนการสร้างเว็บไซต์เอง
ก่อนจะเริ่มลงมือทำเว็บเอง มาวางแผนกันก่อนดีกว่า! การวางแผนที่ดีจะช่วยให้การสร้างเว็บไซต์เป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ โดยมีขั้นตอนสำคัญในการวางแผนดังนี้
- กำหนดเป้าหมายของเว็บไซต์ – คุณต้องรู้ก่อนว่าอยากให้เว็บไซต์ทำอะไรได้บ้าง เช่น ขายสินค้า ให้ข้อมูล หรือสร้างฐานลูกค้า เป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยกำหนดทิศทางการออกแบบและเนื้อหา
- ระบุกลุ่มเป้าหมาย – เว็บไซต์ของคุณกำลังพูดคุยกับใคร? เจาะลึกลงไปว่าลูกค้าของคุณเป็นใคร อายุเท่าไร มีความสนใจแบบไหน การเข้าใจกลุ่มเป้าหมายจะช่วยให้คุณออกแบบและสร้างเนื้อหาที่ตรงใจ
- ออกแบบแผนผังเว็บไซต์ (Sitemap) – คิดถึงโครงสร้างหน้าเว็บที่จำเป็นต้องมี เช่น หน้าหลัก หน้าเกี่ยวกับเรา หน้าบริการ หน้าติดต่อ และอื่น ๆ แผนผังที่ดีจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีการจัดระเบียบที่ดี
- จัดวางโครงสร้างหน้าเว็บ (Page Structure & Layout) – ออกแบบว่าแต่ละหน้าควรมีองค์ประกอบอะไรบ้าง เช่น รูปภาพ ข้อความ ปุ่มกด และวิธีการจัดวาง การเขียนเว็บไซต์ที่มีโครงสร้างชัดเจนจะช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย
การวางแผนที่รอบคอบจะทำให้คุณประหยัดเวลาและความพยายามในการแก้ไขปัญหาในภายหลัง อีกทั้งยังทำให้การสร้างเว็บไซต์เองเป็นกระบวนการที่สนุกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เลือกวิธีการสร้างเว็บไซต์
ใช้ Instant Website Builder ในการสร้างเว็บไซต์
สำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านการเขียนโค้ด Website Builder เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม เครื่องมือเหล่านี้ใช้งานง่าย มีเทมเพลตสวยงามให้เลือก และมีฟังก์ชันลากและวาง (drag-and-drop) ทำให้การสร้างเว็บไซต์เองเป็นเรื่องง่าย ตัวอย่าง Website Builder ยอดนิยม ได้แก่ Wix, Squarespace, Shopify (สำหรับร้านค้าออนไลน์) และ Weebly
ข้อดีของ Website Builder คือใช้งานง่าย ไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด และมักมีแผนราคาที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจเริ่มต้น แต่ข้อจำกัดคือความยืดหยุ่นในการปรับแต่งอาจไม่มากเท่ากับวิธีอื่น
ทำเว็บไซต์ด้วย WordPress
WordPress เป็นระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งใช้ในการสร้างเว็บไซต์มากกว่า 40% ทั่วโลก การทำเว็บไซต์ด้วย WordPress ให้ความยืดหยุ่นสูงกว่า และมีปลั๊กอิน (plugin) มากมายที่ช่วยเพิ่มฟังก์ชันให้กับเว็บไซต์ของคุณ
WordPress เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้นและไม่กลัวที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ คุณสามารถเริ่มต้นด้วยธีม (theme) สำเร็จรูปและปรับแต่งตามที่ต้องการ แม้ว่าจะซับซ้อนกว่า Website Builder แต่ก็ให้ความสามารถในการควบคุมเว็บไซต์มากกว่า
การจ้าง Outsource พัฒนาเว็บไซต์
สำหรับธุรกิจที่ต้องการเว็บไซต์ที่มีคุณภาพสูง มีความต้องการเฉพาะ หรือไม่มีเวลาพอที่จะเรียนรู้การสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเอง การจ้างมืออาชีพเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
บริษัท CIPHER เป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ที่ให้บริการครบวงจรตั้งแต่การออกแบบ UI/UX การพัฒนา ไปจนถึงการทำ SEO และ SEM ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าเว็บไซต์ของคุณจะได้รับการพัฒนาโดยทีมมืออาชีพที่เข้าใจทั้งด้านเทคนิคและการตลาดดิจิทัล ช่วยให้คุณสามารถโฟกัสไปที่การดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มที่
7 วิธีสร้างการสร้างเว็บไซต์เอง
1. เลือกแพลตฟอร์มและสร้างบัญชี
ขั้นแรกของการสร้างเว็บไซต์เอง คือ การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับความต้องการของคุณ แต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เช่น Wix เด่นเรื่องความง่าย Shopify เหมาะกับร้านค้าออนไลน์ WordPress มีความยืดหยุ่นสูง
เมื่อเลือกได้แล้ว ให้สร้างบัญชีและเลือกแผนที่เหมาะสมกับคุณ โดยพิจารณาจากงบประมาณและฟีเจอร์ที่คุณต้องการ ส่วนใหญ่แพลตฟอร์มเหล่านี้จะมีแผนฟรีหรือทดลองใช้ให้คุณลองก่อนตัดสินใจ
2. ตั้งชื่อโดเมน
โดเมน คือ ที่อยู่เว็บไซต์ของคุณ (เช่น www.yourwebsite.com) การเลือกโดเมนที่ดีจะช่วยให้ลูกค้าจดจำเว็บไซต์ของคุณได้ง่าย ควรเลือกชื่อที่สั้น จดจำง่าย และสะท้อนถึงธุรกิจของคุณ
เมื่อทำการเขียนเว็บไซต์ คุณสามารถซื้อโดเมนผ่านแพลตฟอร์มที่คุณใช้หรือผ่านผู้ให้บริการโดเมนโดยตรง เช่น GoDaddy หรือ Namecheap ราคาโดเมนขึ้นอยู่กับนามสกุล (.com, .net, .org) และความต้องการของตลาด
3. เลือกเทมเพลต
หลังจากมีโดเมนแล้ว ขั้นตอนต่อไปในการสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเอง คือการเลือกเทมเพลตหรือธีมที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ แพลตฟอร์มส่วนใหญ่มีเทมเพลตหลากหลายให้เลือกตามประเภทธุรกิจ เช่น ร้านอาหาร บล็อก พอร์ตโฟลิโอ หรือร้านค้าออนไลน์
เลือกเทมเพลตที่มีการออกแบบสอดคล้องกับแบรนด์ของคุณ และมีโครงสร้างที่เหมาะกับเนื้อหาที่คุณวางแผนไว้ ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับเทมเพลตทั้งหมด คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ในภายหลัง
4. ปรับแต่งเว็บไซต์
การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ตรงกับแบรนด์ของคุณเป็นขั้นตอนสำคัญในการทำเว็บไซต์ คุณสามารถปรับเปลี่ยนสีสัน ฟอนต์ รูปภาพ และการจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของธุรกิจ
ใช้สีที่เป็นไปตามแบรนด์ของคุณ เลือกฟอนต์ที่อ่านง่าย และจัดวางองค์ประกอบให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลได้สะดวก อย่าลืมทดสอบเว็บไซต์บนอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าแสดงผลได้ดีทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือ
5. สร้างเนื้อหาของเว็บไซต์
เนื้อหาเป็นหัวใจสำคัญของเว็บไซต์ เมื่อคุณสร้างเว็บไซต์เอง คุณต้องเพิ่มเนื้อหาที่มีคุณค่าและตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ วิดีโอ หรือสื่ออื่น ๆ
เขียนข้อความที่ชัดเจน กระชับ และมีประโยชน์ ใช้รูปภาพคุณภาพสูงที่สะท้อนถึงแบรนด์ของคุณ และจัดเรียงเนื้อหาให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย เนื้อหาที่ดีไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้ใช้แต่ยังช่วยในเรื่อง SEO ด้วย
6. การตั้งค่า SEO ให้กับเว็บไซต์
การทำ SEO (Search Engine Optimization) เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงในผลการค้นหาของ Google การสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเองไม่ควรละเลยเรื่องนี้
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เพิ่ม Title tag, Meta description, และ Alt text สำหรับรูปภาพ ใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณในเนื้อหา แต่ต้องไม่ยัดเยียดจนเกินไป (keyword stuffing) แพลตฟอร์มส่วนใหญ่มีเครื่องมือช่วยในการทำ SEO ที่ใช้งานง่าย
7. เผยแพร่เว็บไซต์
หลังจากที่คุณได้ปรับแต่งและเพิ่มเนื้อหาเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการเผยแพร่เว็บไซต์ให้ทุกคนสามารถเข้าชมได้ ก่อนเผยแพร่ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกอย่างทำงานได้อย่างถูกต้อง เช่น ลิงก์ ฟอร์ม และการแสดงผลบนอุปกรณ์ต่าง ๆ
หลังจากเผยแพร่ อย่าลืมประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น โซเชียลมีเดีย อีเมล หรือช่องทางการตลาดอื่น ๆ เพื่อให้ผู้คนรู้จักเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น
เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์
ไม่ว่าคุณจะเลือกสร้างเว็บไซต์เองหรือใช้บริการจากมืออาชีพ การเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณประสบความสำเร็จ:
- ทำให้เว็บไซต์โหลดเร็ว – เว็บไซต์ที่โหลดช้าจะทำให้ผู้ใช้ออกจากเว็บไซต์ก่อนที่จะได้เห็นเนื้อหา ลดขนาดรูปภาพ และใช้ hosting ที่มีคุณภาพ
- ทำให้ใช้งานง่ายบนมือถือ – ปัจจุบันคนส่วนใหญ่เข้าเว็บผ่านมือถือ เว็บไซต์ที่แสดงผลได้ดีบนมือถือจึงเป็นสิ่งจำเป็น
- เพิ่มการเชื่อมต่อโซเชียลมีเดีย – ทำให้ผู้ใช้สามารถแชร์เนื้อหาหรือติดตามธุรกิจของคุณผ่านโซเชียลมีเดียได้ง่าย
- ใช้ Call to Action (CTA) ที่ชัดเจน – บอกผู้ใช้ว่าคุณต้องการให้พวกเขาทำอะไร เช่น “ซื้อเลย” “ลงทะเบียน” หรือ “ติดต่อเรา”
- วิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ – ใช้เครื่องมือวิเคราะห์เช่น Google Analytics เพื่อเข้าใจว่าผู้ใช้ใช้เว็บไซต์อย่างไร และปรับปรุงตามข้อมูลที่ได้
ข้อจำกัดการสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเอง
แม้ว่าการสร้างเว็บไซต์เองจะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรพิจารณาดังนี้
- ความยืดหยุ่นและฟังก์ชันที่จำกัด – แพลตฟอร์มสำเร็จรูปอาจไม่รองรับความต้องการเฉพาะทางที่ซับซ้อน
- การปรับแต่ง SEO ที่จำกัด – อาจไม่สามารถปรับแต่ง SEO ได้อย่างลึกซึ้งเท่ากับเว็บไซต์ที่พัฒนาโดยมืออาชีพ
- ข้อจำกัดด้านการปรับขนาด – เมื่อธุรกิจเติบโต เว็บไซต์อาจไม่สามารถรองรับการขยายตัวได้
- เวลาและความพยายาม – การเรียนรู้และพัฒนาต้องใช้เวลา ซึ่งอาจเบี่ยงเบนความสนใจจากธุรกิจหลัก
- ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย – หากไม่มีความรู้เพียงพอ อาจเกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยได้
ข้อจำกัดเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ควรสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเอง แต่เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อตัดสินใจว่าจะสร้างเว็บไซต์เองหรือจ้างผู้เชี่ยวชาญ
สร้างเว็บไซต์ให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นกว่าใครกับ CIPHER!
หากคุณเห็นว่าการทำเว็บไซต์ด้วยตัวเองมีข้อจำกัดมากเกินไป หรือคุณต้องการเว็บไซต์ที่มีคุณภาพสูงและตอบโจทย์ธุรกิจได้อย่างแท้จริง CIPHER พร้อมช่วยคุณ!
บริษัทไซเฟอร์ให้บริการพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชันแบบครบวงจร ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาเว็บไซต์สำหรับธุรกิจหลากหลายประเภท เราเข้าใจความต้องการเฉพาะของแต่ละธุรกิจและสามารถสร้างเว็บไซต์ที่ตอบโจทย์ได้อย่างตรงจุด
บริการของเราครอบคลุมตั้งแต่:
- การออกแบบ UI/UX ที่ทันสมัยและใช้งานง่าย
- การพัฒนาเว็บไซต์ที่รองรับทุกอุปกรณ์ (Responsive)
- การทำ SEO และ SEM เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับสูงในผลการค้นหา
- การพัฒนาระบบ e-commerce สำหรับร้านค้าออนไลน์
- การวิเคราะห์และปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์
ด้วยบริการของ CIPHER คุณจะได้เว็บไซต์ที่ไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ยังมีประสิทธิภาพในการดึงดูดลูกค้าและสร้างรายได้ให้กับธุรกิจของคุณ
สรุป
การสร้างเว็บไซต์เองในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยเครื่องมือต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมาย คุณสามารถมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่การเขียนเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้จริงอาจต้องการความเชี่ยวชาญมากกว่านั้น ไม่ว่าคุณจะเลือกสร้างเว็บไซต์เองหรือใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญ สิ่งสำคัญ คือ การมีเว็บไซต์ที่สะท้อนอัตลักษณ์ของแบรนด์และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
หากคุณกำลังมองหาเว็บไซต์คุณภาพสูงที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโต CIPHER พร้อมให้คำปรึกษาและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ ติดต่อเราวันนี้เพื่อปลดล็อกศักยภาพของธุรกิจคุณในโลกออนไลน์!
คำถามที่พบบ่อย
การสร้างเว็บไซต์เองมีค่าใช้จ่ายเท่าไร?
การทำเว็บไซต์ด้วยตัวเองมีค่าใช้จ่ายที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณเลือก โดยทั่วไปมีค่าใช้จ่ายหลัก 2 ส่วน คือ ค่าโดเมนประมาณ 300-1,500 บาทต่อปี และค่าโฮสติ้งประมาณ 1,200-6,000 บาทต่อปี หากใช้ Website Builder อย่าง Wix หรือ Squarespace มีค่าใช้จ่ายประมาณ 2,400-12,000 บาทต่อปี ส่วนการเขียนเว็บไซต์บน WordPress มีทั้งต้นทุนพื้นฐานและค่าธีมหรือปลั๊กอินเพิ่มเติม



