คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ChatGPT กลายเป็นเครื่องมือยอดฮิตที่หลายคนพูดถึงในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในวงการการตลาดออนไลน์ แต่หลายคนอาจสงสัยว่า “ใช้ ChatGPT ทำ SEO ได้จริงไหม?” หรือจะช่วยให้การเขียนบทความ SEO ง่ายขึ้นได้อย่างไร วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยนี้พร้อมแนะนำวิธีทำ SEO Google ด้วย ChatGPT แบบมือโปรกัน!
Table of Contents
ChatGPT คืออะไร? ทำไมถึงเป็นที่นิยมในวงการเขียนบทความ SEO
ChatGPT คือ ระบบ AI ที่พัฒนาโดย OpenAI ซึ่งสามารถโต้ตอบกับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เสมือนการคุยกับคนจริง ๆ โดยใช้เทคโนโลยี GPT (Generative Pre-trained Transformer) ที่ถูกฝึกฝนด้วยข้อมูลมหาศาล
ChatGPT ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและทำลายสถิติผู้ใช้งาน 100 ล้านคนภายในเวลาเพียง 2 เดือนหลังเปิดตัว! ปัจจุบันมีทั้งเวอร์ชัน GPT-3.5 (ฟรี) และ GPT-4 (เสียเงิน) โดยข้อมูลล่าสุดของ GPT-3.5 จะถึงแค่ปี 2021 ส่วน GPT-4 จะมีข้อมูลถึงเมษายน 2023
นักการตลาดดิจิทัลเริ่มนำ ChatGPT มาประยุกต์ใช้กับการเขียน SEO เพราะความสามารถในการสร้างบทความคุณภาพ วิเคราะห์คีย์เวิร์ด และช่วยให้วิธีทำ SEO Google มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยทำให้เว็บขึ้น Google ได้
ChatGPT ทำ SEO ได้จริงไหม? ช่วยการเขียน SEO อย่างไร?
คำตอบ คือ “ได้” แต่ต้องใช้อย่างถูกวิธีในการเขียนบทความ SEO!
Google ได้ประกาศชัดเจนว่าไม่ได้ห้ามการใช้ AI สร้างบทความ ตราบใดที่เนื้อหานั้นมีคุณภาพและไม่เป็นการสแปม แต่แนะนำให้ใช้ AI เป็นเพียง “ผู้ช่วย” ไม่ใช่เครื่องมือหลักในการสร้างเนื้อหาทั้งหมด
เราสามารถใช้ ChatGPT ช่วยงาน SEO และทำให้เว็บขึ้น Google ได้หลายด้าน เช่น:
- คิด Topic และหัวข้อบทความที่น่าสนใจสำหรับการเขียน SEO
- ช่วยสร้างบทความ SEO คุณภาพที่ติดอันดับ Google
- แนะนำ longtail keyword ที่มีโอกาสติดอันดับสูง
- เขียน Title Tags และ Meta Description
- ตรวจไวยากรณ์และภาษา
- ค้นหาเว็บไซต์ที่เหมาะสำหรับทำ Backlinks
ChatGPT เหมาะกับใคร? Persona ที่จะได้ประโยชน์จากการใช้ ChatGPT ทำ SEO
1. นักการตลาดดิจิทัลที่มีงานล้นมือ
ลักษณะ: เป็นนักการตลาดที่ต้องดูแลหลายแพลตฟอร์ม ทั้ง SEO, โซเชียลมีเดีย, อีเมล และโฆษณาออนไลน์
ความท้าทาย: มีเวลาจำกัดในการสร้างเนื้อหาคุณภาพจำนวนมาก
วิธีที่ ChatGPT ช่วยได้: เร่งกระบวนการระดมความคิด ช่วยร่างเนื้อหาเบื้องต้น และสร้างแผนเนื้อหาที่ครอบคลุม ทำให้ประหยัดเวลาได้มากกว่า 40%
2. เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องทำหลายบทบาท
ลักษณะ: เจ้าของกิจการที่ต้องรับผิดชอบทั้งการบริหาร ขาย และการตลาดด้วยตัวเอง
ความท้าทาย: ขาดความรู้เชิงลึกด้าน SEO และไม่มีงบประมาณจ้างผู้เชี่ยวชาญ
วิธีที่ ChatGPT ช่วยได้: เป็นผู้ช่วยที่ประหยัดค่าใช้จ่าย ให้คำแนะนำด้าน SEO พื้นฐาน และช่วยสร้างเนื้อหาที่เน้นคีย์เวิร์ดได้แม้ไม่มีประสบการณ์มาก่อน
3. นักเขียนคอนเทนต์ที่ต้องการเพิ่มทักษะด้าน SEO
ลักษณะ: นักเขียนที่มีทักษะด้านการสร้างเนื้อหา แต่ต้องการเพิ่มความรู้ด้าน SEO
ความท้าทาย: การเขียนที่ทั้งน่าอ่านและเป็นมิตรกับ SEO ในเวลาเดียวกัน
วิธีที่ ChatGPT ช่วยได้: แนะนำวิธีใช้คีย์เวิร์ดอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยปรับโครงสร้างเนื้อหาให้เหมาะกับ SEO และเสนอแนะการปรับปรุงบทความให้ติดอันดับดีขึ้น
4. ผู้เชี่ยวชาญ SEO ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ
ลักษณะ: นัก SEO มืออาชีพที่ต้องการเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ความท้าทาย: ต้องวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากและสร้างกลยุทธ์เนื้อหาที่ซับซ้อน
วิธีที่ ChatGPT ช่วยได้: ช่วยวิเคราะห์คู่แข่ง แนะนำโครงสร้าง Topic Cluster และสร้าง Schema Markup อย่างรวดเร็ว ทำให้มีเวลาโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น
5. บล็อกเกอร์หรือ Influencer ที่ต้องการขยายฐานผู้ชม
ลักษณะ: ผู้สร้างคอนเทนต์ออนไลน์ที่ต้องการเพิ่มการเข้าถึงผ่านการค้นหาออนไลน์
ความท้าทาย: การสร้างเนื้อหาใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอที่ตรงกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายค้นหา
วิธีที่ ChatGPT ช่วยได้: ค้นหาเทรนด์ล่าสุด แนะนำหัวข้อที่กำลังได้รับความนิยม และช่วยปรับแต่งเนื้อหาเก่าให้ทันสมัยเพื่อจัดอันดับใหม่บน Google
10 วิธีใช้ ChatGPT ทำ SEO แบบมือโปรให้เว็บติดหน้าแรก Google (พร้อม Prompt ตัวอย่าง)
1. ค้นหา Long-tail Keywords ที่มีโอกาสติดอันดับสูงใน Google
Long-tail Keywords คือคำค้นหาที่ยาวและเฉพาะเจาะจง ซึ่งมักมีการแข่งขันน้อยกว่าคีย์เวิร์ดทั่วไป ทำให้มีโอกาสติดอันดับสูงกว่าและช่วยทำให้เว็บขึ้น Google ได้ง่ายขึ้น การใช้เครื่องมืออย่าง Ahrefs จะช่วยให้คุณค้นพบ longtail keywords ที่มีศักยภาพได้ ลองใช้ Prompt นี้:
สร้างตาราง longtail keyword 10 คำ สำหรับ [ธุรกิจของคุณ] ตั้งชื่อคอลัมน์แรกเป็น ‘longtail keyword’ ตั้งชื่อคอลัมน์ที่สองเป็น ‘Search intent’
ตัวอย่างเช่น: “สร้างตาราง longtail keyword 10 คำ สำหรับ กล้องวงจรปิด ตั้งชื่อคอลัมน์แรกเป็น ‘longtail keyword’ ตั้งชื่อคอลัมน์ที่สองเป็น ‘Search intent'”
2. คิดชื่อเรื่องบทความที่ดึงดูดคนอ่านและติดอันดับ Google
ชื่อเรื่องบทความมีความสำคัญมากต่อ CTR (Click-Through Rate) และอันดับใน Google การเขียนบทความ SEO ที่ดีต้องเริ่มจากชื่อเรื่องที่น่าสนใจ ลองใช้ Prompt เหล่านี้:
ช่วยคิดชื่อเรื่องบทความเกี่ยวกับ ‘[หัวข้อ]’ ที่ดึงดูดความสนใจของผู้อ่านและทำให้บทความดูน่าสนใจ ขอ 10 ตัวอย่าง หรือเจาะจงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น:
แนะนำชื่อเรื่องบทความเกี่ยวกับ ‘[หัวข้อ]’ ที่เน้นการให้คำแนะนำแก่ผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยี
3. เพิ่มพลังให้ Title ด้วยคำที่กระตุ้นการคลิก
Power Words คือคำที่กระตุ้นอารมณ์และเพิ่มโอกาสให้คนคลิกอ่านบทความของคุณ ลองใช้ Prompt นี้:
ช่วยคิด Power word กระตุ้นคนอยากคลิกเข้าไปอ่านบทความ สำหรับกลุ่มธุรกิจ[ประเภทธุรกิจ] ที่เป็นภาษาไทย มา 50 คำ
นอกจากนี้ คุณสามารถขอคำที่บ่งบอกถึงประโยชน์หรือผลลัพธ์ที่ลูกค้าจะได้รับ:
ช่วยคิดคำที่บ่งบอกถึง “ประโยชน์” ที่ลูกค้าจะได้รับในกลุ่มธุรกิจ[ประเภทธุรกิจ] 50 คำ
4. วางแผนเนื้อหาด้วย Blog Topic Ideas พร้อม Search Intent สำหรับการเขียน SEO
การเข้าใจ Search Intent (เจตนาการค้นหา) ช่วยให้คุณสร้างบทความที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้และเพิ่มโอกาสในการทำให้เว็บขึ้น Google ได้ดียิ่งขึ้น ลองใช้ Prompt นี้:
สมมุติว่าคุณเป็นนักการตลาดด้าน[อุตสาหกรรม] ช่วยหาไอเดียการทำบทความเกี่ยวกับ “[หัวข้อ]” ให้แสดงผลเป็นตารางด้วยคอลัมน์เหล่านี้: Blog Title, Search Intent, Meta Description คอลัมน์ Blog Title ประกอบด้วยชื่อของบล็อก คอลัมน์ Search Intent ประกอบด้วยเจตนาของผู้ใช้เมื่อค้นหาข้อมูล แนะนํา Meta Description สําหรับคอลัมน์ Meta Description ทําให้เนื้อหามีประโยชน์ กระชับ และมีส่วนร่วม จํากัดผลงานของคุณไว้ที่ 10 ชื่อบทความเท่านั้น
5. ค้นหาคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ
การตอบคำถามที่คนมักค้นหาเกี่ยวกับธุรกิจของคุณช่วยเพิ่มโอกาสติดอันดับในส่วน “People Also Ask” บน Google ลองใช้ Prompt นี้:
สร้าง 10 คำถามที่คิดว่าผู้คนอยากรู้เกี่ยวกับ “[สินค้าหรือบริการของคุณ]”
6. สร้าง Keyword Cluster เพื่อความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและทำให้เว็บขึ้น Google
Keyword Cluster คือกลุ่มคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกัน การสร้างบทความที่ครอบคลุม Keyword Cluster ช่วยให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ ซึ่งเป็นเทคนิคสำคัญในวิธีทำ SEO Google ให้ประสบความสำเร็จ ลองใช้ Prompt นี้:
ช่วยคิด keyword cluster เกี่ยวกับ[ธุรกิจหรือบริการของคุณ]
7. สร้างโครงร่างเนื้อหาและบทสรุปที่ครอบคลุมสำหรับการเขียนบทความ SEO
การมีโครงร่างเนื้อหาที่ดีช่วยให้คุณเขียนบทความ SEO ได้ครอบคลุมและตรงประเด็น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยทำให้เว็บขึ้น Google ได้ ลองใช้ Prompt นี้:
สร้างโครงร่างเนื้อหาสําหรับบทความเรื่อง “[หัวข้อบทความ]”
8. หาลิงก์ภายในเว็บเพื่อเชื่อมโยงเนื้อหา
การเชื่อมโยงเนื้อหาภายในเว็บไซต์ช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์คุณและช่วยให้ผู้อ่านค้นพบเนื้อหาอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ลองใช้ Prompt นี้:
ฉันกำลังเขียนบทความเรื่อง [หัวข้อ] คุณช่วยแนะนำลิงก์ภายในที่เกี่ยวข้องในเว็บ [URL ของเว็บคุณ] ได้ไหม
9. ค้นหา Knowledge Gaps เพื่อสร้างเนื้อหาที่แตกต่าง
Knowledge Gaps คือ ช่องว่างขององค์ความรู้ที่ยังไม่มีใครพูดถึงมากนัก การสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์ Knowledge Gaps ช่วยให้คุณมีเนื้อหาที่แตกต่างและมีคุณค่า ทำให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติดอันดับบน Google ได้ดีขึ้น ลองใช้ Prompt นี้:
ช่วยค้นหา Knowledge Gaps ในกลุ่มธุรกิจ[ประเภทธุรกิจ] ให้หน่อย
10. หาแหล่ง Backlinks คุณภาพสูง
Backlinks คือลิงก์จากเว็บอื่นที่ชี้มายังเว็บของคุณ ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในสายตา Google ลองใช้ Prompt นี้:
ช่วยแนะนำวิธีหา Backlink คุณภาพสูงสำหรับเว็บไซต์ธุรกิจในกลุ่ม[ประเภทธุรกิจ] พร้อมตัวอย่างเว็บไซต์ที่สามารถขอ Backlink ได้
วิธีใช้ ChatGPT เขียนบทความ SEO แบบเซียนตัวจริงให้ติดอันดับ Google
1. ทำ Keyword Research ก่อนเสมอ
2. ใช้ ChatGPT คิดชื่อบทความที่น่าสนใจสำหรับการเขียน SEO
นำคีย์เวิร์ดที่ได้มาให้ ChatGPT ช่วยคิดชื่อเรื่องที่ดึงดูดความสนใจและมีคีย์เวิร์ดอยู่ในนั้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำให้เว็บขึ้น Google เช่น:
ช่วยคิดชื่อเรื่องบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับ [คีย์เวิร์ด] จำนวน 5 ชื่อเรื่อง
3. สร้างโครงร่างบทความด้วย ChatGPT ตามหลักการเขียน SEO
ให้ ChatGPT ช่วยสร้างโครงร่างบทความที่ครอบคลุมประเด็นสำคัญและเหมาะกับวิธีทำ SEO Google:
สร้างโครงร่างบทความละเอียดเรื่อง “[ชื่อบทความ]” พร้อมหัวข้อหลักและหัวข้อย่อย
4. พัฒนาเนื้อหาในแต่ละหัวข้อเพื่อสร้างบทความ SEO คุณภาพ
ใช้ ChatGPT เขียนเนื้อหาในแต่ละหัวข้อโดยใช้ longtail keyword อย่างเป็นธรรมชาติ:
เขียนเนื้อหาสำหรับหัวข้อ “[หัวข้อย่อย]” ในบทความเรื่อง “[ชื่อบทความ]” ให้มีความยาวประมาณ 3 ย่อหน้า
5. ตรวจสอบและปรับแต่งเนื้อหาตามหลักการเขียน SEO
การใช้เครื่องมือเสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ChatGPT ในการเขียนบทความ SEO
นอกจาก ChatGPT แบบพื้นฐานแล้ว คุณยังสามารถใช้เครื่องมือเสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในวิธีทำ SEO Google ได้ เช่น AIPRM for ChatGPT ซึ่งเป็น Chrome Extension ที่ช่วยให้การใช้ ChatGPT ทำ SEO และการเขียนบทความ SEO ง่ายขึ้น
AIPRM มีเครื่องมือที่ช่วยในการทำ SEO และการเขียน SEO หลายอย่าง เช่น:
- Topical Authority: ช่วยคิดไอเดียและชื่อเรื่องบทความ
- SEO Optimized Content Outlines: สร้างโครงร่างเนื้อหาที่เหมาะกับการเขียนบทความ SEO
- Paragraph SEO: ช่วยสร้างบทความที่ตรงประเด็นและมีคีย์เวิร์ดในตำแหน่งที่เหมาะสม
วิธีติดตั้ง AIPRM ทำได้ง่าย ๆ เพียงติดตั้ง Chrome Extension แล้วไปที่ chat.openai.com และล็อกอินเข้าใช้งาน
บริการ SEO ครบวงจรจาก CIPHER ช่วยทำให้เว็บขึ้น Google ด้วยพลัง AI
AI-Powered SEO Audit
AI-Enhanced Content Creation สำหรับการเขียนบทความ SEO
Keyword Research ด้วย AI สำหรับ Longtail Keywords
AI-Driven Link Building
SEO Analytics & Reporting
สรุป
ChatGPT เป็นเครื่องมือทรงพลังสำหรับงาน SEO แต่ต้องใช้อย่างมีกลยุทธ์ ควรใช้เป็นผู้ช่วยในการเขียนบทความ SEO ไม่ใช่เครื่องมือหลัก เน้นตรวจสอบเนื้อหาและปรับแต่งให้มีเอกลักษณ์เสมอ
ให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าปริมาณ ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง และทำตาม Guidelines ของ Google ที่เน้นเนื้อหามีคุณค่าต่อผู้อ่าน ไม่ใช่แค่การยัดเยียดคีย์เวิร์ด
CIPHER พร้อมเพิ่มยอดขายด้วย AI SEO และช่วยให้เว็บคุณขึ้นหน้าแรก Google ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญการตลาดดิจิทัล ติดต่อเราที่ 081-633-3636 วันนี้!
คำถามที่พบบ่อย
มือใหม่ทำ SEO ควรทำอย่างไรบ้าง?
วิธีการทำ SEO ให้ติดหน้าแรก Google
- กำหนดกลุ่มเป้าหมายและเนื้อหาที่จะโฟกัสให้ชัดเจน เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ตรงความต้องการ
- ทำ Keyword Research และวางแผนการใช้คีย์เวิร์ดบนเว็บไซต์อย่างเป็นระบบ ใช้ทั้งคีย์หลักและ longtail keywords
- วางโครงสร้างเว็บไซต์หรือ Site Structure ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้และเครื่องมือค้นหา พร้อมวางแผนเนื้อหาที่ครอบคลุม
- สร้างคอนเทนต์คุณภาพสูงที่ให้คุณค่าแก่ผู้อ่าน มีความลึกและกว้างเพียงพอที่จะตอบโจทย์ความต้องการ
- ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้บนเว็บไซต์ (Website UX) ให้เว็บโหลดเร็ว ใช้งานง่าย และเป็นมิตรกับมือถือ
ทำ SEO คืออะไร?
SEO กับ SEM ต่างกันอย่างไร?
เขียนบทความอย่างไรให้ติด SEO?
- ทุกบทความต้องมีคีย์เวิร์ดหลักที่ชัดเจน และตรงกับสิ่งที่ผู้คนค้นหาจริง
- ใส่คีย์เวิร์ดในตำแหน่งสำคัญ เช่น หัวข้อ URL ย่อหน้าแรก และหัวข้อย่อย เพื่อให้ Google เข้าใจเนื้อหาของคุณ
- กระจายคีย์เวิร์ดอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ยัดเยียดจนเกินไป ใช้คำที่เกี่ยวข้องและ synonyms เพื่อเสริมความเข้าใจ
- สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง ให้ข้อมูลครบถ้วน ลึกซึ้ง และตอบโจทย์ผู้อ่าน นี่คือหัวใจสำคัญของการทำ SEO ในปัจจุบัน
- อัปเดตบทความเก่าและสร้างเนื้อหาใหม่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ Google เห็นว่าเว็บไซต์ของคุณยังคงให้ข้อมูลที่ทันสมัย