HubSpot Website Builder: การสร้างเว็บไซต์ง่าย ๆ ด้วย HubSpot

HubSpot Website Builder

การมีเว็บไซต์ เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจเก็บข้อมูลลูกค้า สร้างยอดขาย และทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลายคนอาจคิดว่าการสร้างเว็บที่ดีต้องมีความรู้ด้านเทคนิค หรือต้องจ้างนักพัฒนามาดูแล แต่ถ้าคุณใช้ HubSpot Website Builder ทุกอย่างก็ง่ายขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ การปรับแต่ง หรือแม้แต่การเชื่อมต่อกับระบบ CRM เพื่อติดตามลูกค้า

วันนี้ CIPHER จะพาคุณมาทำความรู้จักกับ HubSpot Website Builder ว่าทำไมเครื่องมือนี้ถึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจที่ต้องการเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย แต่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมเชื่อมต่อกับระบบการตลาดและการขายได้อย่างลงตัว

Table of Contents

ทำความรู้จักการสร้างเว็บไซต์ HubSpot Website Builder

HubSpot Website Builder

HubSpot Website Builder คือ เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่อยู่บนแพลตฟอร์ม HubSpot CMS Hub ซึ่งออกแบบมาให้ใช้งานง่ายด้วยระบบลาก-วาง (Drag-and-Drop) คุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด แต่ก็สามารถสร้างเว็บไซต์ได้ง่าย ๆ ที่สำคัญคือ Website HubSpot ถูกพัฒนามาเพื่อทำงานร่วมกับ HubSpot CRM ได้อย่างลงตัว ทำให้ทุกข้อมูลของผู้เข้าชมเว็บไซต์ถูกบันทึกเข้าระบบอัตโนมัติ ช่วยให้ทีมการตลาดและทีมขายสามารถติดตามและดูแลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฟีเจอร์สำคัญของ HubSpot ที่ช่วยให้ทำเว็บได้ง่ายขึ้น

HubSpot Website Builder
เมื่อพูดถึง HubSpot Website Builder สิ่งที่ทำให้มันโดดเด่นคือฟีเจอร์ที่ครบครันและใช้งานง่าย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ การจัดการคอนเทนต์ หรือการเชื่อมต่อกับระบบต่าง ๆ โดยมีฟีเจอร์สำคัญที่จะช่วยให้การสร้าง HubSpot Website ของคุณเป็นเรื่องง่าย

ตัวแก้ไขแบบ Drag-and-Drop

จุดเด่นหลักของ HubSpot Website Builder คือ คุณสามารถสร้างหน้าเว็บได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดสักบรรทัด เพียงแค่ลากองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น บล็อกข้อความ รูปภาพ วิดีโอ ปุ่ม CTA หรือฟอร์มกรอกข้อมูล มาวางในตำแหน่งที่ต้องการ ระบบจะจัดการเรื่อง Responsive Design ให้อัตโนมัติ ทำให้เว็บของคุณแสดงผลสวยงามทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือ เหมาะมากสำหรับทีมการตลาดที่ต้องการอัปเดตเนื้อหาเองได้ทันที

ธีมและเทมเพลตพร้อมใช้งาน

HubSpot มีธีมและเทมเพลตสำเร็จรูปคุณภาพสูงให้เลือกใช้มากมาย ครอบคลุมทุกประเภทธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ B2B, SaaS, การศึกษา, หรือบริการต่าง ๆ ธีมเหล่านี้ออกแบบมาอย่างมืออาชีพ และสามารถปรับแต่งได้ง่ายตามสไตล์แบรนด์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นสี ฟอนต์ หรือโครงสร้างหน้าเว็บ คุณจึงสามารถเริ่มต้นสร้างเว็บได้เร็วและมีความสวยงามตั้งแต่วันแรก

ระบบบล็อกสำหรับทำคอนเทนต์

HubSpot Website Builder มาพร้อมกับระบบบล็อกที่ใช้งานง่าย ให้คุณสร้างและจัดการบทความได้อย่างสะดวก รองรับการติด Tag, จัดการผู้เขียน และระบบคอมเมนต์ คุณยังสามารถตั้งค่าอีเมลแจ้งเตือนไปยังผู้ติดตามเมื่อมีบทความใหม่ได้อีกด้วย ทำให้การสร้างคอนเทนต์เพื่อดึงดูดลูกค้าเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพ

เครื่องมือ SEO ในตัว

Website HubSpot มีเครื่องมือ SEO ในตัว ระบบจะวิเคราะห์และให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับการปรับปรุง SEO ของแต่ละหน้า เช่น การเพิ่ม Meta Title, Meta Description, การใช้ Header ที่ถูกต้อง การทำ Internal Linking และการเช็กความเร็วของหน้าเว็บ คุณจึงมั่นใจได้ว่าเว็บไซต์ของคุณไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังถูกออกแบบมาให้ติดอันดับบน Google ได้ดีอีกด้วย

การเชื่อมต่อกับ CRM แบบอัตโนมัติ

HubSpot Website Builder เมื่อผู้เข้าชมกรอกฟอร์มบนเว็บไซต์ของคุณ ข้อมูลของพวกเขาจะถูกส่งเข้า HubSpot CRM โดยอัตโนมัติทันที คุณสามารถติดตามว่าลูกค้าแต่ละคนเข้าชมหน้าไหนบ้าง อ่านคอนเทนต์อะไร และกลับมาเว็บกี่ครั้ง ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ทีมขายและทีมการตลาดของคุณสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์ด้วย HubSpot

การเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์กับ HubSpot Website Builder ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด ด้วยระบบที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย คุณสามารถมีเว็บไซต์ที่พร้อมใช้งานได้ภายในเวลาไม่กี่วัน ลองมาดูขั้นตอนหลัก ๆ กัน

เลือกธีมที่ต้องการ

ขั้นตอนแรกคือการเลือกธีมหรือเทมเพลตที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ HubSpot มีธีมให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบฟรีและแบบพรีเมียม หรือหากคุณต้องการความพิเศษเฉพาะตัว คุณสามารถให้ทีมงานมืออาชีพอย่าง CIPHER ช่วยออกแบบและพัฒนาธีมที่เหมาะกับแบรนด์ของคุณได้ การเลือกธีมที่ดีจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการสร้างหน้าเว็บและทำให้เว็บไซต์มีความสอดคล้องกันทุกหน้า

ปรับแต่งหน้าเว็บด้วย Editor

หลังจากเลือกธีมแล้ว คุณสามารถเข้าไปใช้งาน Content Editor ซึ่งเป็นตัวแก้ไขแบบ Drag-and-Drop ที่ใช้งานง่ายมาก ๆ คุณสามารถปรับเปลี่ยนสี ฟอนต์ โครงสร้างหน้าเว็บ และองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ตามต้องการ โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดเลย ระบบจะแสดงผลแบบเรียลไทม์ ทำให้คุณเห็นภาพของเว็บไซต์ขณะทำงานได้ชัดเจน

เพิ่มรูป ข้อความ ปุ่ม และฟอร์มต่าง ๆ

เมื่อโครงสร้างพื้นฐานเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาเพิ่มเนื้อหาและองค์ประกอบต่าง ๆ เข้าไปในหน้าเว็บ ไม่ว่าจะเป็นการอัปโหลดรูปภาพจาก File Manager ของ HubSpot การเขียนข้อความและจัดรูปแบบ การใส่ปุ่ม Call-to-Action เพื่อกระตุ้นให้ผู้เข้าชมทำการสมัครหรือติดต่อ และที่สำคัญคือการเพิ่มฟอร์มเพื่อเก็บข้อมูลลูกค้า ซึ่งจะเชื่อมต่อเข้า HubSpot CRM โดยอัตโนมัติ

ตั้งค่าบล็อกหรือสร้าง Landing Page

หากคุณต้องการทำ Content Marketing HubSpot Website Builder ช่วยให้คุณสร้างและจัดการบล็อกได้ง่าย ๆ คุณสามารถตั้งค่าบล็อกใหม่ เพิ่มหมวดหมู่ จัดการผู้เขียน และตั้งค่าอีเมล Subscription ได้ นอกจากนี้ยังสามารถสร้าง Landing Page สำหรับแคมเปญการตลาดต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ การจัดอีเวนต์ หรือการทำโปรโมชัน

เชื่อมต่อโดเมนและเผยแพร่เว็บไซต์

เมื่อเว็บไซต์พร้อมแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการเชื่อมต่อโดเมนของคุณเข้ากับ HubSpot โดยคุณต้องอัปเดต DNS Records ในผู้ให้บริการโดเมนของคุณ HubSpot จะมีคู่มือแนะนำทีละขั้นตอนอย่างละเอียด และเมื่อเชื่อมต่อเสร็จ ระบบจะติดตั้ง SSL Certificate ให้อัตโนมัติ ทำให้เว็บไซต์ของคุณปลอดภัยและพร้อมเผยแพร่ทันที

ข้อดีของการใช้ HubSpot Website Builder

การเลือกใช้ HubSpot Website Builder มาสร้างเว็บไซต์นั้นมีข้อดีมากมายที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีข้อดีดังนี้

ใช้งานง่าย ไม่ต้องเขียนโค้ด

สำหรับหลาย ๆ ธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง การมีนักพัฒนาประจำอาจเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่า HubSpot Website Builder ช่วยแก้ปัญหานี้ได้ ด้วยระบบ Drag-and-Drop ที่ใช้งานง่ายมาก ทีมการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจสามารถสร้างและอัปเดตเนื้อหาเว็บไซต์ได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องรอนักพัฒนา ช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย แถมยังได้ควบคุมเนื้อหาได้อย่างเต็มที่

ทำงานร่วมกับ CRM ได้ทันที

การที่ HubSpot Website เชื่อมต่อกับระบบ CRM ของ HubSpot ทำให้ทุกข้อมูลของลูกค้าถูกจัดเก็บในที่เดียว คุณสามารถติดตามการเดินทางของลูกค้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าเว็บ ไปจนถึงการซื้อสินค้าหรือบริการ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์พฤติกรรม ปรับกลยุทธ์การตลาด และดูแลลูกค้าได้อย่างตรงจุด ซึ่งเป็นสิ่งที่แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ทั่วไปอย่าง WordPress หรือ Wix ไม่สามารถทำได้

รองรับเว็บ บล็อก และ Landing Page

ด้วย HubSpot Website Builder คุณไม่ได้แค่สร้างเว็บไซต์หลักเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างบล็อกเพื่อทำ Content Marketing และ Landing Page สำหรับแคมเปญต่าง ๆ ได้อีกด้วย ทุกอย่างอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกัน ใช้ธีมและสไตล์เดียวกัน ทำให้ง่ายต่อการจัดการและรักษาความสอดคล้องของแบรนด์ คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการหลาย ๆ เครื่องมือหรือแพลตฟอร์มที่แยกกัน

เหมาะสำหรับทีมที่ต้องการทำเว็บและการตลาดในระบบเดียว

หนึ่งในข้อดีที่สำคัญของ HubSpot คือ การที่มันรวมเครื่องมือการตลาดและการขายไว้ในที่เดียว เมื่อคุณใช้ HubSpot Website Builder ร่วมกับ HubSpot Marketing Hub คุณสามารถทำ Email Marketing, Marketing Automation, Social Media Management, และ Ads Tracking ได้ทั้งหมดในแพลตฟอร์มเดียว ไม่ต้องเสียเวลาในการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องมือต่าง ๆ ทำให้ทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

HubSpot Website Builder เหมาะกับใคร?

ถึงแม้ HubSpot Website Builder จะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเหมาะกับทุกคน มาดูกันว่ากลุ่มเป้าหมายไหนบ้างที่จะได้ประโยชน์สูงสุดจากเครื่องมือนี้

  • ธุรกิจที่ต้องการทำเว็บพร้อมเก็บข้อมูลลูกค้า – หากธุรกิจของคุณต้องการมากกว่าแค่เว็บไซต์ที่สวยงาม แต่ต้องการเครื่องมือที่ช่วยเก็บข้อมูลลูกค้า ติดตามพฤติกรรม และนำไปสู่การปิดการขาย HubSpot Website Builder คือคำตอบที่ลงตัว เพราะเชื่อมต่อกับ CRM โดยตรง
  • ทีมการตลาดที่ต้องการดูแลเว็บด้วยตัวเอง – สำหรับทีมการตลาดที่ต้องการความคล่องตัวในการอัปเดตเนื้อหา ทำแคมเปญ หรือสร้าง Landing Page ใหม่ ๆ อยู่เสมอ การมีเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและไม่ต้องพึ่งนักพัฒนาจะช่วยประหยัดเวลาได้มากยิ่งขึ้น
  • ผู้เริ่มต้นที่อยากมีเว็บไซต์แบบง่ายและรวดเร็ว – หากคุณเพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจและต้องการเว็บไซต์ที่มีคุณภาพแต่ไม่ซับซ้อน HubSpot Website Builder เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมีเทมเพลตสำเร็จรูปให้เลือกมากมาย และสามารถเริ่มต้นได้เร็ว ไม่ต้องลงทุนมากในช่วงแรก

ความแตกต่างระหว่าง HubSpot Website Builder กับแพลตฟอร์มอื่น ๆ

เมื่อพูดถึงการสร้างเว็บไซต์ หลายคนอาจนึกถึง WordPress, Wix หรือ Squarespace แต่ HubSpot Website Builder มีจุดแตกต่างที่สำคัญ นั่นคือการผสานการทำงานกับ CRM และเครื่องมือการตลาดแบบครบวงจร ในขณะที่ WordPress ต้องติดตั้งปลั๊กอินจำนวนมากเพื่อให้ได้ฟีเจอร์ครบ และยังมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากปลั๊กอินของบุคคลที่สาม 

Website HubSpot มาพร้อมกับ Hosting ที่เสถียร SSL อัตโนมัติ CDN ทั่วโลก และระบบ Security ระดับ Enterprise ในตัว ส่วน Wix แม้จะใช้งานง่าย แต่ขาดการเชื่อมต่อกับ CRM และเครื่องมือการตลาดขั้นสูง ทำให้ HubSpot เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างจริงจัง

การใช้ Breeze AI ช่วยสร้างคอนเทนต์เว็บไซต์

หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ HubSpot Website Builder คือ การรองรับ Breeze AI ซึ่งเป็น AI Assistant ของ HubSpot ที่ช่วยให้คุณสร้างคอนเทนต์ได้เร็วขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบทความบล็อก Landing Page หรือแม้แต่การสร้างรูปภาพสำหรับใช้ในเว็บไซต์ คุณเพียงแค่ให้ prompt หรือคำแนะนำที่ชัดเจน Breeze AI จะช่วยสร้างเนื้อหาเบื้องต้นให้ คุณสามารถนำไปปรับแต่งต่อได้ตามต้องการ ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างมาก

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Content Remix ที่ช่วยให้คุณนำคอนเทนต์ที่มีอยู่มาปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ ๆ ได้ง่าย ๆ เช่น จากบล็อกเป็นโซเชียลมีเดียโพสต์ หรือจากเว็บเพจเป็นอีเมล

การทำ A/B Testing และ Smart Content

เมื่อคุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ การทดสอบและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ HubSpot Website Builder มีเครื่องมือ A/B Testing ในตัวที่ช่วยให้คุณสามารถทดสอบหน้าเว็บหลาย ๆ เวอร์ชันได้ เพื่อดูว่าเวอร์ชันไหนได้ผลดีกว่ากัน

นอกจากนี้ยังมี Adaptive Testing ที่ใช้ Machine Learning ช่วยเลือกเวอร์ชันที่ดีที่สุดให้อัตโนมัติ และที่สำคัญคือ Smart Content ซึ่งช่วยให้คุณแสดงเนื้อหาที่แตกต่างกันไปตามกลุ่มผู้ชม เช่น ลูกค้าใหม่จะเห็นข้อความหนึ่ง แต่ลูกค้าเก่าจะเห็นอีกข้อความหนึ่ง การปรับแต่งประสบการณ์ผู้ใช้แบบนี้ช่วยเพิ่ม Conversion Rate ได้อย่างมีนัยสำคัญ

การวัดผลและ Analytics

การมีเว็บไซต์ที่ดีไม่ใช่แค่เรื่องของการออกแบบที่สวย แต่ต้องวัดผลได้ด้วย HubSpot Website Builder มาพร้อมกับเครื่องมือ Traffic Analytics ที่ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของผู้เข้าชมเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม แหล่งที่มาของ Traffic หน้าเว็บที่ได้รับความนิยมสูงสุด และพฤติกรรมของผู้เข้าชม

นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับ Google Analytics ได้ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้าได้ดีขึ้น และปรับกลยุทธ์การตลาดให้ตรงจุดมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อรวมกับข้อมูลจาก HubSpot CRM คุณจะได้ภาพรวมที่สมบูรณ์ตั้งแต่การเข้าชมเว็บไซต์จนถึงการปิดการขาย

การทำ SEO และ Topic Cluster

การทำให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของหลาย ๆ ธุรกิจ HubSpot Website Builder มีเครื่องมือ SEO ที่ช่วยให้คุณทำ SEO ได้อย่างเป็นระบบ นอกจาก SEO Recommendations แบบเรียลไทม์แล้ว HubSpot ยังมีฟีเจอร์ Topic Cluster ที่ช่วยให้คุณวางแผนกลยุทธ์ SEO แบบ Content Cluster ได้ คุณสามารถสร้าง Pillar Page ที่เป็นหน้าหลักของหัวข้อใหญ่ ๆ แล้วเชื่อมโยงกับ Cluster Content ที่เป็นบทความย่อย ๆ ที่เกี่ยวข้อง วิธีนี้ช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างเนื้อหาของคุณได้ดีขึ้น และช่วยเพิ่มโอกาสในการติดอันดับคำค้นหาที่เกี่ยวข้อง

ความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

ในยุคที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความปลอดภัยของเว็บไซต์เป็นเรื่องที่ไม่สามารถมองข้ามได้ HubSpot Website Builder ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก ด้วย Hosting ที่มีเสถียรภาพสูง SSL Certificate ที่ติดตั้งอัตโนมัติฟรีทุกโดเมน ระบบ Threat Detection ที่ตรวจจับภัยคุกคาม และ CDN ทั่วโลกที่ช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วไม่ว่าผู้เข้าชมจะอยู่ที่ไหน

ที่สำคัญคือไม่มีปลั๊กอินจากบุคคลที่สามที่อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ทำให้ Website HubSpot ปลอดภัยกว่าแพลตฟอร์มอย่าง WordPress ที่ต้องพึ่งปลั๊กอินจำนวนมาก ความเร็วของเว็บไซต์ก็ส่งผลต่อ SEO และประสบการณ์ผู้ใช้โดยตรง HubSpot ดูแลเรื่องนี้ให้คุณอย่างเต็มที่

การเชื่อมต่อกับ HubSpot Marketing Hub

จุดแข็งที่โดดเด่นของ HubSpot Website Builder คือการทำงานร่วมกับ HubSpot Marketing Hub ได้อย่างไร้รอยต่อ เมื่อคุณใช้ทั้งสองระบบร่วมกัน คุณจะได้ประโยชน์มากมาย เช่น

  • การสร้าง Email Marketing Campaigns ที่เชื่อมโยงกับเนื้อหาในเว็บไซต์
  • การตั้งค่า Workflow Automation ที่ส่งอีเมลตอบกลับอัตโนมัติเมื่อมีคนกรอกฟอร์ม
  • การทำ Lead Scoring เพื่อให้คะแนนลูกค้าตามพฤติกรรม
  • การติดตาม Conversion ตลอดทั้ง Customer Journey

ระบบเหล่านี้ช่วยให้การทำการตลาดของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถปิดการขายได้มากขึ้นด้วย

CRM Training จาก CIPHER - เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับองค์กรของคุณ

การมีเครื่องมือที่ดีอย่าง HubSpot Website Builder และ HubSpot CRM เป็นเพียงจุดเริ่มต้น สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการที่ทีมงานของคุณสามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

CIPHER ให้บริการ CRM Training และ Consulting ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ทีมงานของคุณเข้าใจและใช้งาน HubSpot ได้อย่างมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็น

  • การสอนการใช้งาน HubSpot Website Builder
  • การตั้งค่า HubSpot CRM การสร้าง Workflow Automation
  • การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับกลยุทธ์การตลาด

นอกจาก Training แล้ว CIPHER ยังให้บริการพัฒนาเว็บไซต์แบบครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ UI/UX การพัฒนา HubSpot CMS Theme การลงข้อมูลและตั้งค่า SEO ไปจนถึงการผสานการทำงานกับ CRM และตั้งค่า Workflow Automation เราทำงานเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของทีมคุณ เพื่อให้มั่นใจว่าเว็บไซต์ของคุณไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์ที่วัดได้จริง

สรุป

HubSpot Website Builder คือ โซลูชันที่ครบครันสำหรับธุรกิจที่ต้องการเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกับ HubSpot CRM และ HubSpot Marketing Hub แบบไร้รอยต่อ ทำให้เว็บไซต์ของคุณกลายเป็นเครื่องมือสร้างยอดขายที่ทรงพลัง ดังนั้น HubSpot จึงเป็นแพลตฟอร์มที่คุ้มค่าแก่การลงทุน และหากคุณต้องการคำปรึกษาหรือความช่วยเหลือในการใช้งาน CIPHER พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตด้วย HubSpot Website ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

คำถามที่พบบ่อย

ต้องมีความรู้ด้านเขียนโค้ดถึงจะใช้ HubSpot Website Builder ได้ไหม?

ไม่ต้องเลยครับ HubSpot Website Builder ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายด้วยระบบ Drag-and-Drop คุณแค่ลากองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น ข้อความ รูปภาพ ปุ่ม หรือฟอร์ม มาวางในตำแหน่งที่ต้องการ ระบบจะจัดการเรื่อง Responsive Design ให้อัตโนมัติ เหมาะมากสำหรับทีมการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องการดูแลเว็บไซต์ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งนักพัฒนาตลอดเวลา

HubSpot Website Builder แตกต่างจาก WordPress หรือ Wix อย่างไร?

ข้อแตกต่างที่สำคัญที่สุดคือ HubSpot Website Builder มาพร้อมกับการเชื่อมต่อ HubSpot CRM และ HubSpot Marketing Hub แบบไร้รอยต่อ ทำให้คุณสามารถเก็บข้อมูลลูกค้า ติดตามพฤติกรรม และทำ Marketing Automation ได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งปลั๊กอินเพิ่ม นอกจากนี้ยังมี Hosting, SSL, CDN และระบบ Security ระดับ Enterprise ในตัว ไม่เหมือน WordPress ที่ต้องจัดการเองและมีความเสี่ยงจากปลั๊กอินหลายตัว ส่วน Wix แม้ใช้งานง่าย แต่ขาดการเชื่อมต่อกับระบบ CRM และเครื่องมือการตลาดขั้นสูง

สามารถย้ายเว็บไซต์จาก WordPress มาใช้ HubSpot ได้ไหม?

คุณสามารถย้ายเว็บไซต์จาก WordPress มาที่ HubSpot ได้ โดย CIPHER สามารถช่วยคุณในกระบวนการนี้ ตั้งแต่การย้ายเนื้อหา โครงสร้างหน้าเว็บ บทความบล็อก รูปภาพ ไปจนถึงการตั้งค่า URL Redirects เพื่อรักษา SEO Ranking เดิมของคุณ การย้ายมาใช้ HubSpot Website จะช่วยให้คุณได้ประโยชน์จากระบบที่ปลอดภัยกว่า เชื่อมต่อกับ CRM โดยตรง และไม่ต้องกังวลเรื่องการอัปเดตปลั๊กอินหรือปัญหาด้านความปลอดภัยอีกต่อไป

HubSpot Website Builder มีฟีเจอร์อะไรบ้างที่ช่วยทำการตลาดได้?

HubSpot Website Builder มาพร้อมฟีเจอร์การตลาดที่ครบครัน ได้แก่

  • ระบบฟอร์มและ CTA – เก็บข้อมูลลูกค้าเข้า CRM อัตโนมัติพร้อมติดตามพฤติกรรม
  • Blog Tools – สร้างคอนเทนต์ SEO พร้อมระบบ Subscription และการจัดการผู้เขียน
  • Landing Page Builder – สร้างหน้า Landing สำหรับแคมเปญได้รวดเร็ว
  • Smart Content – แสดงเนื้อหาที่แตกต่างกันตามกลุ่มผู้ชม เพิ่ม Conversion Rate
  • A/B Testing – ทดสอบหน้าเว็บหลายเวอร์ชันเพื่อหาผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • Marketing Automation – เชื่อมกับ HubSpot Marketing Hub ทำ Email Marketing และ Workflow อัตโนมัติ
  • Analytics และ SEO Tools – วัดผลและปรับปรุง SEO แบบเรียลไทม์
  • Breeze AI – สร้างคอนเทนต์และรูปภาพด้วย AI ช่วยประหยัดเวลา
Shopping Cart
Scroll to Top