HubSpot Sales Hub คืออะไร? เครื่องมือขายที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ทีมขาย

HubSpot Sales Hub

คุณเคยรู้สึกหงุดหงิดไหมเมื่อทีมขายใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับงานที่ซ้ำซากจำเจ แทนที่จะได้โฟกัสกับการปิดดีล หรือเคยพลาดโอกาสทองไปเพราะติดตามลูกค้าไม่ทัน HubSpot Sales Hub คือ เครื่องมือสำหรับทีมขายยุคใหม่ ด้วยระบบ CRM Sales Solution นี้จะช่วยให้ทีมขายของคุณทำงานได้ง่ายขึ้น ฉลาดขึ้น และปิดดีลได้เร็วขึ้น และวันนี้ CIPHER พาร์ทเนอร์ของ HubSpot Thailand จะพาคุณมาทำความรู้จักกับ HubSpot Sales Hub แบบละเอียด ตั้งแต่ฟีเจอร์เด่น ประโยชน์ที่คุณจะได้รับ ไปจนถึงแพ็กเกจต่าง ๆ และบริการที่เราสามารถช่วยคุณได้

Table of Contents

HubSpot Sales Hub คืออะไร?

HubSpot Sales Hub

HubSpot Sales Hub คือ ส่วนขยายของ HubSpot คือ ระบบที่ออกแบบมาเพื่อช่วยทีมขายบริหารจัดการกิจกรรมการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แทนที่จะให้คุณกระโดดไปมาระหว่างหลาย ๆ โปรแกรม ระบบนี้รวมเครื่องมือสำคัญทั้งหมดไว้ในที่เดียว เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เซลล์ของคุณไม่ต้องเสียเวลากับงานซ้ำ ๆ และสามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

โดยระบบจะดูแลเรื่องการติดตาม การแจ้งเตือน และการทำงานซ้ำ ๆ ให้อัตโนมัติ ทำให้ทีมของคุณมีเวลามากขึ้นในการทำงานที่สร้างมูลค่าจริง ๆ ที่สำคัญ คือ Sales Hub เชื่อมต่อกับ HubSpot CRM ทำให้คุณมองเห็นข้อมูลลูกค้าทั้งหมดตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ ประวัติการสื่อสาร หรือสถานะของดีลในปัจจุบัน

จุดเด่นของ HubSpot Sales Hub

HubSpot Sales Hub
HubSpot Sales Hub มาพร้อมกับเครื่องมือครบครันที่ออกแบบมาเพื่อทำให้ชีวิตของเซลล์ง่ายขึ้น โดยมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังนี้

Deal Pipeline ที่ดูง่ายและปรับแต่งได้

ระบบนี้ออกแบบมาให้คุณมองเห็นภาพรวมของดีลทั้งหมดได้ในพริบตาเดียว โดยฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณ

  • มองเห็นขั้นตอนการขายชัดเจน ตั้งแต่ Prospecting, Qualified, Presentation, Negotiation ไปจนถึง Closed Won หรือ Lost
  • อัปเดตสถานะแบบ Drag-and-Drop เพียงแค่ลากและวางก็เสร็จแล้ว ไม่ต้องคลิกเยอะ
  • ปรับแต่ง Stage ให้เข้ากับธุรกิจ ทุกธุรกิจมีกระบวนการขายที่ไม่เหมือนกัน Sales Hub Professional และ Sales Hub Starter ให้คุณปรับแต่งได้ตามต้องการ

ผลลัพธ์ คือ คุณจะไม่พลาดดีลสำคัญอีกต่อไป เพราะทุกอย่างชัดเจน จัดเป็นระบบ และติดตามได้ง่าย

Email Tracking & Templates

ฟีเจอร์นี้จะบอกคุณทันทีเมื่อลูกค้าเปิดอีเมลหรือคลิกลิงก์ โดยประโยชน์ที่คุณได้รับ คือ

  • Email Tracking แบบเรียลไทม์ รู้ทันทีว่าลูกค้าคนไหนสนใจ คนไหนเปิดอีเมลซ้ำ ๆ แสดงว่าน่าจะพร้อมคุยต่อแล้ว
  • สร้าง Email Templates ได้ไม่จำกัด เก็บเทมเพลตอีเมลที่ใช้บ่อย ๆ ไว้ ประหยัดเวลาและรักษามาตรฐานการสื่อสาร
  • ส่งอีเมลได้จากใน CRM ไม่ต้องเปิดโปรแกรมอีเมลอีกต่อไป ทำทุกอย่างในที่เดียว

สิ่งนี้ช่วยให้คุณติดต่อลูกค้าได้ในจังหวะที่เหมาะสม ก่อนที่พวกเขาจะลืมหรือหันไปหาคู่แข่ง

Meeting Scheduler

ฟีเจอร์นี้ทำให้การนัดหมายง่ายขึ้นมาก ๆ นั่นก็คือ

  • แชร์ลิงก์ให้ลูกค้าเลือกเวลาเอง เชื่อมต่อกับปฏิทินของคุณ ลูกค้าจะเห็นเฉพาะช่วงเวลาที่คุณว่าง
  • ลดขั้นตอนการติดต่อ ลูกค้ากดจองเสร็จ ระบบก็ส่งอีเมลยืนยันและเตือนความจำอัตโนมัติ
  • ป้องกันการดับเบิลบุ๊ค อัปเดตปฏิทินแบบเรียลไทม์ ไม่มีทางนัดซ้อน

ประสบการณ์ที่ดีเริ่มต้นตั้งแต่การนัดหมายครั้งแรก ฟีเจอร์นี้ช่วยสร้างความประทับใจให้ลูกค้าตั้งแต่ต้น

Sales Automation / Workflow

นี่คือฟีเจอร์ที่ทำให้ HubSpot Sales Hub แตกต่างจากระบบ CRM ทั่วไป ระบบอัตโนมัติจะทำงานแทนคุณตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็น

  • ส่งอีเมลติดตามผลอัตโนมัติ ตั้งค่าลำดับการส่งอีเมล (Sequences) ระบบจะส่งให้เองตามเวลาที่กำหนด
  • สร้าง Task Reminders แจ้งเตือนเซลล์ว่าต้องติดตามลูกค้าคนไหน เมื่อไหร่
  • แบ่ง Lead ให้เซลล์อัตโนมัติ กำหนดเงื่อนไขแล้วระบบจะแบ่ง Lead ให้คนที่เหมาะสมเอง

ผลที่ได้คือทีมขายของคุณจะไม่พลาด Lead สำคัญ และใช้เวลาไปกับงานที่สร้างมูลค่ามากขึ้น

Quotes & E-Signature

การสร้างใบเสนอราคาและรอลายเซ็นเป็นอีกขั้นตอนที่กินเวลา แต่กับ Sales Hub ทุกอย่างเร็วขึ้นมาก โดยคุณสามารถ

  • สร้างใบเสนอราคาภายในระบบ ดึงข้อมูลสินค้า ราคา และข้อมูลลูกค้ามาแสดงอัตโนมัติ ไม่ต้องพิมพ์ซ้ำ
  • ส่ง E-Signature ให้ลูกค้าลงนาม ลูกค้าเซ็นชื่อออนไลน์ได้ทันที ไม่ต้องรอพิมพ์ สแกน หรือส่งไปมา
  • ติดตามสถานะเอกสาร รู้ว่าลูกค้าเปิดดูเอกสารหรือยัง ช่วยให้คุณ Follow up ได้ตรงจุด

การปิดดีลเร็วขึ้น = รายได้เข้ามาเร็วขึ้น ง่ายแค่นี้เอง

Sales Analytics & Forecasting

HubSpot Sales Hub ให้ข้อมูลที่คุณต้องการในการตัดสินใจธุรกิจ โดยระบบวิเคราะห์และแสดงสิ่งที่เป็นประโยชน์กับทีมขาย เช่น

  • Sales Reports แบบละเอียด ดูผลงานของแต่ละคน แต่ละทีม หรือทั้งองค์กรได้แบบเรียลไทม์
  • Sales Forecasting ที่แม่นยำ คาดการณ์รายได้ในอนาคตจากข้อมูล Pipeline ที่มีอยู่
  • Dashboard ที่ปรับแต่งได้ สร้างรายงานที่คุณต้องการดู ไม่ต้องรอทีม IT

ผู้บริหารจะรักฟีเจอร์นี้ เพราะช่วยให้วางแผนธุรกิจได้แม่นยำและมั่นใจมากขึ้น

ประโยชน์ของ HubSpot Sales Hub ต่อธุรกิจ

หลังจากรู้จักฟีเจอร์ต่าง ๆ แล้ว มาดูกันว่าธุรกิจของคุณจะได้ประโยชน์อะไรจริง ๆ จากการใช้ HubSpot Sales Hub

เพิ่มประสิทธิภาพของทีมขาย ทำงานเร็วขึ้นด้วยระบบ Automation

ระบบ Sales Automation ของ Sales Hub ช่วยลดงานที่ซ้ำซาก ให้เซลล์ของคุณมีเวลาไปโฟกัสกับการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เข้าใจความต้องการของพวกเขาลึกขึ้น และปิดดีลได้มากขึ้น

มองเห็น Pipeline ชัดเจน ทำให้คาดการณ์ยอดขายได้แม่นยำ

การมี Pipeline ที่อัปเดตแบบเรียลไทม์เปรียบเสมือนการมีแผนที่ธุรกิจที่แม่นยำ คุณจะรู้ว่า:

  • ดีลไหนใกล้จะปิดแล้ว ดีลไหนติดขัด
  • เซลล์คนไหนทำงานได้ดี คนไหนต้องการความช่วยเหลือ
  • รายได้ที่คาดว่าจะเข้ามาในเดือนหน้าหรือไตรมาสหน้า

จัดการ Lead ได้เป็นระบบ ไม่พลาดโอกาสที่ควรจะปิดดีล

การพลาด Lead ที่มีคุณภาพเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของทีมขาย บางครั้ง Lead เย็นชาไปเพราะติดตามไม่ทัน หรือลืมติดตามไปเลย โดย HubSpot Sales Hub ช่วยให้คุณ

  • ติดตามกิจกรรมของ Lead แบบละเอียด เช่น เปิดอีเมลหรือยัง เข้าชมหน้าเว็บไซต์หน้าไหนบ้าง
  • รู้ว่า Lead คนไหน “ร้อน” และพร้อมคุยต่อ
  • แจ้งเตือนเซลล์ให้ติดตามในเวลาที่เหมาะสม

ประสบการณ์ลูกค้าดีขึ้น เพราะการตอบกลับเร็วและเป็นระบบ

ลูกค้ายุคนี้คาดหวังการตอบกลับที่รวดเร็วและเป็นมืออาชีพ การที่คุณตอบอีเมลช้า หรือลืมรายละเอียดที่เคยคุยกัน อาจทำให้พวกเขาหันไปหาคู่แข่ง ด้วยเครื่องมืออย่าง Meeting Scheduler และ Email Templates ทำให้การสื่อสารของคุณเป็นระบบ รวดเร็ว และสม่ำเสมอ ลูกค้ารู้สึกว่าคุณใส่ใจและเป็นมืออาชีพ ซึ่งเพิ่มโอกาสในการปิดดีลอย่างมาก

ลดต้นทุนซอฟต์แวร์ ไม่ต้องใช้หลายเครื่องมือให้ยุ่งยาก

หลายบริษัทใช้ซอฟต์แวร์หลายตัว ตัวหนึ่งสำหรับ CRM อีกตัวสำหรับส่งอีเมล อีกตัวสำหรับจัดการ Meeting และอีกตัวสำหรับทำรายงาน แต่ละตัวก็มีค่าใช้จ่าย และที่แย่กว่านั้นคือข้อมูลไม่เชื่อมต่อกัน HubSpot Sales Hub รวมทุกอย่างไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้คุณ

  • ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อซอฟต์แวร์หลายตัว
  • ไม่ต้องเสียเวลาเทรนพนักงานหลายระบบ
  • มีข้อมูลรวมอยู่ในที่เดียว เชื่อมต่อกันหมด

HubSpot Sales Hub เหมาะกับใคร?

ถ้าคุณกำลังสงสัยว่าธุรกิจของคุณเหมาะกับ HubSpot Sales Hub หรือไม่ มาดูกันว่าใครบ้างที่จะได้ประโยชน์สูงสุดจากระบบนี้

ธุรกิจ SME ที่ต้องการระบบบริหารงานขายแบบมืออาชีพ

ถ้าคุณยังใช้ Excel หรือ Google Sheets ในการติดตาม Lead และดีล มันอาจจะใช้ได้ในช่วงแรก แต่เมื่อธุรกิจเติบโต สเปรดชีตก็เริ่มไม่เพียงพอ คุณต้องการระบบที่ทรงพลังกว่า แต่ไม่ซับซ้อนเกินไป

Sales Hub Starter เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับ SME ที่ต้องการเริ่มต้นใช้ CRM Sales Solution อย่างจริงจัง โดยไม่ต้องลงทุนมหาศาล ราคาเริ่มต้นที่สมเหตุสมผล แต่ได้ฟีเจอร์ครบที่จะยกระดับการขายของคุณ

ทีมขายที่ต้องติดตามลูกค้าเป็นจำนวนมาก

ถ้าทีมของคุณต้องดูแล Lead หรือลูกค้าหลายสิบหรือหลายร้อยราย การจำรายละเอียดทุกอย่างเป็นไปไม่ได้ ระบบ CRM เข้ามาช่วยให้คุณจดจำทุกอย่างแทน ตั้งแต่การสนทนาครั้งที่แล้ว ความสนใจของลูกค้า ไปจนถึงขั้นตอนถัดไปที่ต้องทำ

Sales Hub Professional มีฟีเจอร์ขั้นสูงที่ช่วยให้ทีมขายขนาดใหญ่ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น Sales Automation ที่ซับซ้อน Reporting ที่ละเอียด และความสามารถในการปรับแต่งสูง

บริษัทที่ต้องการลดงานเอกสารและงานซ้ำ ๆ

ถ้าเซลล์ของคุณบ่นว่าต้องทำงานแอดมินมากเกินไป จนไม่มีเวลาขาย นี่คือสัญญาณว่าคุณต้องการ Sales Automation ระบบจะจัดการงานที่ซ้ำซากให้ เช่น การส่งอีเมลติดตามผล การสร้างใบเสนอราคา การอัปเดตข้อมูลในระบบ ทำให้ทีมของคุณมีเวลาไปทำงานที่สำคัญกว่า

องค์กรที่ต้องการ CRM + เครื่องมือขายในระบบเดียว

หลายองค์กรมีปัญหาที่ทีมการตลาดและทีมขายทำงานแยกกัน ใช้ระบบคนละตัว ข้อมูลไม่เชื่อมกัน ทำให้เกิดช่องว่างและความสับสน โดย HubSpot CRM คือ แพลตฟอร์มที่ให้ทั้งทีมการตลาดและทีมขายทำงานบนฐานข้อมูลเดียวกัน เมื่อมาร์เก็ตติ้งส่ง Lead มาให้ Sales ทุกข้อมูลจะถูกส่งต่อมาครบถ้วน ไม่มีการหายหรือขาดตอน ที่สำคัญยังมี HubSpot Academy สำหรับใช้เรียนรู้และอัปเดตข้อมูลใหม่ ๆ ได้อีกด้วย

ธุรกิจ B2B / B2C ที่ต้องการ Forecast ยอดขายอย่างแม่นยำ

สำหรับธุรกิจที่ต้องวางแผนการเงิน การจัดซื้อสินค้า หรือการจ้างพนักงาน การมีข้อมูล Sales Forecast ที่แม่นยำเป็นสิ่งสำคัญมาก HubSpot Sales Hub ทำให้คุณเห็นภาพ Pipeline ทั้งหมดแบบเรียลไทม์ พร้อมเครื่องมือวิเคราะห์ที่ช่วยคาดการณ์ว่าดีลไหนมีโอกาสปิดสูง ยอดขายที่คาดว่าจะได้รับในแต่ละเดือนหรือไตรมาสเป็นอย่างไร

เปรียบเทียบ Sales Hub กับเครื่องมืออื่นใน HubSpot

HubSpot ไม่ได้มีแค่ Sales Hub เท่านั้น แต่มี Hub หรือเครื่องมือหลักของ HubSpot อื่น ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์ต่างกัน เพื่อให้เข้าใจชัดเจนขึ้น มาดูตารางเปรียบเทียบกัน

Hub วัตถุประสงค์หลัก ฟีเจอร์เด่น (ตัวอย่าง)
Sales Hub บริหารจัดการกิจกรรมการขายและปิดดีล Deal Pipeline, Sales Automation, Quotes, Email Tracking, Meeting Scheduler, Sales Analytics
Marketing Hub ดึงดูดและเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมให้เป็น Lead SEO Tools, Landing Page Builder, Email Marketing, Marketing Automation, Social Media Management
Service Hub ดูแลลูกค้าหลังการขายและสร้างความพึงพอใจ Ticketing System, Customer Feedback, Live Chat, Knowledge Base, Customer Portal
CMS Hub สร้างและจัดการเว็บไซต์/บล็อก Website Themes, Drag-and-Drop Editor, Smart Content, SEO Tools, Security Features
Operations Hub เชื่อมต่อข้อมูลและระบบอัตโนมัติ Data Sync, Programmable Automation, Data Quality Management, Webhooks
จากตารางจะเห็นว่า Sales Hub มุ่งเน้นไปที่การขายเป็นหลัก แต่ถ้าคุณต้องการระบบที่ครบวงจร คุณสามารถใช้หลาย Hub ร่วมกันได้ ซึ่งจะทำงานเชื่อมต่อกันอย่างลงตัว

HubSpot ราคาและแพ็กเกจต่าง ๆ

หลายคนอาจกังวลเรื่อง HubSpot ราคา ว่าจะแพงเกินไปหรือไม่ ความจริงแล้ว HubSpot มีแพ็กเกจให้เลือกหลายระดับ เหมาะกับธุรกิจทุกขนาด

Sales Hub Starter

  • เหมาะสำหรับทีมขายเล็ก ๆ ที่เริ่มต้นใช้ CRM อย่างจริงจัง
  • มีฟีเจอร์พื้นฐานที่จำเป็น เช่น Email Tracking, Meeting Scheduler, Quotes
  • ราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ เหมาะกับ SME

Sales Hub Professional

  • เหมาะสำหรับทีมขายที่ต้องการฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น Sales Automation, Advanced Reporting, และ Forecasting
  • รองรับทีมขายขนาดกลางถึงใหญ่
  • มีเครื่องมือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขายอย่างเต็มที่

Sales Hub Enterprise

  • เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง และฟีเจอร์ระดับองค์กร
  • มี Playbooks, Predictive Lead Scoring, Custom Objects และอื่น ๆ อีกมากมาย
  • รองรับทีมขายหลายสิบหรือหลายร้อยคน

การเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับขนาดธุรกิจและความต้องการของคุณ ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าควรเลือกแพ็กเกจไหน ทีมงาน CIPHER พร้อมให้คำปรึกษาฟรีเพื่อหาแพ็กเกจที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

บริการ HubSpot Sales Hub จาก CIPHER

CIPHER พาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการของ HubSpot Thailand เรามีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีในการพัฒนาระบบ IT Solution และ Digital Marketing ให้กับธุรกิจชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชน เราไม่ได้แค่ขายซอฟต์แวร์ แต่เราเป็น พาร์ทเนอร์ ที่จะช่วยให้คุณใช้งาน HubSpot Sales Hub ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

  • ให้คำปรึกษาและวางแผน: ออกแบบวิธีการใช้ Sales Hub ให้เหมาะสมกับองค์กรของคุณ
  • ตั้งค่าและติดตั้งระบบ: เชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ ที่คุณใช้อยู่ เช่น Email, Calendar, หรือซอฟต์แวร์อื่นที่พร้อมใช้งาน
  • การอบรม CRM Training อย่างครบวงจร: อบรมทีมขายให้ใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้สามารถจัดการและปรับแต่งระบบเอง มีหลักสูตรตั้งแต่ Basic ไปจนถึง Advanced ตามความสะดวกของคุณ พร้อมการซัพพอร์ตอย่างต่อเนื่อง

สรุป

HubSpot Sales Hub ไม่ใช่แค่ซอฟต์แวร์ CRM ธรรมดา แต่เป็นเครื่องมือที่จะเปลี่ยนวิธีการทำงานของทีมขายคุณไปตลอดกาล CIPHER พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่คุณไว้วางใจได้ ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ติดตั้ง CRM Training ไปจนถึงการดูแลระยะยาว เราอยู่เคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ติดต่อเราวันนี้เพื่อขอคำปรึกษาฟรีและทดลองใช้ HubSpot Sales Hub กับทีมงานมืออาชีพจาก HubSpot Thailand Partner อย่าง CIPHER

คำถามที่พบบ่อย

HubSpot Sales Hub คืออะไร?

HubSpot Sales Hub คือ เครื่องมือบริหารงานขายที่เชื่อมต่อกับ HubSpot CRM ช่วยให้ทีมขายติดตามดีล ส่งอีเมล นัดประชุม และปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพในระบบเดียว

HubSpot Sales Hub ต่างจาก CRM ทั่วไปอย่างไร?

ต่างจาก CRM ทั่วไปเพราะมี Sales Automation, Email Tracking, Quotes, Meeting Scheduler และรายงานแบบ Real-Time ที่ช่วยให้ทีมขายทำงานเร็วขึ้นและแม่นยำกว่า

ธุรกิจแบบไหนเหมาะกับ HubSpot Sales Hub?

HubSpot Sales Hub เหมาะกับ

  • ธุรกิจ SME
  • ทีมขายที่มี Lead จำนวนมาก
  • องค์กรที่ต้องการระบบขายครบวงจร
  • ธุรกิจ B2B/B2C

ต้องใช้ร่วมกับ Marketing Hub หรือไม่?

ไม่จำเป็น แต่ถ้าใช้ร่วมกับ Marketing Hub และ Service Hub จะได้ระบบ CRM แบบครบวงจร ข้อมูลไม่ขาดตอน และช่วยเพิ่มโอกาสปิดการขายมากขึ้น
Shopping Cart
Scroll to Top