Table of Contents
ในปัจจุบันนี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นได้เกิดขึ้นอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโครงการใหญ่ไปจนถึงโครงการเล็ก และแน่นอนว่าการแข่งขันกันทางด้านการตลาดก็ยิ่งมีการแข่งขันสูงและเข้มข้นมากขึ้นโดยการทำการตลาดสำหรับธุรกิจอสังหาฯที่เด่นชัดที่สุด ที่ใครหลายๆคนอาจจะคุ้นชินนั่นก็คือ การทำแผ่นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ริมถนนนั่นเอง
ใช่ค่ะ การตลาดรูปแบบเก่าของธุรกิจอสังหาฯนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการโฆษณาตามพื้นที่ใกล้เคียง หรือตามจุดที่คิดว่าคนจะต้องเห็นและสะดุดตาเมื่อได้ผ่านบริเวณนั้น หรือก็คือการตั้งป้ายโฆษณานั่นเอง
แต่ด้วยปัจจุบัน ที่ก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 แล้วนั้น สำหรับ การทำการตลาดสำหรับธุรกิจ SME นั้น การทำการตลาดออนไลน์ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่ไม่ว่าธุรกิจไหนก็ต้องลงมือทำ ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจอสังหาฯก็เช่นกัน ! ดูได้จาก
มีหลายแบรนด์ที่ได้เห็นความสำคัญ และได้เข้ามาทำการตลาดออนไลน์กันแล้ว แต่ก็ยังหลายๆแบรนด์ที่ยังไม่ได้ก้าวเข้ามาสู่การตลาดออนไลน์อย่างเต็มตัว เพราะยังไม่เห็นถึงประโยชน์ของการทำการตลาดออนไลน์ ขาดความเข้าใจในการทำการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจอสังหาฯ รวมถึงแผนการทำการตลาดๆที่อาจจะคาดไม่ถึง
แต่รู้หรือไม่ว่า โครงการอสังหาฯหลายๆโครงการ สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วด้วยการทำการตลาดออนไลน์มาแล้วนับไม่ถ้วน และถ้าหากว่าในวันนี้ธุรกิจของคุณ ยังไม่ได้เริ่มศึกษาและลงมือทำการตลาดออนไลน์
ขอให้รู้เลยว่า คุณได้ก้าวช้ากว่าคู่แข่งไปแล้วหลายก้าว !
“ฉะนั้น อย่ารอช้าเลยค่ะ สำหรับหัวข้อนี้ จะเป็นการทำการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจอสังหาฯ ที่จะช่วยให้นักลงทุนหรือนักการตลาดทุกคนมีแนวทางในการทำการตลาดที่ดีมากยิ่งขึ้น”
7 แผนการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจอสังหาฯ
1. ทำ Lead Generation
การทำ Lead Generation คือการหาข้อมูลของลูกค้า ผ่านการใช้เครื่องมือการตลาดออนไลน์ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ที่ข้อมูลของลูกค้าที่จะได้มานั้น จะเป็นข้อมูลที่มีคุณภาพ เพราะเป็นข้อมูลของลูกค้าที่สนใจในสินค้าและบริการของเราจริงๆ ซึ่งจะสามารถนำไปต่อยอดในการวางแผนและพัฒนาแผนการตลาดต่อไปได้
ซึ่งการทำ Lead Generation นั้น สามารถทำได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นผ่านการทำ Landing Page , การทำแถบเมนู Contact Us แล้วให้ลูกค้ากรอกข้อมูลเพื่อใช้ในการติดต่อกลับ หรือรวมไปถึงการใช้ Facebook Fanpage เป็นสื่อกลางในการติดต่อกับลูกค้าด้วยก็ได้เช่นกัน
การได้ข้อมูลของลูกค้าที่เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และนำมาสร้าง Buyer Persona จะทำให้สามารถนำ Buyer Persona ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่สร้างขึ้นมานั้น มาใช้ในการวิเคราะห์และวางแผนด้านการตลาดออนไลน์ให้กับธุรกิจอสังหาฯได้อย่างมีประสิทธิภาพ เจาะกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุด ด้วยวิธีที่เหมาะสม และช่วยให้สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
โดยวิธีการทำ Lead Generation เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลของลูกค้านั้น ส่วนใหญ่จะนำหลักการของการทำ Inbound Marketing มาใช้ในการวางแผนการตลาด
หรือสำหรับใครที่รู้จัก Inbound Marketing อยู่แล้ว แต่อยากจะได้เทคนิคในการหา Lead ที่มีประสิทธิภาพและสามารถนำมาใช้ได้จริง สามารถคลิกเพื่อดาวน์โหลด 30 วิธีการหา Lead เพื่อสร้างยอดขาย ไปศึกษาต่อกันได้เลยค่ะ
2. ยิงโฆษณา (ยิง Ads.)
การยิง ads. เกี่ยวกับธุรกิจของเรา ไม่ว่าจะเป็นตัวสินค้า บริการ หรือแม้แต่ตัวแบรนด์เอง จะทำให้ธุรกิจของเรามีตัวตนขึ้นบนโลก ให้คนได้รู้จักและรับรู้ถึงการมีอยู่ของแบรนด์ของเรา
ซึ่งการยิง Ads. ในช่องทางที่ทำแล้วให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ได้แก่ Facebook , Google , Youtube และ Line ตามลำดับ
โดยกลยุทธ์ในการยิง Ads. นั้น จะขึ้นอยู่กับ Buyer Persona ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายว่าเป็นแบบใด การเลือกให้ Ads. นั้นส่งไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากยิ่งขึ้น
3. การมีโปรโมชั่นที่ดึงดูด
“ใครๆก็ชอบโปรโมชั่น” ยังคงใช้ได้เสมอ ยิ่งโดยเฉพาะโปรโมชั่นที่น่าดึงดูดใจ ไม่ว่าจะเป็นลด แลก แจก หรือแถมก็ตาม แต่การทำโปรโมชั่นนั้นก็ต้องเกิดจากการวิเคราะห์ Buyer Persona เช่นกัน ว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเรานั้น จะถูกดึงดูดด้วยโปรโมชั่นไหนมากที่สุด หรือเกิดจากการวิเคราะห์แบรนด์ของเรา ว่าเหมาะสมกับโปรโมชั่นแบบไหนมากกว่ากัน เช่น โครงการอสังหาฯราคาหลักสิบล้าน แต่มีโปรโมชั่นลดราคามากมายจนเกินไป จะทำให้ผู้ซื้ออาจรู้สึกลังเลเพราะการลดราคา เพราะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้ออสังหาฯในราคาหลักสิบล้านได้นั้น ส่วนใหญ่จะไม่สนใจในเรื่องการได้ลดราคาสักเท่าไหร่ แต่จะสนใจในเรื่องของคุณภาพและสิ่งแวดล้อมต่างๆมากกว่า เป็นต้น
4. เน้นการขายไว ด้วยการสร้างอสังหาฯ ที่มีราคา 2-3 ล้าน
จากผลการสำรวจจากทีมที่ทำการตลาดให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลายๆแห่ง การขายอสังหาฯที่มีมูลค่าประมาณ 2-3 ล้านนั้น จะสามารถปิดการขายและปิดโครงการได้อย่างรวดเร็วมากกว่าอสังหาฯมูลค่าที่สูงขึ้น เนื่องจากคนในปัจจุบันนั้นมีคนที่เรียกได้ว่า “วัยกำลังสร้างเนื้อสร้างตัว” อยู่เป็นจำนวนมาก จึงเกิดความต้องการซื้ออสังหาฯในราคาที่สามารถรับผิดชอบได้ด้วยตัวเองไหวขึ้นเป็นจำนวนมากเช่นกัน ทำให้อสังหาฯที่มีราคาในช่วงนี้ ขายออกได้ไวกว่าช่วงราคาอื่น
5. แสดง Customer Review ที่ดี
หลายๆโครงการที่สามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างท่วมท้นนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการมีรีวิวจากผู้ใช้จริงที่ดีมานำเสนอให้แก่ลูกค้าคนอื่นๆผ่านช่องทางการตลาดนั่นเองค่ะ
ซึ่งรีวิวที่ว่านั้นจะต้องเป็นรีวิวที่มีแต่ความรู้สึกที่ดีในการใช้สินค้าและบริการของเราเท่านั้นนะคะ
เพราะการได้รับรู้ถึงความรู้สึกดีๆของผู้ใช้จริงๆ นอกจากจะช่วยให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดีขึ้น จะช่วยให้การตัดสินใจในการซื้อมีมากยิ่งขึ้นได้ เหมือนกับถ้าต้องเปรียบเทียบกับอีกแบรนด์ ที่มีแต่รีวิวที่ไม่ดีของผู้ใช้จริง แบรนด์ที่มีรีวิวที่ดีก็จะมีแนวโน้มในการถูกเลือกซื้อมากกว่าอย่างแน่นอนอยู่แล้ว
6. การสร้างคลิปวิดีโอเพื่อใช้ในการโฆษณา
แน่นอนว่า การดึงดูดใจลูกค้าด้วยการทำการตลาดออนไลน์นั้น ส่วนใหญ่จะถูกดึงดูดด้วย “รูปภาพโฆษณา” เป็นอันดับแรก ดังนั้นจึงต้องใช้รูปโฆษณาที่สวยงามและน่าสนใจในการเรียกความสนใจของลูกค้า ให้ลูกค้ารู้สึกอยากคลิกเข้ามาอ่านหรือชมข้อมูลเพิ่มเติม
แต่สำหรับการทำการตลาดในขั้นตอนสุดท้าย ในส่วนที่เป็นการเน้นย้ำให้กับลูกค้าที่สนใจในแบรนด์ของเรานั้นอยากเลือกซื้อสินค้าของเรา ก็คือการนำเสนอวิดีโอ ที่จะเผยให้เห็นความสวยงามของส่วนต่างๆของอสังหาฯของเราในรูปแบบภาพเคลื่อนไหวให้แก่ลูกค้านั่นเอง
7. การหา Consultant ในการทำการตลาดออนไลน์
ในหลาย ๆ แบรนด์ที่ยังไม่ได้เข้ามาทำการตลาดออนไลน์นั้น อาจมีสาเหตุมาจาก การไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นการทำการตลาดออนไลน์อย่างไร ซึ่งการหา Consultant มาช่วยในการทำการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการวางกลยุทธ์ทางการตลาด วิเคราะห์หากลุ่มลูกค้าเป้าหมาย หรือแม้แต่การยิง Ads. ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่หลาย ๆ แบรนด์มองข้ามไป เพราะการมีที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์และความสามารถสูงนั้น จะช่วยให้สามารถทำการตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และช่วยให้สามารถนำต้นทุนที่มีอยู่อย่างจำกัด มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างสูงสุดค่ะ