Table of Contents
Conversion Rate คืออะไร? สำคัญอย่างไร? ต่อการทำการตลาด
Conversion Rate คืออะไร? การวัดผลสำเร็จของแคมเปญการตลาดกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะ Conversion Rate หรือ อัตราการแปลง ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการประเมินว่าผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของคุณเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าหรือทำกิจกรรมตามเป้าหมายที่ตั้งไว้มากน้อยแค่ไหน การทำความเข้าใจ Conversion Rate อย่างลึกซึ้งและการใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม เช่น การพัฒนาเว็บไซต์ให้รองรับ SEO เพื่อเว็บไซต์ให้ติดหน้าแรก หรือการใช้ Social Media Marketing ในการสร้างความน่าสนใจ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดึงดูดลูกค้า
ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจแบบไหน การปรับปรุง Conversion Rate ให้ดียิ่งขึ้นก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า และพัฒนากลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์ได้ดียิ่งขึ้น ทีมงานของ CIPHER ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด พร้อมบริการ รับทำ Social Media Marketing และ รับทำ SEO ให้ติดหน้าแรก พร้อมช่วยคุณสร้างความเปลี่ยนแปลงในธุรกิจ อีกทั้งมีบริการ รับทำ CRM Training อบรม CRM ในการวางแผนอย่างเป็นระบบเพื่อเพิ่ม Conversion Rate ให้เห็นผลอย่างชัดเจน
ทำความรู้จักกับ Conversion Rate คืออะไร?
อัตราการเปลี่ยนแปลง หรือ Conversion Rate คือ ตัวชี้วัดที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของการทำการตลาด โดยคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ที่ดำเนินการตามเป้าหมายที่กำหนด เช่น การซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก หรือการกรอกแบบฟอร์ม เปรียบเทียบกับจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์หรือผู้เข้าร่วมแคมเปญทั้งหมด อัตราการแปลงที่สูงแสดงถึงความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดในการกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายดำเนินการตามเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับแคมเปญการตลาด Conversion Rate เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจประเมินได้ว่าเนื้อหา ช่องทาง หรือกลยุทธ์ที่ใช้อยู่มีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ยังช่วยชี้จุดที่ต้องปรับปรุง เช่น การออกแบบหน้าเว็บไซต์ ความน่าสนใจของ Call to Action (CTA) หรือในส่วนของข้อความโฆษณาบนหน้าเว็บไซต์ ซึ่งการเพิ่ม Conversion Rate จะช่วยให้แคมเปญบรรลุเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น โดยที่ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองบประมาณนั่นเอง
ทำไม Conversion Rate ถึงมีความสำคัญต่อเว็บไซต์ธุรกิจ?
Conversion Rate มีความสำคัญต่อเว็บไซต์ธุรกิจเพราะเป็นตัวชี้วัดที่สะท้อนประสิทธิภาพในการเปลี่ยนผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้าหรือผู้ดำเนินการตามเป้าหมาย เช่น การซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก หรือการกรอกข้อมูล หาก Conversion Rate สูง หมายความว่าเว็บไซต์สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างรายได้และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ได้โดยไม่ต้องเพิ่มต้นทุนในการดึงดูดลูกค้าใหม่มากนัก
นอกจากนี้ Conversion Rate ยังช่วยให้ธุรกิจเข้าใจปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการขายหรือการใช้งานเว็บไซต์ เช่น หน้า Landing Page ที่ไม่ดึงดูดใจ หรือกระบวนการสั่งซื้อที่ซับซ้อน การปรับปรุง Conversion Rate อย่างต่อเนื่องจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ลูกค้า สร้างความพึงพอใจ และเสริมความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจในตลาดออนไลน์
Conversion Rate มีประเภทไหนบ้าง?
Sales Conversion
Sales Conversion คือ อัตราความสำเร็จในการเปลี่ยนผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า ให้ทำตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้ เป็นอัตราการแปลงที่เน้นผลลัพธ์ด้านการขายโดยตรง ถือเป็นตัวชี้วัดหลักสำหรับธุรกิจ E-Commerce และธุรกิจที่มีการขายสินค้าออนไลน์ เช่น
- การตัดสินใจซื้อสินค้า
- การลงทะเบียนรับข่าวสาร
- การกรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม
โดยค่านี้แสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ เพื่อวัดว่ากลยุทธ์การขายและการตลาดของเรามีประสิทธิภาพแค่ไหนในการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้กลายเป็นลูกค้าที่สร้างรายได้จริง
Lead Generation Conversion
Lead Generation Conversion ใช้วัดการเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมให้กลายเป็น “Lead” หรือผู้ที่แสดงความสนใจในสินค้าหรือบริการ เช่น การกรอกแบบฟอร์มเพื่อลงทะเบียน การสมัครรับข้อมูลข่าวสาร เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างฐานลูกค้าเป้าหมาย โดย CTR ช่วยวิเคราะห์ประสิทธิภาพของโฆษณาออนไลน์ อีเมล และแคมเปญการตลาด เพื่อนำผลลัพธ์นั้นปรับปรุงการทำการตลาดให้ดีขึ้น
Click Through Rate (CTR)
Click Through Rate หรือ CTR เป็นอัตราส่วนของจำนวนผู้ที่คลิกที่ลิงก์หรือปุ่ม Call to Action (CTA) เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ที่เห็นโฆษณาหรือเนื้อหานั้น ใช้บ่งชี้ความน่าสนใจของโฆษณาหรือเนื้อหาที่เผยแพร่
Download Conversion Rate
Download Conversion Rate คือ อัตราความสำเร็จในการดาวน์โหลดwa]Ngvdlkisinvคอนเทนต์ดิจิทัล เช่น ไฟล์ ซอฟต์แวร์ E-Book หรือเอกสารต่าง ๆ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากจำนวนผู้ที่สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งหมด
ตัวชี้วัดนี้ช่วยให้เราประเมินได้ว่า เว็บไซต์หรือแคมเปญการตลาดของเรามีประสิทธิภาพแค่ไหนในการจูงใจให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดคอนเทนต์ที่เราต้องการ เหมาะสำหรับธุรกิจที่ใช้การดาวน์โหลดเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความสนใจในสินค้า
Subscription Conversion Rate
Subscription Conversion Rate คือ อัตราความสำเร็จในการเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมให้กลายเป็นสมาชิก โดยวัดเป็นเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ สมัครสมาชิก หรือลงทะเบียนรับข่าวสารทางอีเมล ซึ่งตัวชี้วัดนี้ช่วยให้เราประเมินว่าเว็บไซต์ Landing Page หรือแคมเปญการตลาดของเรา สามารถดึงดูดให้คนสมัครเป็นสมาชิกได้ดีแค่ไหน
Form Submission Conversion Rate
App Store Conversion Rate
App Store Conversion Rate เกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชัน โดยวัดอัตราการแปลงจากการดาวน์โหลดแอปใน App Store หรือ Play Store เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์ในรูปแบบแอปพลิเคชัน เพื่อใช้ประเมินความน่าสนใจของแอปพลิเคชันและประสิทธิภาพการตลาดบนแพลตฟอร์ม
แล้ว Conversion Rate คิดยังไง? การคำนวณ Conversion Rate คือ สิ่งที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถวัดผลสำเร็จของแคมเปญการตลาดและปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์หรือโฆษณาได้ตรงจุด และในหัวข้อถัดไปจะอธิบายถึงวิธีคำนวณ CVR อย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถคำนวณและวัดผลลัพธ์ของยอด CVR ได้
วิธีคำนวณ Conversion Rate อย่างละเอียด
Conversion Rate คิดยังไง? การคำนวณ Conversion Rate คือ อัตราส่วนของจำนวนผู้ที่ดำเนินการตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ หรือจำนวน Conversions ต่อจำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด หรือ จำนวน Visitors แล้วนำมาคูณด้วย 100 เพื่อแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์
สูตรการคำนวณ:
Conversion Rate = จำนวน (Coversions ÷ จำนวน Visitors) x 100
ตัวอย่าง: การลงทะเบียน (Lead Generation Conversion)
- สถานการณ์: หน้า Landing Page สำหรับลงทะเบียนมีผู้เยี่ยมชม 1,000 คน และมีผู้ลงทะเบียน 80 คน
- วิธีคำนวณ:
Conversion Rate = (80 ÷ 1000) x 100 = 8%
- ผลลัพธ์: อัตราการแปลง Lead Generation Conversion Rate เท่ากับ 8%
10 เทคนิคการเพิ่ม Conversion Rate ให้ได้ผลจริง
การเพิ่ม Conversion Rate เป็นเป้าหมายสำคัญของธุรกิจในการตลาดออนไลน์ เพราะ Conversion Rate คือ สิ่งที่ช่วยเพิ่มผลลัพธ์ที่ต้องการโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายในการโฆษณา โดยมีเทคนิคสำคัญที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที ดังนี้
1. ปรับปรุงหน้า Landing Page ให้ดึงดูด
- เนื้อหาต้องชัดเจน: ใช้ข้อความที่สั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสามารถอธิบายประโยชน์ของสินค้าหรือบริการได้ครบถ้วน
- ดีไซน์ที่เรียบง่าย: ใช้โครงสร้างที่อ่านง่าย ปุ่ม Call to Action หรือ CTA ที่โดดเด่น
- เพิ่มความน่าเชื่อถือ: ใส่รีวิวหรือคำรับรองจากลูกค้า
2. เพิ่มความชัดเจนใน Call to Action (CTA)
- ใช้คำกระตุ้นที่ชัดเจน เช่น “ซื้อเลย” หรือ “เริ่มทดลองฟรี”
- ใช้สีและตำแหน่งที่โดดเด่น เพื่อดึงดูดความสนใจ
- ทดสอบข้อความและดีไซน์ของปุ่ม CTA เพื่อหาสิ่งที่ได้ผลที่สุด
3. ใช้การทดสอบ A/B Testing
- ทดสอบองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น ดีไซน์ปุ่ม CTA สี และข้อความ
- ใช้ข้อมูลจากการทดสอบเพื่อปรับปรุง Conversion Rate
- วิเคราะห์ผลอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ เพื่อค้นหาสิ่งที่ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
4. ลดขั้นตอนในกระบวนการ Conversion
- ลดจำนวนฟิลด์ในการกรอกแบบฟอร์ม เช่น จาก 10 ช่อง เหลือ 3 ช่อง
- ใช้ระบบ Auto-Fill หรือ Single Sign On เช่น Google หรือ Facebook
- ทำให้การซื้อหรือสมัครสมาชิกง่ายที่สุด ซึ่งจะช่วยลดความยุ่งยากและทำให้เกิดประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน
5. ปรับเว็บไซต์ให้รองรับมือถือ
- ออกแบบเว็บไซต์ให้แสดงผลได้ดีบนมือถือ
- เพิ่มความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์
- ตรวจสอบว่า CTA และฟอร์มใช้งานง่ายบนหน้าจอขนาดเล็ก
6. ใช้ข้อเสนอพิเศษหรือส่วนลด
- เสนอโปรโมชันที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยใช้โปรโมชันแบบจำกัดเวลา เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจ
- ใช้คูปองส่วนลดหรือจัดส่งฟรีสำหรับการซื้อครั้งแรก
- เพิ่มคำกระตุ้นเช่น “จำนวนจำกัด” หรือ “ข้อเสนอหมดเขตวันนี้”
7. เพิ่มความน่าเชื่อถือ
- แสดงเครื่องหมายความปลอดภัย เช่น SSL หรือ Trusted Payment
- ใส่รีวิวหรือคะแนนจากผู้ใช้จริง
- ใช้โลโก้ของพาร์ทเนอร์หรือรางวัลที่ได้รับ เพื่อแสดงให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์มีความมั่นใจในธุรกิจมากยิ่งขึ้น
8. เพิ่มความเร็วเว็บไซต์
- ลดเวลาในการโหลดหน้าเว็บไซต์ให้น้อยกว่า 3 วินาที
- ใช้ Content Delivery Network (CDN) เพื่อเพิ่มความเร็ว
- บีบอัดรูปภาพและลดขนาดไฟล์
9. ใช้เทคนิค Personalization
- แนะนำสินค้าหรือบริการให้เหมาะกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน
- ส่งอีเมลหรือข้อความเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับความสนใจด้วย Email MarKeting
- ใช้ข้อมูลจากระบบ CRM เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์กับลูกค้า
10. เก็บและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า
- ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ เช่น Google Analytics หรือ Heatmap
- วิเคราะห์เส้นทางการใช้งานของผู้ใช้ หรือ Customer Journey
- ปรับกลยุทธ์ตามข้อมูลเชิงลึก เพื่อแก้ปัญหาและเพิ่ม Conversion
สรุป
Conversion Rate คืออะไร? โดย CVR ถือเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญ สำหรับการทำธุรกิจ โดยเฉพาะสำหรับทีมการตลาด เพราะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจว่ากลยุทธ์ที่ใช้ สามารถแปลงผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้าหรือผู้ดำเนินการตามเป้าหมายได้มากเพียงใด หากเข้าใจวิธีคิด Conversion Rate คิดยังไง และนำผลลัพธ์ไปปรับปรุงด้วยเทคนิคข้างต้น ก็จะช่วยส่งผลให้อัตรา CVR เพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน
สนใจบริการ
คำถามที่พบบ่อย
คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ Conversion Rate ที่ทุกคนอยากทราบ เราได้รวบรวมคำตอบมาให้เรียบร้อยแล้ว ดังนี้
Conversion Rate หมายถึงอะไร?
Conversion Rate หมายถึง อัตราการเปลี่ยนแปลงของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ดำเนินการตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เช่น การซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก การกรอกแบบฟอร์ม หรือลงทะเบียนกิจกรรม โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากจำนวน Conversion เมื่อเทียบกับจำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด ซึ่งตัวชี้วัดนี้มีความสำคัญสำหรับการประเมินประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดและเว็บไซต์ เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ให้ตอบสนองเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
อัตราการแปลง (Conversion Rate) ในธุรกิจดิจิทัลหมายถึงอะไร?
อัตราการแปลง (Conversion Rate) ในธุรกิจดิจิทัล หมายถึง สัดส่วนของผู้เข้าชมเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ดำเนินการตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เช่น การซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก หรือการดาวน์โหลดไฟล์ โดยคำนวณจากจำนวนผู้ที่ทำ Conversion หารด้วยจำนวนผู้เข้าชมทั้งหมดแล้วคูณด้วย 100 เพื่อแสดงผลในรูปเปอร์เซ็นต์ ตัวชี้วัดนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการวัดความสำเร็จของกลยุทธ์ทางการตลาดดิจิทัลและช่วยให้ธุรกิจปรับปรุงผลลัพธ์ได้ตรงจุด
ค่า CVR คืออะไร?
ค่า CVR คือ อัตราส่วนระหว่างผู้ชมสินค้ากับคนที่ลงมือทำตามเป้าหมายที่ธุรกิจตั้งไว้ ซึ่งเป็นตัวย่อของ Conversion Rate ซึ่งเป็น ค่าที่แสดงอัตราการแปลงของผู้เข้าชมเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ดำเนินการตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เช่น การซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก หรือการกรอกแบบฟอร์ม โดยแสดงในรูปเปอร์เซ็นต์
การวิเคราะห์ Conversion Rate มีประโยชน์อย่างไร?
- ช่วยวัดผลสำเร็จของกลยุทธ์การตลาด: ค่า CVR ช่วยให้ทราบว่าแคมเปญการตลาดหรือเว็บไซต์มีประสิทธิภาพเพียงใดในการกระตุ้นผู้ใช้งานให้ทำกิจกรรมตามเป้าหมาย
- ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์: หากค่า CVR ต่ำ ธุรกิจสามารถวิเคราะห์และปรับปรุงองค์ประกอบ เช่น เนื้อหา เว็บไซต์ UX/UI หรือข้อเสนอต่าง ๆ เพื่อเพิ่มอัตราการแปลง
- ใช้เพื่อเปรียบเทียบและติดตามผลลัพธ์: ใช้เปรียบเทียบความสำเร็จของแคมเปญหรือกิจกรรมต่าง ๆ ว่าใช้ได้ผลมากน้อยเพียงใด