ทำ SEO ให้ติดหน้าแรกของ Google ทราฟฟิกตามเป้าหมายกับ Cipher

การทำ SEO (Search Engine Optimization)

การทำ SEO จะช่วยเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บไซต์ ซึ่งจะนำพากลุ่มเป้าหมายและผู้ชมเข้ามายังเว็บไซต์ธุรกิจของคุณอยู่เรื่อยๆ โดยที่คุณไม่ต้องเสียเงินไปกับการลงโฆษณาทาง Google SEO จะทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับหน้าแรกเพิ่มอัตราการมองเห็นและการเข้าถึงเท่ากับการลงโฆษณา แต่เว็บไซต์ของคุณจะดูน่าเชื่อถือ และผู้คนให้ความไว้วางใจมากกว่า เพราะว่าพวกเขาจะไม่รู้สึกว่าคุณกำลังขายของพวกเขาอยู่ การทำ SEO ที่ประสบความสำเร็จ หมายถึงเม็ดเงินจำนวนมากที่ไหลเข้าสู่ธุรกิจ

และเนื่องจากมีเว็บไซต์อยู่เป็นจำนวนมาก Google จึงต้องจำเป็นต้องสร้างเงื่อนไขเว็บไซต์ที่จะติดอันดับขึ้นมา ทั้งนี้ก็เพื่อตอบสนองต่อผู้ที่เข้ามาใช้งาน Google ในการค้นหาข้อมูล เพราะหาก Google ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้ ผู้คนก็จะไม่ใช้งาน Google เช่นเดียวกัน ดังนั้นเว็บไซต์ที่ Google จะมอบอันดับที่ดีให้ จึงเป็นเว็บไซต์ที่ต้องตอบสนองกลุ่มผู้ใช้งานของ Google ได้ตามเงื่อนไขที่ Google ได้วางไว้ ไม่ว่าจะเป็น

  • บทความที่มีประโยชน์ มี Information ที่ลูกค้าหรือผู้ใช้งานอยากรู้
  • มี Keyword ที่กลุ่มเป้าหมายให้ในการค้นหาข้อมูล สินค้าและบริการต่างๆ ฯลฯ
  • สามารถแสดงผลทางหน้าจอโทรศัพท์มือถือได้อย่างสวยงาม
  • สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
  • มีผู้เข้าใช้งานเป็นจำนวนมาก
  • มีคุณภาพเหมาะสมกับการติดอันดับ
  • ฯลฯ

ซึ่งแม้จะดูเหมือนเป็นหัวข้อง่ายๆ แต่ความจริงแล้วแต่ละหัวข้อนั้นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้านในการปรับแต่งเว็บไซต์ เพราะมีรายละเอียดยิบย่อยที่ต้องปรับแต่งให้เหมาะสมในการทำ SEO เพื่อนำพาให้เว็บไซต์ธุรกิจนั้นสามารถไปสู่การติดอันดับของ Google ได้ในที่สุด

เราคือบริษัทรับทำ SEO ชั้นนำ ที่มีบริการรับทำ SEO โปรโมทเว็บไซต์ที่ครอบคลุม ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดมีคนมองเห็นบนหน้าแรกของ Google

รวมถึงขยายศักยภาพในตลาดได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณกำลังสร้างธุรกิจข้ามชาติที่เติบโตอย่างรวดเร็วไปสู่ตลาดโลก หรือเป็นธุรกิจ SMEs ที่ต้องการจะขยายฐานลูกค้าในประเทศให้กว้างยิ่งขึ้น ด้วยทีมงานมืออาชีพผู้มีประสบการณ์ เรารับทำ SEO ได้ทั้ง Website, Facebook Fanpage และ Youtube ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง และใช้งานได้ยาวนาน

คนส่วนใหญ่เลือกคลิกเว็บไซต์อันดับที่เท่าไหร่ ?

ผลการสำรวจจากเว็บไซต์ Highervisibility ระบุว่า ผู้ค้นหาข้อมูลทางออนไลน์มากถึง 95% มักจะเลือกคลิกเข้าชมเว็บไซต์ที่ปรากฏอยู่ในหน้าแรกของผลการค้นหา Google โดยเฉพาะอย่างยิ่งเว็บไซต์ที่ติดอันดับ 1 จะมีโอกาสได้รับคลิกถึง 32% ตามมาด้วยอันดับ 2 และ 3 ที่ 16% และ 10% ตามลำดับ ในขณะที่เว็บไซต์ที่ติดอยู่ในหน้าที่ 2 ของผลการค้นหา จะมีอัตราการคลิกเฉลี่ยเพียงแค่ 1% เท่านั้น ดังนั้น หากคุณต้องการเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายผ่านทางออนไลน์ การทำ SEO ให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับในหน้าแรกของ Google จึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ

ที่น่าสนใจคือ ผู้ค้นหาออนไลน์ราว 70-80% จะเลือกคลิกเข้าชมเว็บไซต์ที่ติดอันดับในผลการค้นหาแบบธรรมชาติ (Organic Search Results) มากกว่าเว็บไซต์ที่ลงโฆษณาในตำแหน่งด้านบน (Paid Search Results) ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การทำ SEO ยังคงเป็นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ได้ผลดีกว่าการลงโฆษณาเสียอีก อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เราจะเริ่มต้นวางแผนกลยุทธ์ SEO สิ่งสำคัญอันดับแรกที่ต้องคำนึงถึงคือ การเลือก Keyword หรือคำค้นหาที่เหมาะสมกับเว็บไซต์และธุรกิจของเรา

SEO กับ SEM แตกต่างกันอย่างไร ?

SEO

SEO (Search Engine Optimization) คือ การปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ ทั้งในด้านเนื้อหา โครงสร้าง และองค์ประกอบทางเทคนิคต่างๆ ให้ตรงกับอัลกอริทึมของ Search Engine เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับในผลการค้นหาแบบ Organic อันดับที่ดีขึ้นเมื่อผู้ใช้ค้นหาด้วยคำสำคัญที่เกี่ยวข้อง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งต้องอาศัยการทำอย่างต่อเนื่องระยะยาว

SEM

SEM (Search Engine Marketing) คือ การทำการตลาดผ่าน Search Engine โดยการซื้อโฆษณาแบบ PPC (Pay-Per-Click) ซึ่งโฆษณาจะแสดงอยู่ส่วนบนของหน้าผลการค้นหา เหนือผลการค้นหาแบบ Organic โดยเสียค่าใช้จ่ายเมื่อมีคนคลิกเข้ามา ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาอันสั้น

ทำไมธุรกิจเว็บไซต์ควรลงทุนทำ SEO ?

การทำ SEO นั้นคุ้มค่าแก่การลงทุนสำหรับธุรกิจเว็บไซต์ เพราะเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจสูงในสินค้าหรือบริการของธุรกิจเว็บไซต์ เมื่อเทียบกับการทำโฆษณาทั่วไป SEO ใช้งบประมาณน้อยกว่า แต่สามารถสร้างผลลัพธ์ระยะยาว นอกจากนี้ การทำ SEO ยังสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่มักจะเริ่มต้นการค้นหาข้อมูลผ่านทาง Search Engine ก่อนจะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ

องค์ประกอบหลักของการทำ SEO มีอะไรบ้าง ?

การทำ SEO ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่

  1. On-Page SEO – การปรับแต่งองค์ประกอบภายในหน้าเว็บไซต์ เช่น เนื้อหา การใช้ Heading Tag การตั้งชื่อรูปภาพ URL เป็นต้น
  2. Off-Page SEO – การสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์จากภายนอก โดยการทำ Backlink หรือการที่เว็บไซต์อื่นๆ มีการเชื่อมโยงลิงก์มายังเว็บไซต์ของเรา
  3. Technical SEO – การปรับแต่งเว็บไซต์ในเชิงเทคนิค เช่น การทำ SSL การเพิ่มความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ การทำ Mobile Optimization เป็นต้น

การทำ On-Page SEO

On-Page SEO คือการปรับปรุงองค์ประกอบภายในหน้าเว็บไซต์ให้เหมาะสม เพื่อให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น และเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประโยชน์สูงสุด ตัวอย่างของการทำ On-Page SEO ได้แก่ การเลือกใช้ Keyword ที่เหมาะสม การเขียนเนื้อหาที่มีคุณภาพ การใช้ Heading Tag การตั้งชื่อรูปภาพ และ URL ให้สอดคล้องกับเนื้อหา เป็นต้น

การทำ Off-Page SEO

Off-Page SEO หรือการสร้าง Backlink เป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ ผ่านการที่มีเว็บไซต์อื่นๆ อ้างอิงหรือลิงก์มายังเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจะทำให้ Search Engine ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ของเรามากขึ้น ตัวอย่างวิธีการสร้าง Backlink เช่น การเขียน Guest Post ในเว็บไซต์อื่น การแชร์เนื้อหาผ่านโซเชียลมีเดีย การสร้าง Infographic ให้ผู้อื่นนำไปใช้ โดยมีการอ้างอิงลิงก์กลับมา เป็นต้น

การทำ Technical SEO

Technical SEO คือการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ในเชิงเทคนิค เพื่อทำให้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว สะดวก และปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยให้ Search Engine สามารถ Crawl และทำความเข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างการทำ Technical SEO เช่น การติดตั้ง SSL Certificate เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการรับส่งข้อมูล การปรับปรุงความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ การทำ Mobile Optimization เพื่อรองรับการใช้งานบนมือถือ การสร้าง XML Sitemap เพื่ออธิบายโครงสร้างเว็บไซต์ เป็นต้น

ขั้นตอนการทำ SEO อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีการทำ SEO ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญดังนี้

  • กำหนดกลุ่มเป้าหมายและประเด็นเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอ
  • ทำ Keyword Research เพื่อเลือก Keyword ที่เหมาะสม
  • วางโครงสร้างเว็บไซต์ (Site Structure) ที่ชัดเจน สอดคล้องกับ Keyword
  • สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
  • ปรับปรุงการใช้งาน (Usability) และรูปแบบการแสดงผลของเว็บไซต์
  • สร้าง Backlink เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์
  • ทำ Technical SEO เพื่อให้เว็บไซต์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ทำ SEO กับ CIPHER ดียังไง ทำไมต้องเลือกเรา

Cipher พร้อมช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมาย! ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ที่จะช่วยปรับแต่งเว็บไซต์ให้ถูกใจ Search Engine เพิ่มทราฟฟิกคุณภาพสูงให้กับเว็บไซต์ของคุณ อย่ารอช้า ติดต่อเราวันนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจบนโลกออนไลน์ ให้ Cipher เป็นตัวช่วยสำคัญในการเติบโตของคุณ!

สรุป

SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นกระบวนการปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้ติดอันดับในหน้าแรกของผลการค้นหา โดยมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดผู้เข้าชมที่มีแนวโน้มจะกลายเป็นลูกค้า การทำ SEO เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด โดยใช้ต้นทุนที่ต่ำกว่าการทำโฆษณา แต่สามารถสร้างผลลัพธ์ได้ในระยะยาว ธุรกิจที่ต้องการความสำเร็จบนโลกออนไลน์ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำ SEO ควบคู่ไปกับการพัฒนาเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ

คำถามที่พบบ่อย

SEO หรือ Search Engine Optimization คืออะไร ?

SEO หรือ Search Engine Optimization คือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้เป็นที่ถูกใจของ Google และเครื่องมือค้นหาอื่นๆ เมื่อผู้ใช้ค้นหาข้อมูลบน Google ระบบจะคัดกรองและนำเสนอผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและตรงความต้องการมากที่สุด

การทำ SEO จึงเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถดึงดูดผู้เข้าชมเว็บไซต์แบบ Organic (ธรรมชาติ) ที่มีความสนใจในสินค้าหรือบริการของคุณจริงๆ

Content หรือบทความจะส่งผลต่อการอันดับบน Google หรือไม่ ?

เนื้อหาคือหัวใจสำคัญในการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ บทความที่มีคุณภาพสามารถผลักดันให้เว็บไซต์ติดอันดับต้นๆ บน Google ได้ แต่ต้องคำนึงถึงปัจจัย E-E-A-T ดังนี้:

  • Experience (ประสบการณ์): แสดงให้เห็นว่าผู้เขียนมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ
  • Expertise (ความเชี่ยวชาญ): นำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และเป็นประโยชน์
  • Authoritativeness (ความน่าเชื่อถือ): สร้างความเชื่อมั่นผ่านการอ้างอิงแหล่งที่มา
  • Trustworthiness (ความไว้วางใจ): นำเสนอข้อมูลที่เป็นความจริง ไม่บิดเบือน

ทำ SEO ให้เว็บไซต์ใหม่ ต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะเริ่มได้ยอดขาย ?

การทำ SEO ต้องใช้เวลาและความอดทน โดยทั่วไปมีระยะเวลาดังนี้:

  • 3-4 เดือนแรก: เริ่มเห็นแนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงของอันดับ
  • 5-6 เดือน: สามารถติดอันดับต้นๆ ได้สำหรับคีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันไม่สูง
  • 8-12 เดือน: ระยะเวลาที่เหมาะสมในการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเริ่มได้ยอดขายอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยสำคัญในการทำ SEO ให้ติดอันดับระยะยาว

การติดอันดับ SEO แบบยั่งยืนต้องให้ความสำคัญกับ:

  • การทำตามหลัก E-E-A-T Factor อย่างเคร่งครัด
  • สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ผู้ใช้
  • ปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ
  • มุ่งเน้นการเติบโตแบบ Organic ที่ไม่ต้องพึ่งการยิงโฆษณา
สนใจบริการ SEO ลงทะเบียนเพื่อรับการติดต่อกลับ

เรายินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!

0/5 (0 Reviews)
Scroll to Top