Shopify Plus ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มสำหรับใช้สร้างร้านค้าออนไลน์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้ธุรกิจ E-Commerce สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ด้วยฟังก์ชันที่ครบครันและการปรับปรับแต่งที่เหมาะกับธุรกิจได้อย่างหลากหลาย Shopify Plus จึงสามารถเพิ่มยอดขายและความคล่องตัวให้กับธุรกิจได้อย่างไม่มีสะดุด
สำหรับเจ้าของธุรกิจ E-Commerce หรือร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการประสบความสำเร็จและต้องการเพิ่มยอดขาย Shopify Plus ถือเป็นแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ที่สามารถตอบโจทย์ในธุรกิจได้เป็นอย่างดี
ฟีเจอร์เด่นของ Shopify Plus ที่ช่วยเพิ่มยอดขาย
สำหรับธุรกิจที่กำลังเติบโตและต้องการมุ่งเน้นที่จะสร้างยอดขายพร้อมทั้งการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ Shopify Plus ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเป็นอย่างมาก เพราะมีฟีเจอร์ที่สามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้
1. การจัดการร้านค้าด้วย Shopify Flow
ในการทำงานสำหรับธุรกิจ E-Commerce หรือธุรกิจที่มีการเติบโตมากยิ่งขึ้น ทำให้มีขั้นตอนในการทำงานและต้องการการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดย Shopify Flow เป็นเครื่องมือสำหรับการสร้างกระบวนการทำงานอัตโนมัติที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถลดงานที่ทำซ้ำซ้อน เช่น การส่งอีเมลแจ้งเตือนสินค้าใกล้หมด หรือการจัดการลูกค้าใหม่ได้อย่างง่ายดาย ตัวอย่างเช่น ร้านค้าเสื้อผ้าอาจใช้ Flow เพื่อส่งอีเมลส่วนลดให้กับลูกค้าที่เข้าร่วมโปรแกรมสมาชิก ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย
2. การสร้างแคมเปญผ่าน Launchpad
สำหรับธุรกิจที่มีการเติบโตหรือธุรกิจที่มีสินค้าจำนวนมาก ทำให้จำเป็นต้องรับมือกับการจัดการคำสั่งซื้อต่าง ๆ จำนวนมาก โดย Launchpad เป็นเครื่องมือสำหรับการจัดการโปรโมชันและแคมเปญการขาย โดยช่วยให้สามารถวางแผนล่วงหน้าและจัดการโปรโมชันแบบอัตโนมัติ เช่น การตั้งเวลาการลดราคาหรือการเปลี่ยนแปลงหน้าเว็บอัตโนมัติในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น ธุรกิจขายสินค้าตามฤดูกาลหรือตามเทศกาล ซึ่งสามารถใช้ Launchpad เพื่อเปิดตัวแคมเปญโปรโมชันสินค้าให้เหมาะสมกับช่วงเทศกาล และกำหนดช่วงเวลาของโปรโมชันได้อย่างอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Launchpad เพื่อตรวจสอบยอดขายและสินค้าอื่น ๆ ในสต๊อกได้แบบเรียลไทม์
3. การสร้างข้อเสนอเพื่อกระตุ้นยอดขายด้วย Shopify Scripts
Shopify Scripts ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับแต่งประสบการณ์การช็อปปิ้งของลูกค้าได้ดีขึ้น โดยสามารถเพิ่มหรือปรับแต่งส่วนลดเฉพาะกลุ่มลูกค้าหรือสร้างข้อเสนอพิเศษ ตัวอย่างเช่น ร้านขายสินค้าเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาจสร้างข้อเสนอให้กับลูกค้าที่ซื้อครบตามจำนวนเพื่อรับส่วนลดพิเศษ หรือได้รับของแถม ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นยอดขายทำให้ลูกค้ามีการสั่งซื้อสินค้าอื่น ๆ ในร้านค้ามากยิ่งขึ้น
4. การผสานการทำงานกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางการขาย
Shopify Plus เป็นแพลตฟอร์ม E-Commerce ที่เปิดกว้าง สามารถผสานการทำงานกับแอปพลิเคชันได้มากมายและรองรับการขายสินค้าผ่านหลายช่องทาง เช่น เว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ทำให้สามารถเพิ่มโอกาสการเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น ธุรกิจเครื่องสำอาง สามารถเชื่อมโยงร้านค้าบน Instagram เพื่อให้ลูกค้าซื้อสินค้าโดยตรงจากโพสต์ได้ทันที อีกทั้งยังสามารถเพิ่มการรับรู้จากการแชร์ได้ ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายจากผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย
5. การชำระเงินที่สะดวกและรวดเร็วด้วย Shop Pay
Shop Pay เป็นระบบการชำระเงินที่รวดเร็วและปลอดภัย ลชช่วยให้ลูกค้าสามารถทำการชำระเงินได้ง่ายขึ้นผ่านการบันทึกข้อมูลการชำระเงินล่วงหน้า นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์การชำระเงินแบบแบ่งจ่าย (Shop Pay Installments) ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าราคาสูงโดยแบ่งจ่ายได้เป็นงวด ทำให้ยอดขายจากสินค้าที่มีราคาสูงเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น ธุรกิจที่ขายสินค้าที่มีราคาสูง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า หากใช้ฟีเจอร์นี้เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้ามีราคาสูงโดยไม่ต้องจ่ายเงินทีเดียว ทำให้มีโอกาสที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
การปรับแต่งแพลตฟอร์ม Shopify Plus ให้เข้ากับธุรกิจขนาดใหญ่
ธุรกิจ E-Commerce ในแต่ละธุรกิจมีแตกต่างทั้งในตัวของสินค้า การบริการ และรูปแบบของการบริหารการจัดการทำงานที่แตกต่างกัน ทำให้การปรับแต่งแพลตฟอร์ม Shopify Plus ให้เหมาะสมกับธุรกิจขนาดใหญ่ต้องเน้นการใช้ฟีเจอร์ขั้นสูงที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่น ซึ่ง Shopify Plus มีความสามารถที่ตอบโจทย์ธุรกิจขนาดใหญ่ได้ไม่ว่าจะเป็น การปรับแต่งเทมเพลตและฟังก์ชันต่าง ๆ สำหรับเว็บไซต์ โดย Shopify Plus รองรับการปรับแต่งหน้าร้านค้าด้วย Liquid ซึ่งเป็นภาษาเฉพาะของ Shopify ทำให้ธุรกิจขนาดใหญ่สามารถปรับแต่งธีมและการทำงานให้ตรงกับความต้องการเฉพาะ เช่น การแสดงผลสินค้า การจัดการโปรโมชัน และการเพิ่มฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ อีกทั้ง Shopify Plus ยังเปิดให้ธุรกิจขนาดใหญ่เข้าถึง API ที่ครอบคลุมการทำงานทุกส่วน เช่น การเชื่อมต่อกับระบบ CRM ระบบจัดการสินค้าคงคลัง และระบบบัญชี ซึ่งเหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับแต่งและเชื่อมต่อระบบภายในตามความต้องการเฉพาะ
นอกจากนี้ธุรกิจขนาดใหญ่อาจมีหลายแบรนด์หรือหลายร้านค้า Shopify Plus รองรับการจัดการหลาย Store จากบัญชีเดียว ทำให้สามารถสร้างเว็บไซต์ย่อย (Sub-store) สำหรับแบรนด์หรือตลาดที่มีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน พร้อมทั้งจัดการแค็ตตาล็อกสินค้าและข้อมูลลูกค้าได้ในที่เดียว ทำให้ธุรกิจขนาดใหญ่ที่ดำเนินงานในหลายประเทศสามารถปรับ Shopify Plus ให้รองรับหลายภาษาและหลายสกุลเงินได้ เพิ่มประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบายและเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าในแต่ละประเทศ
Shopify Plus มีฟีเจอร์ขั้นสูงเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจขนาดใหญ่สามารถปรับแต่ง Shopify Plus ให้เหมาะกับความต้องการในแต่ละธุรกิจได้ และสามารถเพิ่มยอดขายพร้อมทั้งสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประสบการณ์จากธุรกิจจริงที่ประสบความสำเร็จจากการใช้งาน Shopify Plus
ประสบการณ์จากธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการใช้งาน Shopify Plus โดยมีตัวอย่างจากหลากหลายธุรกิจที่เลือกใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อเพิ่มยอดขายและพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจออนไลน์ เช่น
- Allbirds: แบรนด์รองเท้าผู้เป็นที่รู้จักในเรื่องการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีการเลือกใช้แพลตฟอร์ม Shopify Plus โดย Allbirds สามารถปรับแต่งเว็บไซต์ให้ตรงกับค่านิยมด้านความยั่งยืนของแบรนด์ เช่น การให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ และการเพิ่มประสิทธิภาพในการขายข้ามช่องทาง (omnichannel) นอกจากนี้ยังสามารถขยายกิจการไปยังตลาดต่างประเทศได้อย่างรวดเร็วผ่านฟีเจอร์การจัดการหลายสกุลเงิน เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจที่ขยายตัวไปยังภูมิภาคต่าง ๆ
- Kylie Cosmetic: แบรนด์เครื่องสำอางที่ก่อตั้งโดย Kylie Jenner ใช้แพลตฟอร์ม Shopify Plus เพื่อรองรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีการตอบรับจากลูกค้าอย่างรวดเร็ว โดย Shopify Plus สามารถจัดการกับการเข้าชมและยอดคำสั่งซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องในเวลาสั้น ทำให้แบรนด์สามารถทำยอดขายสินค้าจำนวนมหาศาลได้ในวันเดียว นอกจากนี้ Shopify Plus ยังช่วยปรับแต่งหน้าร้านค้าออนไลน์ให้เหมาะกับการสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีให้กับลูกค้า
จะเห็นได้ว่า Shopify Plus เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายการขายออนไลน์ และรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับปริมาณการขายในช่วงโปรโมชัน การขยายธุรกิจระดับสากล หรือการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นสำหรับลูกค้า พร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจปรับตัวและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ต้องการขยายร้านค้าเพื่อสร้างยอดขายด้วย Shopify Plus ได้อย่างไร?
สำหรับธุรกิจ E-Commerce หรือร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการสร้างยอดขายและรองรับการเติบโตในอนาคต Shopify Plus ถือได้ว่าเป็นทางเลือกที่สามารถสร้างยอดขายให้ปังมากขึ้นได้อีกช่องทางหนึ่ง หากธุรกิจขอคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มร้านค้าที่มีความยืดหยุ่นและมีฟีเจอร์ที่ช่วยตอบโจทย์ธุรกิจ E-Commerce ได้อย่างครบครัน สามารถติดต่อเพื่อขอรับคำแนะนำการใช้งานได้ที่: (คลิกที่นี่)