Table of Contents
Digital Marketing คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรต่อธุรกิจออนไลน์?
เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ต เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น Digital Marketing คือ ปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือองค์กรใหญ่ ต่างต้องปรับตัวเข้าสู่การตลาดออนไลน์ เพื่อเพิ่มโอกาสและขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลาย เช่น การทำ Email Marketing เพื่อสื่อสารกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด การทำ SEO ให้ติดหน้าแรกของ Google เพื่อเพิ่มการมองเห็น และ การทำ Online Advertising ที่ช่วยกระตุ้นยอดขายได้อย่างรวดเร็ว
ที่สำคัญ การตลาดดิจิทัลยังครอบคลุมถึง การทำ Social Media Marketing ที่ช่วยสร้างการรับรู้และเพิ่มการมีส่วนร่วมผ่านแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น Facebook การใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น CIPHER ที่รวมทุกโซลูชันด้าน Digital Marketing จะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีความได้เปรียบในการแข่งขัน พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัลได้อย่างครบวงจร และในบทความนี้เราจะพาคุณไปคำตอบว่าทำไมการทำ Digital Marketing คือ สิ่งที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงธุรกิจของคุณได้
Digital Marketing คืออะไร?
Digital Marketing คืออะไร? หากคุณเป็นนักการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจ เชื่อว่าจะต้องรู้จักคำว่า Marketing เป็นอย่างดี เพราะ Marketing คือ การทำการตลาดให้แบรนด์หรือธุรกิจของคุณ กลายเป็นที่รู้จัดของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย โดย Digital Marketing คือ การทำการตลาดแบบดิจิทัล ซึ่งเป็นการทำการตลาดผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นสื่อกลางในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้านั่นเอง
การทำการ Digital Marketing คือ การทำการตลาดที่แตกต่างจากการทำการตลาดทั่วไป เพราะสามารถในการเข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกที่ทุกเวลา และสามารถปรับแต่งกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ยังมีต้นทุนที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับการตลาดแบบดั้งเดิมอย่างการโฆษณาทางทีวีหรือสิ่งพิมพ์ และสามารถวัดผลลัพธ์ได้ชัดเจน เช่น จำนวนคลิก การมีส่วนร่วม หรือยอด Engagement และยอดขาย ทำให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงกลยุทธ์ได้แบบเรียลไทม์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำการตลาดได้มากยิ่งขึ้น
Digital Marketing ต่างกับ Online Marketing อย่างไร?
Digital Marketing เป็นการตลาดผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลที่ครอบคลุมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เช่น การโฆษณาผ่าน SMS การตลาดผ่านทีวีดิจิทัล หรือป้ายบิลบอร์ดดิจิทัล โดยไม่จำกัดแค่กิจกรรมที่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต แต่รวมถึงช่องทางดิจิทัลทั้งหมดที่ช่วยส่งเสริมการเข้าถึงลูกค้าในรูปแบบต่าง ๆ
Online Marketing เป็นส่วนหนึ่งของ Digital Marketing ที่มุ่งเน้นเฉพาะกิจกรรมที่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อกลาง เช่น
- การทำ SEO บนเว็บไซต์
- การโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดีย
- การส่งอีเมลแคมเปญ หรือ Email Marketing
- การทำ Content Marketing
ซึ่งจะมีข้อจำกัดที่แตกต่างจาก Digital Marketing คือ การทำการตลาดของ Online Marketing ทุกกิจกรรม จะต้องพึ่งพาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตนั่นเอง
สรุปแล้ว Digital Marketing จะครอบคลุมการตลาดทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ และ Online Marketing เป็นส่วนหนึ่งของ Digital Marketing และโฟกัสเฉพาะการตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์เท่านั้น
Digital Marketing สำคัญต่อธุรกิจออนไลน์อย่างไร?
ไม่ว่าจะเป็น Digital Marketing หรือการทำการตลาดออนไลน์ ก็เป็นสิ่งที่ธุรกิจต้องให้ความสำคัญ เพราะพฤติกรรมของผู้คนเปลี่ยนไป ทำให้ธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวสู่โลกออนไลน์ ซึ่งการทำการตลาดแบบเดิม อาจไม่เพียงพอ ทำให้การทำ Digital Marketing มีผลสำคัญต่อธุรกิจออนไลน์ดังนี้
เพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
Digital Marketing ใช้เทคโนโลยีและข้อมูล เพื่อช่วยระบุและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม เช่น การใช้เครื่องมืออย่าง Google Ads หรือ Facebook Ads ที่สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายตามอายุ เพศ ความสนใจ และพฤติกรรมออนไลน์ ทำให้โฆษณาเข้าถึงเฉพาะผู้ที่มีความสนใจสินค้าและบริการของธุรกิจของคุณจริง ๆ ซึ่งการเข้าถึงกลุ่มคนที่เป็นเป้าหมายเหล่านี้ ช่วยลดต้นทุนการโฆษณาและเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากยิ่งขึ้น
สร้างการรับรู้และความน่าเชื่อถือ
ธุรกิจออนไลน์สามารถใช้ Digital Marketing ในการสร้างตัวตนบนโลกดิจิทัล เช่น การมีเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ การโพสต์เนื้อหาที่เป็นประโยชน์บนโซเชียลมีเดีย หรือการส่งอีเมลเพื่อให้ข้อมูลแก่ลูกค้า เมื่อธุรกิจสร้างการรับรู้ที่ดีและมีความสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มความไว้วางใจและการจดจำแบรนด์ในระยะยาว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งที่ไม่มีตัวตนบนโลกออนไลน์
วัดผลและปรับกลยุทธ์ได้แบบเรียลไทม์
Digital Marketing มีข้อได้เปรียบสำคัญคือความสามารถในการติดตามและวิเคราะห์ผลลัพธ์ได้ทันที เช่น การดูจำนวนคลิกในโฆษณา การวิเคราะห์ยอดขายผ่าน E-Commerce หรือการวัดผลจากการมีส่วนร่วม หรือ Engagement บนโซเชียลมีเดีย โดยธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ เพื่ออนำมาปรับปรุงกลยุทธ์ในแบบเรียลไทม์ เช่น หากโฆษณาแบบหนึ่งไม่ได้ผล ก็สามารถเปลี่ยนข้อความหรือภาพโฆษณาใหม่ทันที ช่วยให้ธุรกิจใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่าและเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการสร้างแคมเปญครั้งต่อไปมากขึ้น
การทำการตลาดออนไลน์ มีช่องทางไหนบ้าง?
1. Website Marketing
Website Marketing หรือ การตลาดผ่านเว็บไซต์ คือ ประเภท Digital Marketing ที่การใช้เว็บไซต์เป็นศูนย์กลางในการสร้างแบรนด์และทำการตลาดออนไลน์ โดยเว็บไซต์ช่วยให้ธุรกิจ สามารถนำเสนอข้อมูลสินค้าและบริการได้อย่างครอบคลุม พร้อมทั้งเป็นพื้นที่ที่ผู้ใช้งานสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก หรือการติดต่อโดยตรงกับแบรนด์ได้
นอกจากนี้ เว็บไซต์ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะหากออกแบบให้ใช้งานง่าย รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ต่าง ๆ และมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์โดยมีเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน ก็จะทำให้การทำ Digital Marketing บนเว็บไซต์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
2. Search Engine Optimization (SEO)
SEO คือ การปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้ติดอันดับในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหาบน Google โดยการใช้คำหลักหรือคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ได้รับการเข้าชมจากกลุ่มเป้าหมาย
การทำ Digital Marketing ด้วย SEO ต้องคำนึงถึงทั้งเนื้อหาของบทความที่มีคุณภาพ และโครงสร้างเว็บไซต์ รวมถึงความเร็วในการโหลดและการรองรับการใช้งานบนมือถือ ก็ส่งผลต่อ SEO ด้วยเช่นกัน
3. Email Marketing
Email Marketing เป็นอีกหนึ่งช่องทางสุดคลาสสิกในการทำ Digital Marketing ที่ยังคงใช้ได้ผลอยู่ ซึ่งเป็นการส่งข้อความทางการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายผ่านอีเมล เช่น การส่งโปรโมชัน ข่าวสาร หรือข้อมูลผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้า
การออกแบบอีเมลที่น่าสนใจและปรับให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการใช้ระบบติดตามผล เช่น อัตราการเปิดอ่าน เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นการสร้างอีเมลและติดตามผล จำเป็นต้องมีเครื่องมือการตลาดที่มีประสิทธิภาพ เช่น HubSpot เพื่อใช้ในการสร้างอีเมลและติดตามผล
4. Social Media Marketing
Social Media Marketing หรือ การตลาดบนโซเชียลมีเดีย เป็นกลยุทธ์การทำ Digital Marketing ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งเป็นการทำการตลาดผ่านการใช้แพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook, Instagram, หรือ TikTok ในการโปรโมตแบรนด์และสินค้า ซึ่งเน้นการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้ใช้งาน
นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย ยังช่วยกำหนดเป้าหมายการเข้าถึงอย่างตรงจุด เช่น กลุ่มผู้ใช้งานตามช่วงอายุ ความสนใจ หรือพื้นที่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย
5. Content Marketing
Content Marketing คือ การตลาดด้วยเนื้อหามุ่งเน้นการสร้างและเผยแพร่ข้อมูลที่มีคุณค่า เป็นประโยชน์ หรือช่วยแก้ปัญหาหรือตอบคำถามของกลุ่มเป้าหมายได้ เช่น
- บล็อก: เพื่อให้ความรู้หรือตอบข้อสงสัยของลูกค้า
- วิดีโอ: เพื่อให้ความบันเทิงและสื่อสารแบรนด์
- คู่มือ (E-Book): เพื่อเจาะลึกข้อมูลในหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
เนื้อหาที่ดีไม่เพียงแค่สร้างความสนใจในสินค้าและบริการ แต่ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในฐานะแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า
6. Mobile Marketing
Mobile Marketing คือ เทคนิคการทำการตลาด Digital ด้วยการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านอุปกรณ์มือถือ เช่น การส่งข้อความ การโฆษณาผ่านแอปพลิเคชัน หรือการสร้างเว็บไซต์ที่รองรับการใช้งานบนสมาร์ตโฟน
ด้วยจำนวนผู้ใช้งานมือถือที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การทำการตลาดบนมือถือ จึงเป็นช่องทางสำคัญ ที่ช่วยสร้างประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกและดึงดูดความสนใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7. Search Engine Marketing (SEM)
SEM เป็นการใช้โฆษณาที่แสดงในผลการค้นหาบนเครื่องมือค้นหา เช่น Google Ads โดยที่ทาง Google จะเรียกเก็บเงินเราจากจำนวนคลิกที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมเรา เรียกอีกอย่างว่า Paid Per Click หรือ PPC เพื่อเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ในทันที
เมื่อเว็บไซต์ยังไม่ติดอันดับ SEO การวางแผนคำหลักที่เหมาะสมและการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นหัวใจสำคัญในการทำ SEM ให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า และที่สำคัญเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนผู้เข้าชมให้เป็นลูกค้า แต่การทำ SEM ก็มีข้อควรพิจารณาในส่วนของงบประมาณในการทำ PPC และต้องใช้ความพยายามในการพัฒนา และวิเคราะห์จากผลลัพธ์ที่ได้มา ซึ่งอาจไม่เหมาะกับการทำการตลาดในระยะยาว
ทำ Digital Marketing กับ Cipher ดีอย่างไร?
การเลือกพันธมิตรที่เชี่ยวชาญด้าน Digital Marketing เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ CIPHER เป็นผู้ให้บริการด้านการตลาดดิจิทัลที่ครบวงจร พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือทันสมัยที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์ โดย CHIPHER มีบริการที่จะช่วยผลักดันธุรกิจของคุณ เช่น
- การทำ Email Marketing: CIPHER ช่วยออกแบบและจัดส่งแคมเปญอีเมลที่ตรงเป้าหมาย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและเพิ่มยอดขาย โดยเน้นการออกแบบที่ดึงดูดใจและข้อความที่กระตุ้นการตอบสนอง
- การทำ SEO ให้ติดหน้าแรกของ Google:
ด้วยกลยุทธ์ SEO ที่ครอบคลุม CIPHER ช่วยเพิ่มการมองเห็นให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับต้น ๆ บน Google ซึ่งช่วยดึงดูดผู้เข้าชมที่เป็นกลุ่มเป้าหมายและเพิ่มโอกาสการขาย - การทำ Online Advertising:
ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาบน Google Ads หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ CIPHER มีทีมงานที่เชี่ยวชาญในการวางแผนและจัดการแคมเปญโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากับการลงทุน - การทำ Social Media Marketing:
CIPHER ช่วยคุณสร้างสรรค์และจัดการเนื้อหาบนโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook เพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์และกระตุ้นการมีส่วนร่วมจากกลุ่มเป้าหมาย
CIPHER ไม่เพียงแค่ให้บริการด้าน Digital Marketing แต่ยังมุ่งเน้นการวางกลยุทธ์เฉพาะที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ พร้อมการวัดผลที่ชัดเจนและคำแนะนำเพื่อปรับปรุงแคมเปญในอนาคต ให้ธุรกิจของคุณเติบโตขึ้น!
สรุป
Digital Marketing คือ กลยุทธ์สำคัญในการสร้างแบรนด์หรือพัฒนาธุรกิจให้เติบโตได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการตลาดที่กว้างและครอบคลุมช่องทางออนไลน์ทั้งหมด หากเลือกช่องทางหรือประเภทของ Digital Marketing ที่เหมาะสม ธุรกิจของคุณ ก็จะสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งบนโลกดิจิทัลได้อย่างแน่นอน
สนใจบริการ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Digital Marketing
หลาย ๆ คนคงทราบความหมายของ Digital Marketing แล้ว แต่อาจจะมีสงสัยและคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing ซึ่งเราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยและคำตอบไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
Digital Marketing คืออะไร มีอะไรบ้าง?
Digital Marketing คือ การตลาดดิจิทัล ซึ่งการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในยุคดิจิทัล โดยใช้สื่อและเทคโนโลยี เช่น อินเทอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย อีเมล และเว็บไซต์ เพื่อโปรโมตสินค้าและบริการ รวมถึงสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า การตลาดแบบนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดและวัดผลได้อย่างแม่นยำ ซึ่งประเภท Digital Marketing มีหลายประเภทและแบ่งได้หลายช่องทางตามลักษณะการใช้งาน เช่น
- การตลาดบนโซเชียลมีเดีย (Social Media Marketing)
- การทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับ (Search Engine Optimization)
- การโฆษณาผ่าน Google Ads (Search Engine Marketing)
- การส่งอีเมลให้ลูกค้า (Email Marketing)
- การสร้างเนื้อหาคุณภาพ (Content Marketing)
- การทำโฆษณาผ่านมือถือ (Mobile Marketing)
- การโฆษณาผ่านเครื่องมือค้นหา (Search Engine Marketing)
ตำแหน่งงาน Digital Marketing มีอะไรบ้าง?
งานด้าน Digital Marketing มีหลายตำแหน่งที่ครอบคลุมทักษะและหน้าที่เฉพาะด้าน ตัวอย่างเช่น
- Digital Marketing Specialist: ที่ดูแลการวางกลยุทธ์การตลาดออนไลน์โดยรวม ตั้งแต่การจัดการแคมเปญโฆษณา การเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ไปจนถึงการวิเคราะห์ผลลัพธ์เพื่อปรับปรุงการตลาด
- Social Media Manager: ที่ดูแลการสื่อสารและสร้างคอนเทนต์ในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram และ TikTok เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์และเพิ่มการมีส่วนร่วมจากผู้ติดตาม
- Content Marketing Specialist: ที่รับผิดชอบการสร้างเนื้อหา เช่น บทความ, วิดีโอ, หรืออินโฟกราฟิก ซึ่งช่วยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้สนใจแบรนด์
- SEO Specialist: ที่เน้นการปรับปรุงเว็บไซต์และเนื้อหาให้ติดอันดับในเครื่องมือค้นหา เช่น Google
- Email Marketing Specialist: ที่มุ่งเน้นการสื่อสารผ่านอีเมลเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า
- Data Analyst: ที่วิเคราะห์ข้อมูลแคมเปญการตลาดเพื่อให้คำแนะนำ
- E-commerce Manager: ที่บริหารการขายสินค้าออนไลน์
- PPC Specialist: ดูแลการโฆษณาหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด PPC คือนักการตลาดดิจิทัลที่เชี่ยวชาญการตลาดแบบชำระเงิน (Paid advertising)
Digital Marketing กับ Social Media Marketing ต่างกันอย่างไร?
Digital Marketing คือ การทำการตลาดออนไลน์ผ่านช่องทางดิจิทัลทั้งหมด เช่น เว็บไซต์ อีเมล การโฆษณาในเครื่องมือค้นหา (Google Ads) การทำ SEO และการตลาดบนมือถือ ซึ่งครอบคลุมทุกวิธีที่ธุรกิจใช้สื่อดิจิทัล เพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายและสร้างยอดขาย จุดเด่นของ Digital Marketing คือความหลากหลายของช่องทางที่ใช้ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้าในหลายช่องทาง
ในส่วนของ Social Media Marketing เป็นส่วนหนึ่งของ Digital Marketing ที่มุ่งเน้นการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, TikTok, หรือ LinkedIn เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ สร้างปฏิสัมพันธ์ และกระตุ้นการซื้อ จุดเด่นของ Social Media Marketing คือ การเน้นสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายผ่านการโพสต์เนื้อหา, การโฆษณา, และการสื่อสารแบบสองทาง เช่น การตอบคอมเมนต์
สรุปคือ Digital Marketing เป็นแนวคิดการตลาดที่กว้างและครอบคลุมช่องทางออนไลน์ทั้งหมด ขณะที่ Social Media Marketing เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เจาะจงไปที่โซเชียลมีเดียเพื่อสร้างผลลัพธ์ทางการตลาดในช่องทางเฉพาะเหล่านั้น
Digital Marketing เหมาะกับใคร?
Digital Marketing เป็นทักษะที่ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ และเหมาะกับทั้งบุคคลและองค์กรที่ต้องการประโยชน์จากโลกออนไลน์ เช่น
- ผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจ:
Digital Marketing เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขยายธุรกิจและเข้าถึงลูกค้าในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องการเพิ่มยอดขาย สร้างการรับรู้แบรนด์ หรือขยายตลาดไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ การตลาดออนไลน์ช่วยลดต้นทุนเมื่อเทียบกับการตลาดแบบดั้งเดิม และสามารถวัดผลได้ชัดเจน - ผู้ที่สนใจทำงานในสายการตลาดออนไลน์:
เหมาะสำหรับคนที่สนใจอาชีพด้าน Digital Marketing เช่น Social Media Manager, Content Creator, หรือ SEO Specialist ซึ่งเป็นสายงานที่มีความต้องการสูงในตลาดแรงงานปัจจุบัน โดยเฉพาะผู้ที่ชอบความท้าทายและการเรียนรู้เครื่องมือใหม่ ๆ - นักศึกษาและผู้ที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพ:
เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังศึกษาเกี่ยวกับการตลาดหรือผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสายงานมาสู่ด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล เพราะ Digital Marketing มีหลากหลายบทบาทที่สามารถเรียนรู้และเริ่มต้นได้ แม้ไม่มีพื้นฐานมาก่อน - องค์กรที่ต้องการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล:
เหมาะกับบริษัทหรือองค์กรที่ต้องการเปลี่ยนกลยุทธ์จากการตลาดแบบออฟไลน์สู่โลกออนไลน์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความสามารถในการแข่งขันในตลาด