กลยุทธ์ทางการตลาด คืออะไร? สิ่งที่นักการตลาดควรรู้

Table of Contents

กลยุทธ์ทางการตลาด คืออะไร? สิ่งที่นักการตลาดควรรู้

กลยุทธ์ทางการตลาด คือ แผนที่วางไว้อย่างรอบด้านเพื่อโปรโมทและขายสินค้าหรือบริการ โดยระบุวิธีที่ธุรกิจจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ดึงดูดให้คนสนใจกลายเป็นลูกค้า และสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน Marketing Strategy คือ แผนงานที่มีประสิทธิภาพซึ่งคำนึงถึงการวิจัยตลาด การวางตำแหน่งแบรนด์ กลุ่มเป้าหมาย ช่องทางการตลาด และตัวชี้วัดผลงาน เพื่อให้แน่ใจว่าแผนการตลาดนั้นสอดคล้องกันและได้ผลจริง

องค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์ทางการตลาด

กลยุทธ์ทางการตลาด คืออะไร?

กลยุทธ์ด้านการตลาดที่ประสบความสำเร็จต้องมีองค์ประกอบหลักที่ทำงานประสานกัน ดังนี้

  • การวิจัยตลาด: เข้าใจตลาด ความต้องการของลูกค้า และคู่แข่ง เพื่อกำหนดกลยุทธ์การตลาดที่แม่นยำ
  • การระบุกลุ่มเป้าหมาย: การกําหนดกลยุทธ์ทางการตลาดเริ่มจากการกำหนดกลุ่มลูกค้าเฉพาะที่ธุรกิจตั้งใจจะให้บริการ
  • การวางตำแหน่ง: สร้างภาพลักษณ์และคุณค่าที่โดดเด่นในใจผู้บริโภค เพื่อแยกตัวจากคู่แข่ง
  • ส่วนประสมทางการตลาด (4Ps/8Ps): วางแผนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ราคา ช่องทางจัดจำหน่าย กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด รวมถึงบุคลากร หลักฐานทางกายภาพ กระบวนการ และประสิทธิภาพ
  • การวิเคราะห์ผลลัพธ์: วัดและประเมินผลการตลาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

กลยุทธ์การตลาด แบบ STP Marketing

กลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจรูปแบบหนึ่งคือ STP Marketing ซึ่งเป็นโมเดลที่ประกอบด้วย Segmentation (แบ่งส่วนตลาด), Targeting (กำหนดกลุ่มเป้าหมาย) และ Positioning (วางตำแหน่งแบรนด์) ช่วยให้นักการตลาดปรับแต่งกลยุทธ์ทางการตลาดให้เหมาะกับแต่ละกลุ่มลูกค้า ทำให้การตลาดแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

1. การแบ่งส่วนตลาด (Segmentation)

คือการจัดกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการหรือพฤติกรรมคล้ายกัน เช่น แบรนด์เสื้อผ้ากีฬาอาจแบ่งตลาดเป็น นักกีฬามืออาชีพ คนรักการออกกำลังกาย และผู้ใช้ทั่วไป ช่วยให้สร้างข้อความทางการตลาดที่ตรงใจแต่ละกลุ่ม การกําหนดกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพจึงต้องเริ่มต้นจากการแบ่งส่วนตลาดที่ชัดเจน

2. การคัดเลือกกลุ่มเป้าหมาย (Targeting)

คือการเลือกกลุ่มเฉพาะที่ธุรกิจต้องการให้บริการ เช่น แบรนด์เสื้อผ้ากีฬาอาจเลือกมุ่งเน้นที่กลุ่มคนรักการออกกำลังกาย ด้วยผลิตภัณฑ์และแคมเปญที่ตอบโจทย์กลุ่มนี้โดยเฉพาะ กลยุทธ์ด้านการตลาดแบบนี้ทำให้การใช้ทรัพยากรมีประสิทธิภาพสูงสุด

3. การกำหนดตำแหน่งของสินค้าหรือบริการ (Positioning)

คือการสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นในใจผู้บริโภค เช่น แบรนด์เสื้อผ้ากีฬาอาจวางตำแหน่งเป็นผู้นำด้านอุปกรณ์กีฬาประสิทธิภาพสูง เน้นคุณภาพและนวัตกรรม marketing strategy คือการวางแผนที่ช่วยให้แบรนด์แตกต่างจากคู่แข่งและดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

10 กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ทรงพลัง

ในยุคดิจิทัลที่คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตมากถึง 85.3% และติดอันดับ 23 ของโลก ธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวสู่โลกออนไลน์เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน นี่คือ 10 กลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจในโลกออนไลน์ที่จะช่วยยกระดับธุรกิจของคุณ!

1. SEO (Search Engine Optimization)

การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือค้นหาอย่าง Google เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดพื้นฐานที่สำคัญ โดยเริ่มจากการสร้างเว็บไซต์เป็นฐานข้อมูล (แนะนำ WordPress) แล้วผลิตคอนเทนต์คุณภาพด้วย Keyword ที่เหมาะสม เป้าหมายคือการเพิ่มการมองเห็น ติดอันดับหน้าแรก เพิ่ม Organic Traffic สร้างความน่าเชื่อถือ และเปลี่ยนผู้ชมให้เป็นลูกค้า

2. Google Ads

การโฆษณาแบบเสียเงินผ่าน Google Search ด้วย Keyword เพื่อสร้าง Traffic ให้เว็บไซต์ถือเป็นกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดที่มีประสิทธิภาพ แม้จะไม่ยั่งยืนเพราะต้องจ่ายเงินอย่างต่อเนื่อง แต่ให้ผลลัพธ์คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นการสร้างการรับรู้แบรนด์ เพิ่มยอดผู้เข้าชม ยอดลงทะเบียน หรือยอดขาย

3. Facebook Ads

กลยุทธ์ด้านการตลาดยอดนิยมที่เข้าถึงคนไทยจำนวนมากที่ใช้ Facebook เป็นประจำ โดดเด่นด้วยการเพิ่มการมองเห็น สร้างการรับรู้ กระตุ้นการมีส่วนร่วม ช่วยในการตัดสินใจซื้อ และปิดการขายได้ดี เน้นรูปภาพและวิดีโอที่ดึงดูดความสนใจ พร้อมเทมเพลตหลากหลายให้ปรับแต่งตามกลุ่มเป้าหมาย

4. TikTok Ads

แพลตฟอร์มมาแรงที่ช่วยกระตุ้นยอดขายและสร้างการรับรู้แบรนด์อย่างรวดเร็ว กลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจบนแพลตฟอร์มนี้ใช้ประโยชน์จากจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นทุกวันและความง่ายในการสร้างกระแสไวรัล ระบบโฆษณาใช้ AI ช่วยกำหนดกลุ่มเป้าหมายและมีระบบติดตามที่ช่วยให้ปรับแต่งโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. Social Media Marketing

กลยุทธ์ในการทำตลาดบนสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ทั้ง Facebook, Twitter, Instagram, LinkedIn, TikTok, LINE และ YouTube เน้นสร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างการรับรู้และความสัมพันธ์ที่ดี แต่ต้องมีทักษะในการทำคอนเทนต์และการยิงโฆษณา หากไม่ชำนาญควรจ้างเอเจนซี่มืออาชีพเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า

6. E-Commerce Marketing

กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายออนไลน์ที่ทำได้ทั้งบนเว็บไซต์ร้านค้าของตนเองหรือมาร์เก็ตเพลสอย่าง Lazada, Shopee, Facebook Marketplace, TikTok Shop และ LINE My Shop เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการขยายช่องทางการขายในยุคดิจิทัล

7. Influencer Marketing

กลยุทธ์ด้านการตลาดที่ใช้ “ผู้มีอิทธิพล” ในวงการนั้นๆ มาโปรโมต รีวิว หรือแนะนำสินค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ติดตาม จนเกิดการคล้อยตามและตัดสินใจซื้อสินค้าในที่สุด การกําหนดกลยุทธ์ทางการตลาดแบบนี้เหมาะกับสินค้าที่ต้องการสร้างความน่าเชื่อถือผ่านบุคคลที่มีอิทธิพลต่อกลุ่มเป้าหมาย

8. Video Marketing

การใช้วิดีโอที่มีทั้งภาพเคลื่อนไหวและเสียงเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชอบดูมากกว่าอ่านเป็นกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจในยุคปัจจุบัน เพราะสื่อสารได้ครบถ้วนกว่ารูปภาพ ต้องมีการวางแผนที่ดี กำหนดกลุ่มเป้าหมายชัดเจน วางสตอรี่ ตัดต่อกระชับ และมีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ เพื่อให้ผู้ชมดูจนจบ

9. Affiliate Marketing

กลยุทธ์ทางการตลาดแบบนายหน้า ให้บุคคลอื่น ไม่ว่าจะเป็นคนทั่วไป อินฟลูเอนเซอร์ หรือบริษัท โปรโมตและขายสินค้าแทน โดยได้รับค่าคอมมิชชั่นตามที่กำหนด เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย แบรนด์รอรับออเดอร์และส่งสินค้า ส่วนนายหน้าทำการตลาดและรับส่วนแบ่งโดยไม่ต้องสต๊อกสินค้า

10. Content Marketing

กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดด้วยเนื้อหาที่หลากหลาย ทั้งข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และเสียง เพื่อสื่อสารจากแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมาย สร้างการรับรู้ และบรรลุวัตถุประสงค์ทางการตลาดอื่นๆ เป็นรากฐานสำคัญของกลยุทธ์ทางการตลาดที่ยั่งยืน

กลยุทธ์การตลาด 4Ps

กลยุทธ์ทางการตลาด - 4Ps
กลยุทธ์ทางการตลาด 4Ps เป็นแนวคิดที่ได้รับความนิยมในวงการธุรกิจ ประกอบด้วย Product (สินค้า), Price (ราคา), Place (ช่องทางการจัดจำหน่าย) และ Promotion (การส่งเสริมการขาย) marketing strategy คือองค์ประกอบพื้นฐานที่ช่วยให้องค์กรวางแผนกลยุทธ์การตลาดได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ

1. Product Strategy (กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์)

หัวใจของการตลาดคือสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้า ธุรกิจต้องพิจารณาความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย สภาพการแข่งขัน และเทคโนโลยีล่าสุด เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่โดนใจ ตัวอย่าง: Apple นำเสนอสินค้าคุณภาพสูง นวัตกรรมล้ำ ดีไซน์ทันสมัย เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน Nike ผลิตสินค้าที่สะท้อนบุคลิกภาพและสร้างความมั่นใจให้กลุ่มวัยรุ่น Starbucks มอบสินค้าและบริการคุณภาพเยี่ยม เน้นสร้างประสบการณ์พิเศษให้ลูกค้า

2. Price Strategy (กลยุทธ์ราคา)

ราคามีผลโดยตรงต่อการตัดสินใจซื้อ ธุรกิจต้องคำนึงถึงต้นทุน สภาพการแข่งขัน และคุณค่าที่ลูกค้าได้รับ เพื่อกำหนดราคาที่แข่งขันได้

ตัวอย่าง:

  • Apple ตั้งราคาสูงสอดคล้องกับคุณภาพและนวัตกรรม
  • Nike กำหนดราคาที่สมเหตุสมผลเพื่อเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่น
  • Starbucks ตั้งราคาสูงกว่าร้านกาแฟทั่วไป สะท้อนคุณภาพและประสบการณ์พิเศษ

3. Place Strategy (กลยุทธ์ช่องทางจัดจำหน่าย)

ช่องทางการเข้าถึงสินค้าสำคัญไม่แพ้ตัวสินค้า ธุรกิจต้องเข้าใจพฤติกรรมการซื้อของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเลือกช่องทางที่เหมาะสม

ตัวอย่าง:

  • Apple จำหน่ายผ่านห้างสรรพสินค้าชั้นนำเพื่อเข้าถึงลูกค้าระดับบน
  • Nike ใช้หลากหลายช่องทาง ทั้งร้านค้าปลีก ออนไลน์ และเว็บไซต์แบรนด์ เข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่ม

4. Promotion Strategy (กลยุทธ์ส่งเสริมการขาย)

การสื่อสารข้อมูลสินค้าและบริการสู่ลูกค้า โดยพิจารณาวัตถุประสงค์ทางการตลาด กลุ่มเป้าหมาย งบประมาณ และสภาพการแข่งขัน

กลยุทธ์การตลาด 7Ps

กลยุทธ์ 7Ps พัฒนาต่อยอดจาก 4Ps โดยเพิ่มอีก 3 องค์ประกอบ ช่วยให้การวางแผนการตลาดครอบคลุมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

5. People Strategy (กลยุทธ์ด้านบุคลากร)

บุคลากรคือหัวใจของธุรกิจ พนักงานที่มีคุณภาพจะสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจให้ลูกค้า การกําหนดกลยุทธ์ทางการตลาดด้านบุคลากรต้องพัฒนาทั้งทักษะความรู้ ทัศนคติ และวัฒนธรรมองค์กร

ตัวอย่าง:

  • Apple เน้นพัฒนาทักษะความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้พนักงาน
  • Nike ให้ความสำคัญกับทัศนคติและวัฒนธรรมองค์กรเพื่อสร้างความผูกพันกับลูกค้า
  • Starbucks พัฒนาทักษะการบริการเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด

6. Process Strategy (กลยุทธ์กระบวนการ)

การวางแผนและจัดการกระบวนการภายในเพื่อส่งมอบสินค้าและบริการที่มีประสิทธิภาพ กลยุทธ์ทางการตลาดด้านกระบวนการมุ่งเพิ่มคุณค่าและลดความซับซ้อนให้กับลูกค้า

ตัวอย่าง:

  • Apple พัฒนากระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ผลิตสินค้าคุณภาพและตรงเวลา
  • Nike ปรับปรุงกระบวนการจัดจำหน่ายให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่าย
  • Starbucks พัฒนาการให้บริการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

7. Physical Evidence Strategy (กลยุทธ์ประสบการณ์ที่จับต้องได้)

กลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจอีกด้านหนึ่งคือการสร้างประสบการณ์ที่จับต้องได้เชื่อมโยงกับแบรนด์ เน้นสร้างบรรยากาศที่ตอบโจทย์ความคาดหวังของลูกค้า

ตัวอย่าง:

  • Apple ออกแบบผลิตภัณฑ์ทันสมัยและสวยงาม สะท้อนภาพลักษณ์แบรนด์
  • Nike ออกแบบบรรจุภัณฑ์โดดเด่น สะดุดตา สะท้อนความทันสมัยและมีชีวิตชีวา
  • Starbucks ออกแบบร้านให้อบอุ่นและผ่อนคลาย เน้นประสบการณ์ของลูกค้า

กลยุทธ์การตลาด 8Ps

กลยุทธ์ 8Ps พัฒนาต่อจาก 7Ps โดยเพิ่มอีก 1 องค์ประกอบ

8. Power Strategy (กลยุทธ์ด้านอำนาจการต่อรอง)

อำนาจต่อรองมีความสำคัญต่อความสำเร็จในการแข่งขัน marketing strategy คือการวางแผนที่พิจารณาอำนาจต่อรองของซัพพลายเออร์ ลูกค้า คู่แข่ง และสื่อ เพื่อเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน

ตัวอย่าง:

  • Apple มีอำนาจต่อรองสูงกับซัพพลายเออร์เพราะเป็นแบรนด์ยอดนิยม
  • Nike มีอำนาจต่อรองกับลูกค้าด้วยความหลากหลายและคุณภาพสินค้า
  • Starbucks มีอำนาจต่อรองกับคู่แข่งด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จัก

หากต้องการทำธุรกิจที่มีการทำกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อเข้าถึงลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ CIPHER พร้อมให้บริการ!

ในโลกธุรกิจที่การแข่งขันสูง การมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่แข็งแกร่งคือกุญแจสู่ความสำเร็จ CIPHER เข้าใจความท้าทายนี้และพร้อมยกระดับธุรกิจของคุณด้วยโซลูชันกลยุทธ์ด้านการตลาดครบวงจร ไม่ว่าคุณต้องการวางตำแหน่งแบรนด์ให้โดดเด่น (Positioning) กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน (Targeting) หรือสร้างกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจบนโลกออนไลน์ เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมวางแผนทั้ง 4Ps, 7Ps หรือ 8Ps ให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ

เราไม่เพียงแค่ให้คำปรึกษา แต่ยังช่วยคุณปฏิบัติตามการกําหนดกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างเป็นรูปธรรม ทั้ง SEO, Content Marketing, Social Media และ Influencer Marketing เพื่อให้แบรนด์ของคุณเติบโตอย่างยั่งยืน ติดต่อ CIPHER วันนี้ และก้าวสู่ความสำเร็จทางกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดไปด้วยกัน!

สรุป

กลยุทธ์ทางการตลาดเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการวางแผน STP, การใช้ 4Ps/8Ps หรือกลยุทธ์ด้านการตลาดออนไลน์ ล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง Marketing Strategy คือ การเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมซึ่งจะช่วยประหยัดทรัพยากรและเพิ่มโอกาสความสำเร็จให้กับธุรกิจของคุณ

คำถามที่พบบ่อย

กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด มีอะไรบ้าง?

กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดประกอบด้วย การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขาย การตลาดทางตรง การตลาดดิจิทัล การตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ การตลาดเชิงเนื้อหา และการตลาดแบบปากต่อปาก

การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด หมายถึง?

การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด คือ กระบวนการกำหนดเป้าหมาย วิเคราะห์ตลาดและคู่แข่ง ระบุกลุ่มเป้าหมาย และวางแผนการใช้ทรัพยากรเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

กลยุทธ์ทางการตลาด ตัวอย่าง?

ตัวอย่างกลยุทธ์ทางการตลาด ได้แก่ กลยุทธ์ผู้นำด้านต้นทุน (เช่น วอลมาร์ท), กลยุทธ์ความแตกต่าง (เช่น แอปเปิล), กลยุทธ์การมุ่งเฉพาะกลุ่ม (เช่น โรเล็กซ์), กลยุทธ์แบบผสมผสาน (เช่น อาดิดาส), กลยุทธ์การตลาดแบบเรียลไทม์ (เช่น โอรีโอ้) และกลยุทธ์การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ (เช่น ไนกี้)

กลยุทธ์การขาย มีอะไรบ้าง?

กลยุทธ์การขายประกอบด้วย การขายโดยพนักงานขาย การขายผ่านตัวแทนจำหน่าย การขายออนไลน์ การขายแบบสมาชิก การขายแบบครอสเซลล์และอัพเซลล์ การขายแบบบันได การขายโดยใช้ความสัมพันธ์ การขายแบบแก้ปัญหา และการขายแบบคอนซัลติ้ง
Scroll to Top