หากคุณกำลังทำการตลาดออนไลน์แล้วได้ยินคำว่า “Conversion” บ่อย ๆ แต่ยังไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง หรือสงสัยว่าทำไมนักการตลาดถึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก บทความนี้มีคำตอบให้คุณ ที่ CIPHER เราเข้าใจว่าการทำธุรกิจออนไลน์ในปัจจุบันต้องอาศัย Conversion Marketing ที่มีประสิทธิภาพ และการเข้าใจเรื่อง Conversion ถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้การทำการตลาดของคุณประสบความสำเร็จ
Table of Contents
Conversion คืออะไร?
Conversion คือ การกระทำใด ๆ ของผู้ใช้งานที่เข้ามาในเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ของคุณ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์และมูลค่าต่อธุรกิจตามเป้าหมายที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้า การลงทะเบียนสมัครสมาชิก การกรอกแบบฟอร์ม การโทรเข้ามาสอบถาม หรือแม้แต่การเพิ่มสินค้าลงตะกร้า
เมื่อพูดถึง Conversion คืออะไร ในแง่ของการตลาดออนไลน์ อาจเรียกได้ว่าเป็น “จุดเปลี่ยน” ที่ทำให้ผู้เยี่ยมชมธรรมดากลายเป็นลูกค้าหรือลีด ซึ่งแต่ละธุรกิจอาจมี Conversion คือ อะไรที่แตกต่างกันออกไปตามเป้าหมายของแต่ละแบรนด์ และแน่นอนว่าในโลกของ Conversion Marketing ที่มีการแข่งขันสูง การเข้าใจว่า Conversion คือ อะไรจะช่วยให้คุณวางกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะไม่ใช่แค่การดึงดูดคนเข้าเว็บไซต์เท่านั้น แต่ต้องทำให้พวกเขาตัดสินใจทำในสิ่งที่เราต้องการด้วย
ทำไม Conversion ถึงสำคัญสำหรับการตลาดออนไลน์
Conversion คือ หัวใจสำคัญของการทำการตลาดออนไลน์ เพราะเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพว่าแผนการตลาดที่คุณวางไว้ได้ผลหรือไม่ มาดูกัน 3 เหตุผลหลักที่ Conversion คือ สิ่งที่นักการตลาดให้ความสำคัญ
- วัดผลความสำเร็จของธุรกิจ – Conversion คือ สิ่งที่บ่งบอกว่าการลงทุนทำการตลาดออนไลน์คุ้มค่าหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการทำเว็บไซต์หรือ การลงโฆษณาแบบ Conversion ที่เน้นผลลัพธ์ เราจำเป็นต้องรู้ว่ามันสร้างกำไรได้จริงหรือเปล่า
- เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า – การติดตาม Website Conversion ในรูปแบบต่าง ๆ ช่วยให้เราเห็นเส้นทางของลูกค้า (Customer Journey) และเข้าใจว่าพวกเขามีปฏิสัมพันธ์กับเว็บไซต์อย่างไร ทำให้เราสามารถปรับปรุงประสบการณ์ให้ตรงกับความต้องการได้ดียิ่งขึ้น
- นำข้อมูลไปทำ Remarketing – เมื่อเราเข้าใจว่า Conversion คือ อะไร และติดตั้งระบบติดตามไว้ เราจะได้ข้อมูลพฤติกรรมที่สามารถนำไปทำโฆษณาแบบ Remarketing เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนที่เคยสนใจสินค้าแต่ยังไม่ได้ซื้ออีกครั้ง
ประโยชน์ Conversion Rate ยังรวมถึงการช่วยให้คุณเลือกลงทุนในช่องทางที่มีประสิทธิภาพสูง แทนที่จะเสียงบประมาณไปกับช่องทางที่ไม่ได้ผล ทำให้การทำ Conversion Marketing มีประสิทธิภาพมากขึ้นและคุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไป อีกหนึ่ง ประโยชน์ Conversion Rate คือช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของพฤติกรรมลูกค้าและปรับกลยุทธ์ได้อย่างทันท่วงที
ประเภทของ Conversion มีกี่ประเภท?
Macro Conversion
Macro Conversion คือ เป้าหมายหลักหรือเป้าหมายสูงสุดของธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการสร้างรายได้ นี่คือสิ่งที่ธุรกิจส่วนใหญ่ต้องการให้เกิดขึ้นมากที่สุด ตัวอย่างของ Macro Conversion ได้แก่:
- การสั่งซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ E-Commerce
- การลงทะเบียนสมัครสมาชิกแบบมีค่าใช้จ่าย
- การกรอกแบบฟอร์มเพื่อขอใบเสนอราคา
- การตัดสินใจจ่ายเงินผ่านระบบออนไลน์
Micro Conversion
Micro Conversion คือ การกระทำเล็ก ๆ ที่อาจไม่สร้างรายได้โดยตรงทันที แต่เป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่ Macro Conversion ในอนาคต ถือเป็นตัวชี้วัดความสนใจและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน ตัวอย่างของ Micro Conversion ได้แก่:
- การสมัครรับจดหมายข่าวทางอีเมล
- การกดติดตามเพจโซเชียลมีเดีย
- การเพิ่มสินค้าลงในตะกร้า
- การดูวิดีโอสาธิตสินค้า
- การอ่านบทความในเว็บไซต์
การเข้าใจทั้ง Macro และ Micro Conversion จะช่วยให้คุณวางกลยุทธ์ Conversion Marketing ได้อย่างครอบคลุม ไม่ใช่แค่มุ่งเน้นที่ยอดขายเพียงอย่างเดียว แต่ยังคำนึงถึงการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว
ขั้นตอนการทำ Conversion Rate Optimization
1. เก็บและรวบรวมข้อมูล
ขั้นตอนแรกของ Conversion Rate Optimization คือ การทำ Research อย่างละเอียด โดยเก็บข้อมูลจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็น Google Analytics, Heat Map หรือข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า เพื่อให้เข้าใจว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นบนเว็บไซต์ของคุณ ผู้ใช้มีปัญหาตรงไหน และจุดไหนที่ทำให้พวกเขาไม่ Convert
การทำความเข้าใจกับ Customer Journey ในแต่ละขั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้คุณมองเห็นว่าลูกค้าตกหล่นไปตรงจุดไหนในกระบวนการซื้อ
2. ตั้งสมมติฐานและกำหนดผลลัพธ์
หลังจากรวบรวมข้อมูลแล้ว ขั้นตอนต่อไปของ Conversion Rate Optimization คือ การตั้งสมมติฐานว่าอะไรที่น่าจะปรับปรุงได้และจะส่งผลอย่างไร เช่น “การเพิ่มรีวิวจากลูกค้าจริงจะช่วยเพิ่มอัตราการสั่งซื้อได้ 7%” หรือ “การลดขั้นตอนกรอกข้อมูลจะเพิ่มอัตราการสมัครสมาชิกได้ 15%”
สมมติฐานที่ดีต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลจริง ไม่ใช่แค่ความรู้สึก และต้องสามารถวัดผลได้อย่างชัดเจน Conversion Rate แปลว่า สัดส่วนของผู้ใช้ที่ทำตามเป้าหมายที่คุณกำหนดไว้เทียบกับจำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด
3. จัดลำดับความสำคัญ
ในการทำ Conversion Rate Optimization คือ คุณอาจพบปัญหาหลายจุดที่ต้องปรับปรุง แต่ไม่สามารถแก้ไขทุกอย่างพร้อมกันได้ จึงต้องจัดลำดับความสำคัญว่าควรเริ่มจากจุดไหนก่อน
พิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความยากง่ายในการแก้ไข ผลกระทบที่คาดว่าจะได้รับ และทรัพยากรที่ต้องใช้ จุดที่มีโอกาสเพิ่ม Conversion ได้มากที่สุดและใช้ทรัพยากรน้อยที่สุดควรได้รับการจัดลำดับให้อยู่ในอันดับต้น ๆ
4. การทดสอบ A/B Testing
การทำ A/B Testing เป็นหัวใจสำคัญของ Conversion Rate Optimization คือ การเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างเวอร์ชันเดิมกับเวอร์ชันที่ปรับปรุงแล้ว โดยแบ่งผู้เข้าชมออกเป็นสองกลุ่มเท่า ๆ กัน ให้กลุ่มหนึ่งเห็นเวอร์ชัน A และอีกกลุ่มเห็นเวอร์ชัน B
องค์ประกอบที่มักนำมาทดสอบ ได้แก่ หัวข้อ, รูปภาพ, สี, ข้อความ CTA, ตำแหน่งปุ่ม, ฟอร์ม หรือแม้กระทั่งโครงสร้างหน้าเว็บ ผลลัพธ์จะบอกได้ว่าเวอร์ชันไหนให้ Conversion Rate แปลว่า มีประสิทธิภาพมากกว่ากัน
5. การสรุปผล
ขั้นตอนสุดท้ายของ Conversion Rate Optimization คือ การวิเคราะห์ผลทดสอบและนำมาปรับใช้ต่อไป ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาตามที่คาดหวังหรือไม่ก็ตาม ทุกการทดสอบล้วนให้ข้อมูลที่มีค่า
ถ้าการเปลี่ยนแปลงนั้นทำให้ Conversion Rate ดีขึ้น ก็นำไปใช้จริง และถ้าไม่ได้ผล ก็นำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงสมมติฐานและทดสอบต่อไป การทำ CRO เป็นกระบวนการต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด
เทคนิคการเพิ่ม Conversion ให้กับเว็บไซต์สำหรับธุรกิจ E-Commerce
ในยุคที่การแข่งขันทางออนไลน์สูง Conversion คือ สิ่งที่ธุรกิจ E-Commerce ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยมีเทคนิคที่ช่วยเพิ่ม Website Conversion ให้กับเว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือของคุณดังนี้
ความเร็วและการดาวน์โหลดของเว็บไซต์
ความล่าช้าในการโหลดหน้าเว็บเพียง 1 วินาที สามารถทำให้ Conversion Rate คือ สิ่งที่ลดลงไปได้ถึง 7% ลูกค้าในยุคปัจจุบันไม่มีความอดทนรอเว็บโหลดช้า และมักจะออกจากเว็บไซต์ทันทีหากต้องรอนานเกินไป
ปัจจัยที่ทำให้เว็บช้าอาจมาจากรูปภาพขนาดใหญ่, มีเอฟเฟ็กต์เยอะเกินไป, มีวิดีโอที่โหลดอัตโนมัติ หรือการติดตั้งปลั๊กอินที่ไม่จำเป็น การลดขนาดไฟล์รูปภาพ, ใช้บริการ CDN และเลือกใช้เฉพาะปลั๊กอินที่จำเป็น จะช่วยให้เว็บโหลดเร็วขึ้นได้
การแสดงราคาและค่าจัดส่งให้ชัดเจน
รีวิวจากลูกค้าจริง
Social Proof มีอิทธิพลอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อ Conversion คือ สิ่งที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อคุณแสดงรีวิวจากลูกค้าจริง ซึ่งช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าออนไลน์ของคุณ
รีวิวที่ดีควรมาจากลูกค้าจริง มีชื่อและรูปประกอบ (หากเป็นไปได้) และควรมีทั้งรีวิวเชิงบวกและเชิงสร้างสรรค์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าร้านค้าของคุณเปิดรับความคิดเห็นทุกรูปแบบ นี่เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเพิ่ม Facebook Conversion คือ การใช้รีวิวจากลูกค้าจริงในโฆษณา Facebook เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
ปรโมชันและโค้ดส่วนลด
โปรโมชันและส่วนลดเป็นแรงกระตุ้นสำคัญในการตัดสินใจซื้อ Facebook Conversion คือ การนำโปรโมชันมาใช้ในการโฆษณาเพื่อเพิ่มโอกาสในการ Convert
โปรโมชันที่ได้ผลดี เช่น ฟรีค่าจัดส่ง, ส่วนลดเมื่อซื้อครบตามกำหนด, โค้ดส่วนลดสำหรับการซื้อครั้งแรก หรือโปรโมชัน Flash Sale ที่มีระยะเวลาจำกัด ซึ่งสร้างความรู้สึกเร่งด่วนให้ลูกค้าตัดสินใจเร็วขึ้น การใช้โปรโมชันอย่างชาญฉลาดเป็นกลยุทธ์สำคัญใน การลงโฆษณาแบบ Conversion ที่ให้ผลลัพธ์สูง
วัดผล Conversion Rate ได้อย่างไร?
เมื่อเราเข้าใจแล้วว่า Conversion คืออะไร ขั้นตอนต่อไปคือการวัดผลว่าเว็บไซต์หรือแคมเปญของเราประสบความสำเร็จแค่ไหน ซึ่ง Conversion Rate คือ ตัวชี้วัดสำคัญในเรื่องนี้
Conversion Rate แปลว่า อัตราการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลมาเป็นผลลัพธ์ทางธุรกิจ ซึ่งคำนวณได้จากสูตร:
Conversion Rate = (จำนวน Conversion ทั้งหมด / จำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด) x 100
ยกตัวอย่างเช่น หากเว็บไซต์ของคุณมีคนเข้าชมทั้งหมด 1,000 คน และมีคนสั่งซื้อสินค้า 30 คน Conversion Rate แปลว่าคุณมีอัตราการ Convert อยู่ที่ 3%
สำหรับ การลงโฆษณาแบบ Conversion บน Facebook หรือ Google Ads คุณสามารถดูข้อมูล Conversion Rate ได้จากแพลตฟอร์มเหล่านั้นโดยตรง หรือจะใช้เครื่องมืออย่าง Google Analytics ในการติดตามและวิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างละเอียดก็ได้
ประโยชน์ Conversion Rate ที่สำคัญ คือ ทำให้คุณเห็นภาพรวมว่าการตลาดของคุณกำลังไปได้ดีแค่ไหน และควรปรับปรุงตรงไหนบ้าง อัตรา Conversion ที่ดีจะแตกต่างกันไปตามอุตสาหกรรม แต่โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 2-5% สำหรับ E-Commerce การลงโฆษณาแบบ Conversion ยังช่วยให้คุณสามารถวัดผลตอบแทนจากการลงทุนด้านการตลาด (ROI) ได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
เพิ่ม Conversion ให้กับเว็บไซต์ของคุณด้วยบริการจาก CIPHER
ที่ CIPHER เราเชี่ยวชาญในการเพิ่ม Conversion คือ สิ่งที่เราให้ความสำคัญ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานในการทำการตลาดและการทำ Conversion Marketing เราพร้อมช่วยยกระดับธุรกิจออนไลน์ของคุณ
บริการของเราครอบคลุมทั้ง:
- การทำ Inbound Marketing – ดึงดูดลูกค้าที่มีแนวโน้มสนใจสินค้าของคุณและสร้างประสบการณ์ที่ดีตลอด Customer Journey
- Social Media Marketing – เพิ่มการมีส่วนร่วมและการรับรู้แบรนด์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลัก รวมถึง Facebook Conversion คือ ความเชี่ยวชาญของเรา
- E-Commerce Development – บริการพัฒนาเว็บไซต์ E-Commerce ที่ใช้งานง่าย ปลอดภัย และมี Conversion Rate สูง
- SEO – ปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบน Google เพื่อเพิ่มทราฟฟิกคุณภาพ
หากคุณกำลังมองหาพาร์ทเนอร์ที่จะช่วยเพิ่ม Conversion Rate คือ สิ่งที่ CIPHER สามารถทำได้ดี ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มากประสบการณ์ เราพร้อมวางแผนกลยุทธ์ Conversion Marketing ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ
สรุป
Conversion คือ หัวใจสำคัญของการทำการตลาดออนไลน์ที่ช่วยให้คุณวัดผลความสำเร็จและปรับปรุงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Macro Conversion อย่างการสั่งซื้อ หรือ Micro Conversion อย่างการสมัครรับข่าวสาร ล้วนมีความสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ
การทำความเข้าใจว่า Conversion Rate คืออะไร และวิธีการเพิ่ม Conversion จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืนในโลกออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูง มาเริ่มวัดผลและปรับปรุง Website Conversion ของคุณวันนี้ เพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้นในวันพรุ่งนี้! ติดต่อ CIPHER เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับกลยุทธ์ Conversion Marketing ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ
คำถามที่พบบ่อย
Conversion Rate ที่ดีควรอยู่ที่เท่าไหร่?
ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ โดยทั่วไปมีดังนี้:
- E-Commerce: 1-4%
- SaaS: 3-5%
- เว็บไซต์ให้ข้อมูล: 5-10%
- Landing Page: 10-20%
สิ่งสำคัญคือการวัดผลอย่างต่อเนื่องและพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับผลงานของตัวเอง
การทำ Facebook Conversion คืออะไร? แตกต่างจากรูปแบบโฆษณาอื่นอย่างไร?
Conversion Rate Optimization ต้องใช้งบประมาณมากหรือไม่?
ไม่จำเป็น สามารถทำได้ทุกระดับงบประมาณ วิธีประหยัดงบ:
- ใช้ Google Analytics (ฟรี)
- ทำ A/B Testing อย่างง่าย
- สำรวจความคิดเห็นลูกค้า
- ปรับปรุงความเร็วเว็บไซต์และการแสดงผลบนมือถือ
ธุรกิจขนาดเล็กสามารถเริ่มต้นด้วยวิธีพื้นฐานก็ได้ผลลัพธ์ที่ดี
สามารถติดตามและวัดผล Website Conversion อย่างไร?
เครื่องมือที่แนะนำ:
- Google Analytics: ตั้งค่า Goals วัด Conversion
- Heat Map (Hotjar, Crazy Egg): ดูพฤติกรรมผู้ใช้
- Facebook Pixel/Google Conversion Tracking: วัดผลโฆษณา
- แพลตฟอร์ม CRO (Optimizely, VWO): ทำ A/B Testing
ควรกำหนดเป้าหมายชัดเจน ติดตามทั้ง Macro และ Micro Conversion และวิเคราะห์ข้อมูลสม่ำเสมอ