Table of Contents
แชร์วิธีการสร้างเว็บไซต์ 6 ขั้นตอน พร้อมเทคนิคให้ออกมาดูดี
การสร้างเว็บไซต์ในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัย ทำให้ใครก็สามารถสร้างเว็บไซต์ของตัวเองได้ แม้จะไม่มีพื้นฐานด้านการเขียนโค้ด การใช้ Template Design & Development หรือนักพัฒนาเทมเพลตมืออาชีพ จะช่วยให้คุณสามารถออกแบบเว็บไซต์ได้อย่างมืออาชีพ โดยไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นจากศูนย์
หากคุณกำลังมองหาแนวทางในการสร้างเว็บไซต์ที่ทั้งง่ายและได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ 6 ขั้นตอนสำคัญในการสร้างเว็บไซต์ พร้อมเคล็ดลับการออกแบบที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณโดดเด่นและน่าสนใจ ไม่ว่าคุณจะต้องการสร้างเว็บไซต์เพื่อธุรกิจ การศึกษา หรือความบันเทิง เรามีคำตอบให้คุณ มาเริ่มต้นการเดินทางสู่การสร้างเว็บไซต์ในฝันของคุณไปด้วยกัน
วางแผนการสร้างเว็บไซต์
การวางแผนการสร้างเว็บไซต์คือ จุดเริ่มต้นที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณ สามารถใช้งานได้ตรงกับวัตถุประสงค์ และตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มเป้าหมาย โดยมี ขั้นตอนการวางแผนการสร้างเว็บไซต์ ง่าย ๆ ดังนี้
กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายของเว็บไซต์
การสร้างเว็บไซต์ให้ประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องเริ่มต้นจากการกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเว็บเพื่อขายสินค้า หรือการนำเสนอข้อมูล การมีเป้าหมายที่ชัดเจน จะช่วยให้วิธีการสร้างเว็บเป็นไปอย่างมีทิศทาง และสามารถวัดความสำเร็จที่เป็นสิ่งที่สามารถมองเห็นและจับต้องได้อย่างชัดเจน
ศึกษากลุ่มเป้าหมาย
กำหนดฟีเจอร์สำคัญ
ออกแบบแผนผังเว็บไซต์ (Sitemap)
จัดวางโครงสร้างและองค์ประกอบ
เลือกวิธีการสร้างเว็บไซต์
สร้างเว็บไซต์ด้วยเครื่องมือ Instant Website Builder
การสร้างเว็บไซต์ด้วยเครื่องมือสำเร็จรูป เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการวิธีทําเว็บไซต์แบบง่ายและรวดเร็ว เครื่องมือประเภท Instant Website Builder มาพร้อมเทมเพลตสำเร็จรูปและระบบลากวางที่ใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนเว็บไซต์หรือการเขียนโค้ด โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่งดีไซน์และเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วผ่านอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ทำให้กระบวนการสร้างเว็บไซต์เป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อนสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
การสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress
WordPress เป็นระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในการสร้างเว็บ ด้วยความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับแต่ง WordPress โดยระบบนี้มาพร้อมกับปลั๊กอินและธีมมากมายที่ช่วยให้การทำเว็บไซต์เป็นเรื่องที่สะดวกขึ้น แม้จะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้บ้าง แต่ก็เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการความสามารถในการขยายตัวในอนาคต
การจ้าง Outsource หรือบริษัทพัฒนาเว็บไซต์
6 ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์
1. การเลือกรูปแบบเว็บไซต์
2. การตกแต่งเว็บไซต์
3. การสร้างเมนูเว็บไซต์
4. การเพิ่มข้อมูล และรูปภาพ
5. การตรวจสอบ และเพิ่มระบบ Social Network
6. การโฆษณา และทำให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จัก
สิ่งต้องคำนึงในการสร้างเว็บไซต์
การวางแผนและกำหนดเป้าหมายของเว็บไซต์
การออกแบบโครงสร้างและการจัดวางองค์ประกอบ
การพัฒนาเนื้อหาที่มีคุณภาพ
การใส่ใจเรื่องความปลอดภัย
การทำให้รองรับทุกอุปกรณ์
แนะนำเทคนิคการออกแบบเว็บไซต์ ให้ดูดี น่าสนใจ!
เลือกใช้สีที่เข้ากันและสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์
การสร้างเว็บไซต์ หรือ Website Design ที่มีประสิทธิภาพ ต้องเริ่มจากการเลือกโทนสีที่เหมาะสม โดยแนะนำให้เลือกใช้ไม่เกิน 3 – 4 สีหลัก เพื่อสร้างความเป็นเอกลักษณ์และจดจำได้ง่าย การทำเว็บไซต์ที่มีการใช้สีที่กลมกลืน จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพ ควรเลือกสีที่สื่อถึงธุรกิจของคุณและกลุ่มเป้าหมาย เช่น สีโทนอบอุ่นสำหรับร้านอาหาร หรือสีโทนเย็นสำหรับบริการทางการแพทย์
จัดวางองค์ประกอบให้เป็นระเบียบและใช้งานง่าย
เลือกใช้ฟอนต์ที่อ่านง่ายและสวยงาม
ออกแบบให้รองรับการใช้งานบนทุกอุปกรณ์
ใช้รูปภาพและวิดีโอที่มีคุณภาพ
รู้จักใช้พื้นที่ว่าง (White Space)
ออกแบบปุ่ม Call-To-Action ที่โดดเด่นและดึงดูด
วิธีทําเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพต้องมีการออกแบบปุ่ม Call-To-Action (CTA) ที่โดดเด่นและดึงดูดความสนใจ การสร้างเว็บที่ดีควรมีปุ่ม CTA ที่ชัดเจน ใช้สีที่แตกต่างจากพื้นหลัง มีขนาดที่เหมาะสม และใช้ข้อความที่กระตุ้นให้เกิดการคลิก เช่น “สมัครเลย” “ซื้อเดี๋ยวนี้” หรือ “ติดต่อเรา” โดยวางตำแหน่งในจุดที่ผู้ใช้สามารถมองเห็นได้ง่ายและเข้าถึงได้สะดวก
การสร้างเว็บไซต์ มีปัจจัยอะไรบ้างที่ต้องระวัง
การวางแผนโครงสร้างเว็บไซต์อย่างรอบคอบ
การออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้ที่เป็นมิตร
การรองรับการแสดงผลบนอุปกรณ์ที่หลากหลาย
การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม
การดูแลความปลอดภัยของเว็บไซต์
การเลือกใช้โฮสติ้ง
โฮสติ้งเป็นเสมือนที่อยู่อาศัยของเว็บไซต์บนโลกอินเทอร์เน็ต การเลือกโฮสติ้งที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเว็บไซต์ เช่น การโหลดช้า การล่มบ่อย หรือปัญหาด้านความปลอดภัย ดังนั้น ผู้พัฒนาควรศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบบริการโฮสติ้งต่าง ๆ อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการ รวมถึงควรพิจารณาถึงแผนการเติบโตของเว็บไซต์ในอนาคตด้วย เพื่อให้สามารถรองรับการขยายตัวของเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป
การสร้างเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพและสวยงามนั้นต้องอาศัยทั้งความรู้และประสบการณ์ในด้าน Web Design & Development ที่ครบถ้วน แม้ว่าคุณจะได้เรียนรู้เทคนิคการสร้างเว็บไซต์ทั้ง 6 ขั้นตอนแล้ว แต่หากต้องการผลลัพธ์ที่มืออาชีพและตอบโจทย์ธุรกิจของคุณอย่างแท้จริง CIPHER พร้อมให้บริการด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยยกระดับเว็บไซต์ของคุณให้โดดเด่น ทันสมัย และตอบโจทย์ผู้ใช้งานอย่างครบครัน ติดต่อ CIPHER วันนี้ เพื่อให้เราช่วยคุณสร้างสรรค์เว็บไซต์ที่จะทำให้ธุรกิจของคุณก้าวไกลสู่ความสำเร็จ
สนใจบริการ
คำถามที่พบบ่อย
การสร้างเว็บไซต์มีกี่ขั้นตอนอะไรบ้าง?
การสร้าง Website เป็นกระบวนการสำคัญที่จะทำให้คุณได้เว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพ โดยขั้นตอนตอนการสร้างเว็บไซต์ มีขั้นตอนสำคัญ ได้แก่
- การเลือกรูปแบบเว็บไซต์: เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ โดยต้องพิจารณาวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์และกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเลือกรูปแบบที่เหมาะสม เช่น เว็บขายสินค้า เว็บข่าวสาร หรือเว็บบล็อก
- การตกแต่งเว็บไซต์: เน้นการออกแบบให้สวยงาม ใช้งานง่าย และดึงดูดผู้เข้าชม โดยคำนึงถึงการจัดวางองค์ประกอบ การเลือกใช้สี และฟอนต์ที่เหมาะสม
- การสร้างเมนูเว็บไซต์: จัดทำโครงสร้างการนำทางที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้สะดวก โดยแบ่งหมวดหมู่เนื้อหาอย่างเป็นระบบ
- การเพิ่มข้อมูลและรูปภาพ: เน้นการนำเสนอเนื้อหาที่มีคุณภาพ ทั้งข้อความและรูปภาพที่เกี่ยวข้อง โดยต้องจัดการให้ข้อมูลเป็นระเบียบและง่ายต่อการอ่าน
- การตรวจสอบและเพิ่มระบบ Social Network: ทดสอบการทำงานของเว็บไซต์ในทุกส่วน และเชื่อมต่อกับสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงและการแชร์เนื้อหา
- การโฆษณาและทำให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จัก: ใช้กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ต่างๆ เช่น SEO สื่อสังคมออนไลน์ และการโฆษณาแบบจ่ายเงิน เพื่อสร้างการรับรู้และดึงดูดผู้เข้าชมเว็บไซต์
สร้างเว็บไซต์เองทำยังไง?
การสร้างเว็บไซต์ในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องใช้ความรู้ด้านการเขียนโค้ดหรือลงทุนด้วยเวลาและค่าใช้จ่ายมากอย่างที่หลายคนเข้าใจ เนื่องจากมีแพลตฟอร์ม Instant Web หลากหลายให้เลือกใช้ ทำให้การสร้างเว็บเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นกว่าในอดีตมาก โดยมีวิธีง่าย ๆ ดังนี้
- เลือกแพลตฟอร์ม Instant Web และสร้างบัญชี: เริ่มต้นด้วยการเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับความต้องการ เช่น WordPress, Wix หรือ Shopify สำหรับร้านค้าออนไลน์ จากนั้นสร้างบัญชีผู้ใช้งาน
- ตั้งชื่อโดเมน: เลือกชื่อเว็บไซต์ที่สั้น จดจำง่าย และสื่อถึงธุรกิจของคุณ คุณสามารถซื้อโดเมนผ่านผู้ให้บริการโดยตรงหรือผ่านแพลตฟอร์มที่คุณใช้
- เลือกเทมเพลตสำเร็จรูป: แพลตฟอร์มส่วนใหญ่มีเทมเพลตให้เลือกมากมาย เลือกแบบที่เหมาะกับประเภทธุรกิจและสไตล์ที่ต้องการ โดยคำนึงถึงการใช้งานบนมือถือด้วย
- ปรับแต่งเว็บไซต์: ปรับแต่งสี ฟอนต์ และองค์ประกอบต่าง ๆ ให้ตรงกับแบรนด์ของคุณ ทำให้เว็บไซต์มีเอกลักษณ์และน่าสนใจ
- เพิ่มเนื้อหา: เพิ่มข้อมูลสินค้า บริการ รูปภาพ และข้อมูลการติดต่อที่จำเป็น เขียนเนื้อหาที่มีประโยชน์และน่าสนใจสำหรับกลุ่มเป้าหมาย
- การตั้งค่า SEO: ตั้งค่า Meta Description, Title Tags และ Keywords ให้เหมาะสม เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google และเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าค้นหาเจอ
- เผยแพร่เว็บไซต์: ตรวจสอบความเรียบร้อยของทุกหน้าเว็บ ทดสอบการใช้งานบนอุปกรณ์ต่าง ๆ และกดเผยแพร่เมื่อพร้อม จากนั้นเริ่มประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ผ่านช่องทางต่าง ๆ
เขียน Web Application ด้วยอะไรดี 2024?
ปัจจุบันมีโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ฟรีที่หลากหลาย พร้อมเทมเพลตสำเร็จรูปตามประเภทธุรกิจ ใช้งานง่ายด้วยระบบลากวาง และสามารถปรับแต่งได้ตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงระดับมืออาชีพ เช่น
- Wix: เป็นแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย มาพร้อมระบบลากและวาง (Drag & Drop) ที่ยืดหยุ่น รวมถึงมีเทมเพลตสวยงามมากมายให้เลือกใช้ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนโค้ด และผู้ประกอบการรายย่อย
- GoDaddy: โดดเด่นด้วยการให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การจดโดเมน การสร้างเว็บไซต์ด้วยเครื่องมือที่ใช้งานง่าย ไปจนถึงการทำ SEO มีแพ็กเกจราคาประหยัดและเหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง
- Weebly: นำเสนอเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ เน้นการใช้งานสำหรับ E-Commerce มีระบบจัดการสินค้าและการชำระเงินที่ครบครัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปิดร้านค้าออนไลน์
- WordPress: เป็นระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ที่ได้รับความนิยมสูงสุด มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับแต่งได้อย่างไม่มีขีดจำกัดผ่านปลั๊กอินและธีมจำนวนมาก เหมาะสำหรับทั้งเว็บไซต์ขนาดเล็กและใหญ่
- Webflow: เป็นเครื่องมือระดับมืออาชีพที่ผสมผสานระหว่างการออกแบบแบบ Visual กับการควบคุมโค้ดขั้นสูง เหมาะสำหรับนักออกแบบและนักพัฒนาที่ต้องการสร้างเว็บที่มีความซับซ้อนและมีประสิทธิภาพสูง
ทำเว็บไซต์ราคากี่บาท?
ราคาในการทำเว็บไซต์มีตั้งแต่หลักพันถึงหลักล้านบาท ขึ้นอยู่กับรูปแบบการทำ ความซับซ้อนของระบบ และขนาดของเว็บไซต์ที่ต้องการ โดยมีราคาที่แตกต่างกัน ดังนี้
- ทำเว็บไซต์ด้วยตนเอง: การทำเว็บไซต์ด้วยตัวเองมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นต่ำที่สุด โดยมีค่าใช้จ่ายหลักคือค่าโดเมน (300-800 บาท/ปี) และค่าโฮสติ้ง (1,000-3,000 บาท/ปี) รวมถึงอาจมีค่าธีมและปลั๊กอินเพิ่มเติมตามฟีเจอร์ที่ต้องการ
- เว็บไซต์สำเร็จรูป: การใช้แพลตฟอร์มสำเร็จรูปอย่าง Wix หรือ Shopify มีค่าใช้จ่ายแบบรายปี ตั้งแต่ 3,000 – 30,000 บาท ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ โดยมักรวมค่าโดเมนและโฮสติ้งไว้แล้ว
- Freelance: การจ้าง Freelance มีราคาตั้งแต่ 10,000 บาท สำหรับเว็บไซต์พื้นฐาน ไปจนถึง 200,000 บาท สำหรับเว็บไซต์ธุรกิจที่มีระบบซับซ้อน ทั้งนี้ยังไม่รวมค่าโดเมนและโฮสติ้ง
- Agency: การใช้บริการ Agency หรือ บริษัททำเว็บไซต์ มีราคาสูงที่สุด แต่ได้บริการครบวงจร โดยเริ่มต้นที่ 100,000 บาท สำหรับเว็บไซต์องค์กร และอาจสูงถึงหลักล้านบาทสำหรับเว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่มีระบบซับซ้อน