เจ้าของแบรนด์ออนไลน์ต้องอ่าน! เทคนิคทำ SEO ให้เจอด้วย AI ปี 2025

เทคนิคทำ SEO ให้เจอด้วย AI

โลกของการค้นหาออนไลน์กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว! ในยุคที่ AI กำลังเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนค้นหาข้อมูล เจ้าของธุรกิจออนไลน์จำเป็นต้องปรับตัวให้ทัน เพราะเทคนิคทำ SEO ให้เจอด้วย AI กำลังกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกธุรกิจออนไลน์

ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงวิธีการทำ SEO ยุคใหม่ที่เรียกว่า ASEO (Adaptive Search Engine Optimization) และวิธีรับมือกับ AI SEO ที่กำลังเปลี่ยนโลกการค้นหาให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นเหนือคู่แข่ง

Table of Contents

ทำไม SEO แบบเดิมไม่พอแล้ว? เมื่อยุค AI SEO มาถึง

โลกดิจิทัลเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากการค้นหาด้วย Google เพียงอย่างเดียว ปัจจุบันผู้คนหันไปใช้ ChatGPT, Perplexity และเครื่องมือ AI อื่น ๆ มากขึ้น การจะทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักจึงไม่ใช่แค่การติดอันดับบน Google เท่านั้น แต่ต้องปรับตัวให้ AI เลือกแบรนด์คุณไปแสดงด้วย นี่คือเหตุผลที่เทคนิคทำ SEO ให้ได้ผลในยุค AI กลายเป็นเรื่องสำคัญ

หากคุณยังคงทำ SEO แบบเดิม (Traditional SEO) ที่เน้นแค่:

  1. On-site SEO (ปรับแต่งองค์ประกอบภายในเว็บ)
  2. Off-site SEO (สร้างความน่าเชื่อถือจากภายนอก)
  3. Technical SEO (ปรับปรุงเว็บไซต์ในเชิงเทคนิค)

คุณอาจพลาดโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนไปใช้ AI ในการค้นหาข้อมูล

ASEO คืออะไร? ทำไมต้องรู้จักเทคนิคทำ SEO ให้เจอด้วย AI?

เทคนิคทำ SEO ให้เจอด้วย AI - Techniques for SEO with AI

ASEO หรือ Adaptive Search Engine Optimization เป็นแนวคิดการทำ SEO รูปแบบใหม่ที่ปรับตัวให้เข้ากับยุค AI SEO ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งบน Google และแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งอนาคตของ SEO จะเปลี่ยนไปด้วย AI อย่างแน่นอน

ASEO แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก:

1. Discovery - ทำให้ AI ค้นพบเว็บคุณได้ง่ายขึ้น

การทำให้ AI รู้จักและเข้าใจเว็บไซต์ของคุณ ประกอบด้วย:

  • การสร้างเนื้อหาที่เข้าใจ Search Intent ของผู้ใช้
  • การส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังเครื่องมือค้นหา
  • การคาดการณ์คำถามที่ผู้ใช้อาจมีในอนาคต

2. Engagement - สร้างการมีส่วนร่วม

การทำให้ผู้ใช้สนใจและมีส่วนร่วมกับเว็บไซต์:

  • เตรียมเนื้อหาสำหรับคำถามถัดไปที่ผู้ใช้อาจมี
  • สร้างเนื้อหาหลากหลายรูปแบบ (บทความ, อินโฟกราฟิก, วิดีโอ)
  • ได้รับการรับรองจาก Reviews และ Social Proofs

3. Results - มุ่งสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญ

การสร้างความน่าเชื่อถือในระยะยาว:

  • สร้างเนื้อหาที่ครอบคลุมทุกแง่มุม
  • เขียนจากประสบการณ์และความเป็นจริง
  • มอบเนื้อหาที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง

7 องค์ประกอบสำคัญของ ASEO ที่ช่วยในเทคนิคทำ SEO ให้เจอด้วย AI

เทคนิคทำ SEO ให้เจอด้วย AI - Techniques for SEO with AI
ASEO ไม่ใช่แค่การยัดคีย์เวิร์ดลงไปในเนื้อหา แต่เป็นการทำ SEO ที่ตอบโจทย์ทั้ง Search Engine และผู้ใช้จริง ๆ มาดู 7 องค์ประกอบสำคัญที่คุณควรให้ความสำคัญ:

1. Technical Issues - แก้ปัญหาเทคนิคให้ถูกจุด

ปัญหาทางเทคนิคส่งผลโดยตรงต่อการทำ SEO หากเว็บไซต์มีปัญหา อาจทำให้ถูกค้นพบยาก ถูกจัดทำดัชนีช้า และทำให้ Traffic หายไป จากประสบการณ์ของ CIPHER ที่ดูแลเว็บไซต์มากกว่า 300 เว็บ พบว่า 3 ใน 10 เว็บไซต์มีปัญหาเทคนิคที่ต้องปรับปรุง

สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ:

1.1 Crawling Ability – ทำให้ Googlebot เข้าถึงเนื้อหาได้

  • แก้ไขหน้าเว็บที่เสีย (Broken Pages)
  • ใช้ Robots.txt ควบคุมการเข้าถึง
  • ปรับปรุง Internal Link ให้เข้าถึงทุกหน้าได้ง่าย

1.2 Indexing Ability – ทำให้ Google จัดทำดัชนีเว็บคุณได้ดี

  • ใช้ Meta tags อย่าง ‘index’ และ ‘noindex’ ให้ถูกต้อง
  • ใส่ Schema Markup ด้วย Yoast SEO เพื่อให้ Google เข้าใจเนื้อหา
  • ใช้ Canonical tags ระบุหน้าหลักที่ต้องการให้จัดอันดับ

1.3 Architecture Site – จัดโครงสร้างเว็บให้ใช้งานง่าย

  • ใช้ Flat Site Structure ที่ทุกหน้าเชื่อมโยงจากหน้าแรก
  • ออกแบบระบบนำทางที่ชัดเจนและใช้งานง่าย

1.4 Page Experience – ทำให้เว็บโหลดเร็วและมีประสิทธิภาพ

  • ปรับปรุง Page Load Speed ลดขนาดไฟล์ CSS และ JavaScript
  • ให้ความสำคัญกับ Core Web Vitals
  • ใช้แนวคิด Mobile-first ในการออกแบบ

2. SXO (Search Experience Optimization)

SXO คือ การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) ให้สอดคล้องกับ SEO เพื่อให้เว็บติดอันดับดีควบคู่กับการให้ประสบการณ์ที่ดี

จากข้อมูลพบว่า หน้าเว็บที่มีเวลาเฉลี่ยในการใช้งาน (Avg. time on page) นาน จะถูก Google จัดอันดับดีกว่าหน้าที่ผู้ใช้อยู่ไม่นาน Google มองว่าหน้าที่ดึงดูดให้อยู่นาน มีประโยชน์ต่อผู้ใช้

วิธีทำ SXO ให้ได้ผล:

  • เข้าใจความต้องการของผู้ค้นหา (Search Intent) และสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์
  • ปรับปรุงเว็บไซต์ให้ Maximize Conversions ผ่านการปรับ CTAs และแบบฟอร์มให้ใช้งานง่าย
  • ออกแบบ UX/UI ให้ใช้งานง่ายและเหมาะกับมือถือ

3. External Signal - สัญญาณจากภายนอกที่สร้างความน่าเชื่อถือ

External Signal คือ ปัจจัยจากภายนอกเว็บไซต์ที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ได้แก่:

  • กิจกรรมบนโซเชียลมีเดีย – ยิ่งมีส่วนร่วมมาก ยิ่งดี
  • คุณภาพของเว็บไซต์อื่นที่ลิงก์มาหาคุณ
  • การสร้างแบรนด์
  • รีวิวและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์

เกร็ดความรู้: การทำ SEO ยุคใหม่ต้องปรับตัวให้เข้ากับ AI-powered platforms ที่ผู้คนใช้ค้นหาข้อมูลมากขึ้น โดยใช้กลยุทธ์ ASEO และ GEO เพื่อปรับแต่งเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ทั้ง Search Engine และ AI กุญแจสำคัญคือการสร้างเนื้อหาคุณภาพที่น่าเชื่อถือและให้ประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้

4. Link Building (Backlink)

การสร้าง Backlink ในยุค AI ต้องเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ โดยสร้างลิงก์จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ

ข้อแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญมีความแตกต่างกัน:

  • Google แนะนำให้ทำ Backlink จากเว็บไซต์ท้องถิ่นที่ไว้ใจได้
  • AI มองว่าควรสร้างลิงก์จากเว็บไซต์ท้องถิ่นที่เป็นภาษาอังกฤษและน่าเชื่อถือ
  • SearchGPT แนะนำให้ได้ Backlink จากเว็บไซต์ดังระดับโลก

5. SILO-based Structure - จัดหมวดหมู่เนื้อหาให้ชัดเจน

SILO-based Structure คือ การจัดระเบียบเนื้อหาให้เป็นหมวดหมู่ชัดเจน ใช้ Internal Link เชื่อมโยงเนื้อหาประเภทเดียวกันไว้ด้วยกัน

ตัวอย่างเช่น หน้าที่พูดถึงการทำจมูก ก็จะเชื่อมโยงไปยังหน้าอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการทำจมูกด้วย ช่วยให้ Google เข้าใจความสัมพันธ์ของเนื้อหาและจัดอันดับได้ดีขึ้น

6. High-quality Content - เนื้อหาที่มีคุณภาพตามหลัก E-E-A-T

การสร้างเนื้อหาตามหลัก E-E-A-T Factor เป็นเกณฑ์ที่ Google ใช้วัดคุณภาพและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์:

  • Experience – นำประสบการณ์ตรงของผู้เขียนมาถ่ายทอดในเนื้อหา แสดงความคิดเห็นส่วนตัวที่ได้จากประสบการณ์จริง
  • Expertise – แสดงความเชี่ยวชาญด้วยการเขียนข้อมูลละเอียดและลึกซึ้ง ที่ไม่สามารถพบได้ทั่วไปบนเว็บอื่น
  • Authoritativeness – สร้างตัวตนให้เป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ จนเว็บไซต์อื่นและ AI นำเนื้อหาของคุณไปอ้างอิง
  • Trustworthiness – นำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน โปร่งใส มีแหล่งที่มาชัดเจน

7. Keyword Research & Intent - เข้าใจเจตนาในการค้นหา

Keyword Research & Intent คือ การค้นหาคีย์เวิร์ดที่ผู้ใช้ค้นหาจริง พร้อมทำความเข้าใจเจตนาในการค้นหา เพื่อสร้างเนื้อหาที่ตรงความต้องการ

สาระน่ารู้: เทคนิคทำ SEO ให้เจอด้วย AI ที่สำคัญคือการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ และให้ประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้ เพราะไม่ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร คุณค่าที่มอบให้ผู้ใช้จะเป็นสิ่งที่ทำให้แบรนด์ของคุณยืนหยัดได้ในทุกยุคสมัย

ประเภทของ Search Intent มี 5 แบบ:

  • Informational – ต้องการข้อมูลและความรู้
  • Navigational – ต้องการไปที่เว็บไซต์หรือหน้าสินค้าโดยตรง
  • Commercial – ต้องการข้อมูลเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจซื้อ
  • Transactional – ต้องการซื้อสินค้าหรือบริการ
  • Local – ต้องการหาข้อมูลในพื้นที่เดียวกัน

AI กับ SEO: ผลกระทบที่เจ้าของแบรนด์ต้องรู้เพื่อใช้เทคนิคทำ SEO ให้เจอด้วย AI

การใช้ AI SEO เข้ามาช่วยในการทำ SEO มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้:

  • 54% ของผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ใช้ประโยชน์จาก AI ในการทำงาน
  • Google สร้างคำตอบโดย AI ให้กับผลการค้นหา 8.71% ของคีย์เวิร์ดทั้งหมด
  • การค้นหาแบบละเอียดที่ใช้คำค้นหาสิบคำขึ้นไป มีโอกาสกระตุ้นให้เกิดการแสดงผลภาพรวม AI สูงถึง 19.10%

เทคนิคทำ SEO ให้เจอด้วย AI สำหรับแต่ละ Persona

การทำ SEO ในยุค AI ต้องเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มมีพฤติกรรมการค้นหาและความต้องการที่แตกต่างกัน เราสามารถปรับแต่งกลยุทธ์ให้เหมาะกับแต่ละ Persona ได้ดังนี้:

1. นักช้อปออนไลน์ (E-Commerce Shopper)

พฤติกรรม: ค้นหาข้อมูลสินค้า เปรียบเทียบราคา อ่านรีวิว ก่อนตัดสินใจซื้อ

เทคนิค SEO ที่เหมาะสม:

  • สร้าง Product Schema Markup ให้ครบถ้วนเพื่อให้ AI เข้าใจข้อมูลสินค้า
  • เพิ่มรีวิวสินค้าที่เป็นธรรมชาติพร้อมคะแนน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
  • ใช้ภาษาที่เน้นคุณสมบัติและประโยชน์ของสินค้าที่ตรงกับความต้องการผู้ซื้อ
  • สร้างเนื้อหาเปรียบเทียบสินค้าที่ละเอียดและเป็นกลาง

ตัวอย่างคีย์เวิร์ดที่กระตุ้น AI: “รีวิว [ชื่อสินค้า]”, “[ชื่อสินค้า] ดีไหม”, “เปรียบเทียบ [สินค้า A] กับ [สินค้า B]”

2. ผู้แสวงหาข้อมูล (Information Seeker)

พฤติกรรม: ต้องการข้อมูลเชิงลึก วิธีการแก้ปัญหา หรือคำอธิบายเกี่ยวกับหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง

เทคนิค SEO ที่เหมาะสม:

  • สร้างเนื้อหาที่ครอบคลุมทุกแง่มุม (Comprehensive Content)
  • ใช้โครงสร้าง SILO เพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน
  • แทรก FAQ Schema Markup เพื่อตอบคำถามที่พบบ่อย
  • ใช้รูปแบบการนำเสนอที่หลากหลาย (ข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ, อินโฟกราฟิก)

ตัวอย่างคีย์เวิร์ดที่กระตุ้น AI: “วิธีการ [ทำสิ่งหนึ่ง]”, “[หัวข้อ] คืออะไร”, “อธิบาย [แนวคิด]”

3. ผู้ประกอบการและนักการตลาด (Business Owner & Marketer)

พฤติกรรม: ค้นหาข้อมูลเชิงกลยุทธ์ เทรนด์ตลาด และเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ

เทคนิค SEO ที่เหมาะสม:

  • สร้างเนื้อหาที่มีข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญ (Expert Insights)
  • นำเสนอกรณีศึกษาและตัวอย่างความสำเร็จที่วัดผลได้
  • ใช้ข้อมูลและสถิติล่าสุดอ้างอิงจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
  • จัดทำ How-to Guide และ Checklist ที่นำไปใช้ได้จริง

ตัวอย่างคีย์เวิร์ดที่กระตุ้น AI: “กลยุทธ์ [การตลาด] ปี 2025”, “เครื่องมือ [วัตถุประสงค์]”, “วิธีเพิ่ม [KPI ทางธุรกิจ]”

4. ผู้ใช้งานโมบายล์ (Mobile User)

พฤติกรรม: ค้นหาข้อมูลระหว่างเดินทางหรือทำกิจกรรมอื่น ต้องการข้อมูลรวดเร็ว กระชับ

เทคนิค SEO ที่เหมาะสม:

  • ปรับปรุง Mobile UX ให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
  • ใช้ Accelerated Mobile Pages (AMP) เพื่อโหลดเร็ว
  • จัดเนื้อหาให้อ่านง่าย มีหัวข้อย่อยชัดเจน สแกนได้เร็ว
  • ใส่ Local Schema Markup สำหรับค้นหาในพื้นที่

ตัวอย่างคีย์เวิร์ดที่กระตุ้น AI: “ร้าน [บริการ] ใกล้ฉัน”, “เปิดกี่โมง [สถานที่]”, “วิธี [ทำอะไรบางอย่าง] เร็ว ๆ”

5. ผู้ใช้งาน Voice Search (Voice Search User)

พฤติกรรม: ค้นหาด้วยเสียงผ่านอุปกรณ์อัจฉริยะ ใช้ประโยคคำถามแบบธรรมชาติ

เทคนิค SEO ที่เหมาะสม:

  • ปรับเนื้อหาให้ตอบคำถามโดยตรง (Direct Answer Content)
  • ใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นทางการมากเกินไป
  • สร้าง FAQ ที่ตอบคำถามพื้นฐานอย่างครบถ้วน
  • ใช้ Long-tail Keyword ที่เป็นประโยคคำถาม

ตัวอย่างคีย์เวิร์ดที่กระตุ้น AI: “ทำอย่างไรให้ [เป้าหมาย]”, “ทำไม [บางสิ่ง] ถึง [เกิดขึ้น]”, “อะไรคือ [สิ่งที่ดีที่สุด] สำหรับ [สถานการณ์]”

  • ข้อมูลที่ AI สรุปมีความละเอียด โดยเฉลี่ยประมาณ 4,342 ตัวอักษร
  • เว็บไซต์ที่ถูกอ้างอิงใน Google AI Overviews ส่วนใหญ่ (84.72%) เป็นเว็บไซต์ที่ติดอันดับ 1-10 ในผลการค้นหาแบบธรรมชาติ

คีย์เวิร์ดที่กระตุ้น AI ให้แสดงผล

คีย์เวิร์ดที่ทำให้ AI แสดงผลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ข้อมูลล่าสุดพบว่า:

  • คำถามประเภท “คืออะไร” เพิ่มขึ้น 20%
  • คำถามประเภท “วิธีการ” เพิ่มขึ้น 15%
  • คำถามที่มีวลี “อาการของ” เพิ่มขึ้นประมาณ 12%
  • คำถามที่มีคำว่า “การรักษา” เพิ่มขึ้น 10%

คีย์เวิร์ดแบบ long-tail ที่มีความเฉพาะเจาะจง แม้จะมีปริมาณการค้นหาต่ำ แต่มักกระตุ้นให้เกิดการแสดงผล AI Overviews มากกว่า

GEO - อนาคตใหม่ของ SEO ที่เจ้าของแบรนด์ต้องรู้

GEO (Generative Engine Optimization) เป็นแนวคิดใหม่ที่มุ่งเน้นการปรับแต่งเนื้อหาให้ AI เลือกแสดงผลเมื่อผู้ใช้ค้นหา

เมื่อก่อนเราทำการตลาดแค่ Google ก็พอ แต่ปัจจุบันผู้คนหันไปใช้ ChatGPT, Perplexity และเครื่องมือ AI อื่น ๆ มากขึ้น การทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ AI เลือกเว็บไซต์คุณ

3 ปัจจัยหลักที่ทำให้ AI เลือกเว็บไซต์คุณมาแสดง:

  • Authoritative List Mentions – การติดอันดับดีในการค้นหาทั้ง Google, Bing
  • Awards, accreditations, affiliates – การมีรางวัลหรือการรับรอง
  • Online Reviews – รีวิวบนเว็บไซต์ใหญ่ ๆ เช่น Amazon, CNet

ปัจจัยอื่น ๆ ที่สำคัญ:

  • Social Sentiment
  • Customer Examples & Usage Data
  • Google Website Authority
  • Local Business Review

แนวทางเฉพาะสำหรับแต่ละ AI

Perplexity: เน้นการติดอันดับบน Google, มี Online Review, Award และทำ Backlink

ChatGPT: คล้ายกับ Perplexity แต่เปลี่ยนจาก Google เป็น Bing

Gemini: เหมือนกับทั้ง Perplexity และ ChatGPT แต่สำหรับการค้นหาแบบ Local Recommendation ให้ความสำคัญกับ Local Business Review

ความท้าทายในยุคนี้คือการเป็น Zero-click search ที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องคลิกเข้าเว็บเพราะ AI สรุปข้อมูลให้หมดแล้ว คุณจึงต้องทำให้ผู้ที่เข้าเว็บ convert ให้ได้มากที่สุด

เครื่องมือ AI ที่ช่วยในเทคนิคทำ SEO ให้เจอด้วย AI

ปัจจุบันมีเครื่องมือ AI SEO มากมายที่ช่วยในการทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้แก่:

  1. Gemini – ช่วยค้นหาคีย์เวิร์ดและสร้างเนื้อหา SEO
  2. Ahrefs – วิเคราะห์คีย์เวิร์ด เนื้อหา การสร้างลิงก์ และติดตามอันดับ
  3. Frase – ช่วยสร้างเนื้อหา SEO ปรับเนื้อหา เขียนหัวข้อ และวางโครงสร้าง
  4. Surfer SEO – วิเคราะห์เนื้อหาเปรียบเทียบกับเว็บไซต์ที่ติดอันดับต้น ๆ

บริการ SEO จาก CIPHER - เทคนิคทำ SEO ให้เจอด้วย AI สำหรับธุรกิจของคุณ

CIPHER พร้อมช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตในโลกดิจิทัลด้วยบริการ AI SEO ครบวงจร:

ASEO Audit & Strategy

วิเคราะห์เว็บไซต์ของคุณอย่างละเอียดตามหลัก ASEO พร้อมวางกลยุทธ์ที่เหมาะกับธุรกิจคุณในยุค AI

AI-Ready Content Creation

สร้างเนื้อหาคุณภาพสูงตามหลัก E-E-A-T ที่ทั้งคนและ AI ชื่นชอบ พร้อมปรับโครงสร้างเนื้อหาให้เหมาะกับการแสดงผลบน AI

Technical SEO Overhaul

แก้ไขปัญหาทางเทคนิคทั้งหมดที่อาจขัดขวางการจัดอันดับของเว็บไซต์ ตั้งแต่ Crawling, Indexing ไปจนถึง Page Experience

Authority Building Package

สร้างความน่าเชื่อถือให้เว็บไซต์ด้วยกลยุทธ์ Backlink คุณภาพสูงและการสร้าง Brand Authority ที่ AI ต้องเลือกคุณ

บริการ SEO จาก CIPHER

บริการ SEO จาก CIPHER มีการติดตามและวิเคราะห์ผลการแสดงผลของเว็บไซต์คุณทั้งบน Search Engine และ AI-powered platforms อย่างต่อเนื่อง

สรุป

การทำ SEO ยุคใหม่ต้องปรับตัวให้เข้ากับ AI-powered platforms ที่ผู้คนใช้ค้นหาข้อมูลมากขึ้น โดยใช้กลยุทธ์ ASEO และ GEO เพื่อปรับแต่งเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ทั้ง Search Engine และ AI กุญแจสำคัญคือการสร้างเนื้อหาคุณภาพที่น่าเชื่อถือและให้ประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้ เพราะไม่ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร คุณค่าที่มอบให้ผู้ใช้คือสิ่งที่ทำให้แบรนด์ยืนหยัดได้ตลอดไป

พร้อมปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงหรือยัง? ติดต่อ CIPHER วันนี้ ให้เราช่วยพาธุรกิจคุณก้าวทันโลก SEO ยุค AI!

คำถามที่พบบ่อย

ควรเริ่มทำ AI SEO อย่างไรดี หากไม่มีความรู้ด้านเทคนิค?

เริ่มจากการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพตามหลัก E-E-A-T โดยเน้นความเชี่ยวชาญและประสบการณ์จริง ปรับปรุง Schema Markup พื้นฐานด้วยปลั๊กอินอย่าง Yoast SEO สร้างเนื้อหาที่ตอบคำถามของกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด และพิจารณาใช้เครื่องมือวิเคราะห์ SEO เช่น Ahrefs หรือ Surfer SEO ที่มีฟีเจอร์ AI ช่วยแนะนำ

การทำ SEO แบบ ASEO ใช้งบประมาณมากกว่า SEO แบบเดิมหรือไม่?

ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมากกว่า แต่อาจต้องปรับวิธีการจัดสรรทรัพยากร โดยเน้นการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณ ลงทุนกับเครื่องมือ AI ที่ช่วยวิเคราะห์และสร้างเนื้อหา และอาจต้องใช้เวลากับการปรับโครงสร้างเว็บไซต์ให้เหมาะกับ AI มากขึ้น แต่ในระยะยาวจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

เว็บไซต์ขนาดเล็กมีโอกาสติดอันดับใน AI Search หรือไม่?

มีโอกาสแน่นอน โดยเว็บไซต์ขนาดเล็กควรเน้นความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (Niche Expertise) สร้างเนื้อหาที่ละเอียดลึกซึ้งในหัวข้อที่เฉพาะเจาะจง มี E-E-A-T ที่ชัดเจน และใช้ Schema Markup อย่างถูกต้อง AI มักจะให้ความสำคัญกับคุณภาพและความน่าเชื่อถือของข้อมูลมากกว่าขนาดของเว็บไซต์# เจ้าของแบรนด์ออนไลน์ต้องอ่าน! เทคนิคทำ SEO ให้เจอด้วย AI ปี 2025
Scroll to Top