Table of Contents
ธุรกิจของคุณพร้อมจะก้าวสู่โลกของ E-Commerce แล้วหรือยัง? Shopify เป็นแพลตฟอร์ม E-Commerce ชั้นนำที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในวงการธุรกิจทั่วโลก ทำให้ Sopify ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว และหนึ่งในความโดดเด่นของ Shopify คือ ความสามารถในการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจทุกขนาด ทั้งนักขายมือใหม่และผู้ที่เริ่มต้นใช้งาน สามารถใช้ Shopify เพื่อสร้างการเติบโตและขยายตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า Shopify ช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างไร และมีวิธีเพิ่มยอดขายอย่างไรบ้าง รวมถึงความสามารถของ Shopify Plus ที่รองรับการเติบโตของธุรกิจขนาดใหญ่
Shopify เพิ่มยอดขายได้อย่างไร?
การเพิ่มยอดขายด้วย Shopify นั้นสามารถทำได้หลายวิธี โดย Shopify มีเครื่องมือและฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ E-Commerce ให้เจ้าของธุรกิจสามารถขยายตลาดและดึงดูดลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีเพิ่มยอดขายหลัก ๆ ที่สามารถทำได้ผ่าน Shopify มีดังนี้
1. ปรับแต่ง SEO เพื่อเพิ่มการมองเห็น
การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization ที่ดีช่วยให้เว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ สามารถติดอันดับบนเครื่องมือค้นหาบน Google ได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงของลูกค้า โดย Shopify มาพร้อมกับฟีเจอร์การปรับแต่ง SEO ที่ช่วยให้สามารถใช้คีย์เวิร์ด, คำอธิบายสินค้า และแท็กต่าง ๆ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในผลการค้นหามากขึ้น ซึ่งการทำ SEO เป็นวิธีที่ดีในการสร้างการรับรู้ ดึงดูดลูกค้าใหม่ และสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายได้นั่นเอง
2. การสร้างช่องทางการขายที่หลากหลาย
Shopify เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถขายสินค้าผ่านช่องทางนอกจากเว็บไซต์ เช่น Facebook, Instagram, TikTok หรือ Marketplace อย่าง Amazon และ eBay ซึ่งการขยายช่องทางผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ เหล่านี้ สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ ได้มากยิ่งขึ้น
3. ใช้การตลาดแบบ Marketing Automation
การทำการตลาดเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถช่วยสร้างยอดขายได้ โดย Shopify มาพร้อมกับฟีเจอร์การตลาดอัตโนมัติ หรือ Marketing Automation ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งอีเมลแจ้งเตือนลูกค้าเกี่ยวกับการขายสินค้าใหม่ โปรโมชันพิเศษ หรือแจ้งเตือนเกี่ยวกับสินค้าที่ลูกค้าสนใจ โดยฟีเจอร์นี้ช่วยกระตุ้นลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการขายได้
4. การใช้งานระบบติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า
การทำธุรกิจออนไลน์ จำเป็นต้องอาศัยการติดตามลูกค้าจากหลาย ๆ แพลตฟอร์ม ทำให้การติดตามลูกค้าอาจเกิดการตกหล่นได้ โดย Shopify มีเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เช่น สินค้าที่ได้รับความนิยม, ช่วงเวลาที่ลูกค้ามักซื้อสินค้ามากที่สุด หรือช่องทางการเข้าชมเว็บไซต์ การนำข้อมูลเหล่านี้มาปรับใช้ในกลยุทธ์การขาย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้
5. เพิ่มความสะดวกในการชำระเงิน
ระบบการชำระเงิน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า โดย Shopify สามารถปรับแต่งให้รองรับระบบการชำระเงินหลายรูปแบบ ทั้งบัตรเครดิต, PayPal, Apple Pay และอื่น ๆ การทำให้การชำระเงินเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย และช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการได้ง่ายขึ้น
6. สร้างความเชื่อมั่นด้วยรีวิวจากลูกค้า
อีกหนึ่งวิธีคลาสสิกที่ยังสามารถใช้ได้ผลเป็นอย่างดีนั่นก็คือ การมีรีวิวหรือคำแนะนำจากลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปแล้ว ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้ โดย Shopify มีฟีเจอร์ที่ให้ลูกค้าสามารถเขียนรีวิวหรือให้คะแนนสินค้าบนเว็บไซต์ได้ ซึ่งรีวิวที่ดีช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าใหม่มั่นใจในการตัดสินใจซื้อ และยังส่งผลดีต่อ SEO ของเว็บไซต์อีกด้วย
7. การตั้งค่าโปรแกรมสมาชิกและการสะสมแต้ม
การสร้างโปรแกรมสมาชิกหรือการสะสมแต้มสำหรับการซื้อสินค้า ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง โดย Shopify รองรับการตั้งค่าโปรแกรมสะสมแต้ม หรือโปรแกรมส่วนลดสำหรับลูกค้าประจำ ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
รองรับธุรกิจที่เติบโตด้วย Shopify Plus
Shopify มาพร้อมกับบริการ Shopify Implement Service เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถรองรับการเติบโตของธุรกิจได้เป็นอย่างดี สำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายการเติบโตหรือมีความซับซ้อนในการจัดการสินค้าที่เพิ่มมากขึ้น โดยผู้ใช้สามารถอัปเกรดฟีเจอร์การใช้งานให้กลายเป็น Shopify Plus ได้ ซึ่ง Shopify Plus มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่รองรับธุรกิจขนาดใหญ่และการจัดการสินค้าที่มีความซับซ้อนขึ้น ซึ่งมีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งสูงกว่า Shopify ปกติ และยังมีฟีเจอร์เสริมที่ช่วยในการเพิ่มยอดขาย เช่น
- การจัดการอัตราภาษีและการขนส่งที่ครอบคลุม: การขายสินค้าระหว่างประเทศอาจมีความยุ่งยากเรื่องภาษีและการขนส่ง Shopify Plus ช่วยให้การจัดการเหล่านี้เป็นเรื่องง่าย ด้วยระบบที่สามารถปรับอัตราภาษีและวิธีการขนส่งให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศ ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าและสร้างโอกาสในการขายต่างประเทศได้
- ระบบการจัดการร้านค้าที่ซับซ้อน: Shopify Plus มีเครื่องมือที่ช่วยจัดการร้านค้าหลายสาขา หรือหลายภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจสามารถขยายตลาดไปยังต่างประเทศได้ง่ายขึ้น และเพิ่มยอดขายในหลายตลาดพร้อมกัน
- ฟีเจอร์การปรับแต่งการชำระเงิน: Shopify Plus ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับแต่งขั้นตอนการชำระเงินให้เหมาะกับลักษณะของธุรกิจแต่ละประเภท ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดการขาย และทำให้การชำระเงินสะดวกสบายสำหรับลูกค้า
บทสรุป
Shopify เป็นแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพในการช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจทุกขนาด ไม่ว่าคุณจะเป็นนักขายมือใหม่หรือผู้ที่เริ่มต้นใช้งาน คุณสามารถใช้ประโยชน์ของ Shopify เพื่อสร้างร้านค้าออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ ที่สำคัญหากธุรกิจเติบโตจนถึงระดับที่ต้องการการจัดการที่ซับซ้อนมากขึ้น Shopify Plus ก็พร้อมรองรับการขยายขนาดของธุรกิจและช่วยให้คุณสามารถเพิ่มยอดขายในตลาดระดับโลกได้อย่างมั่นใจ
สำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มยอดขายด้วย Shopify สามารถติดต่อเพื่อขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญได้ที่: (คลิกที่นี่)