Table of Contents
ในยุคที่การแข่งขันในตลาด E-Commerce ทวีความเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะแบรนด์ไทยใช้งาน E-Commerce Listener ที่มีมูลค่าตลาด E-Commerce ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยมูลค่าถึง 9.8 แสนล้านบาทในปี 2023 และคาดการณ์ว่าจะเติบโตอีก 14% ในปี 2024 ทำให้แบรนด์และธุรกิจต่าง ๆ ต้องหากลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อชิงความได้เปรียบในการแข่งขัน หนึ่งในเครื่องมือที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก คือ “E-Commerce Listener” เครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลตลาดออนไลน์ได้อย่างลึกซึ้ง เพื่อนำไปวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ
E-Commerce Listener คืออะไร?
E-Commerce Listener หรือบางครั้งเรียกว่า E-Commerce Listening Tools คือ เครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์และติดตามข้อมูลบนแพลตฟอร์ม E-Commerce ชั้นนำอย่าง Shopee และ Lazada เปรียบเสมือนผู้ช่วยอัจฉริยะของนักการตลาดออนไลน์ที่ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค แนวโน้มตลาด และยุทธวิธีของคู่แข่ง
เครื่องมือนี้ทำงานโดยการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากแพลตฟอร์ม E-Commerce แล้วแสดงผลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เช่น กราฟ แผนภูมิ และรายงานต่าง ๆ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเห็นภาพรวมตลาด ข้อมูลสินค้าขายดี ทิศทางราคา และพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค ซึ่งเป็นข้อมูลที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการวางแผนและปรับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพ
ทำไม E-Commerce Listener จึงสำคัญในปี 2025?
ตลาด E-commerce ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในประเทศไทยและเวียดนาม ที่มีอัตราการเติบโตสูงถึง 34.1% และ 52.9% ตามลำดับ การแข่งขันระหว่างแพลตฟอร์มหลักอย่าง Shopee, Lazada และ TikTok Shop ก็ทวีความเข้มข้นมากขึ้น
ในสถานการณ์เช่นนี้ การมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตได้ E-Commerce Listener จึงเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการความได้เปรียบในการแข่งขัน เพราะช่วยให้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ปรับปรุงการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของ E-Commerce Listener
E-Commerce Listener มอบประโยชน์หลายประการให้กับธุรกิจ ทำให้สามารถวางแผนกลยุทธ์การตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประโยชน์หลัก ๆ ได้แก่:
- เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค: ช่วยให้เข้าใจว่าผู้บริโภคชอบอะไร ไม่ชอบอะไร และมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับสินค้าและบริการ
- วิเคราะห์คู่แข่ง: ช่วยให้สามารถติดตามกลยุทธ์ของคู่แข่ง ราคาสินค้า และประสิทธิภาพการขาย
- ค้นพบโอกาสทางธุรกิจ: ช่วยให้เห็นช่องว่างในตลาดและแนวโน้มใหม่ ๆ ที่อาจเป็นโอกาสทางธุรกิจ
- ปรับปรุงสินค้าและบริการ: ข้อมูลที่ได้สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า
- วางแผนการตลาดที่แม่นยำ: ช่วยให้การลงทุนด้านการตลาดมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากขึ้น
เคสตัวอย่าง: แบรนด์ไทยที่ประสบความสำเร็จด้วย E-Commerce Listener
บริษัท A: เพิ่มยอดขายด้วยการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด
บริษัท A ผู้ผลิตเครื่องสำอางรายหนึ่งในไทย ประสบปัญหายอดขายที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากเริ่มใช้ E-Commerce Listener ทำให้พบว่ากลุ่มสินค้าประเภท Beauty, Health & Personal Care กำลังได้รับความนิยมอย่างมากบนแพลตฟอร์ม TikTok Shop แต่บริษัทกลับทุ่มงบประมาณการตลาดไปที่ Shopee และ Lazada เป็นหลัก
หลังจากปรับกลยุทธ์โดยเพิ่มช่องทางการขายบน TikTok Shop และใช้กลยุทธ์ Live Commerce ร่วมกับ Micro-Influencer บริษัทสามารถเพิ่มยอดขายได้ถึง 45% ภายในเวลาเพียง 3 เดือน ทั้งนี้ การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคผ่าน Social Media Marketing ก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บริษัท B: ปรับราคาสินค้าให้แข่งขันได้
บริษัท B ผู้จำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ พบว่ายอดขายลดลงอย่างมาก แม้จะมีสินค้าคุณภาพดี หลังจากใช้ E-Commerce Listener พบว่าคู่แข่งใช้กลยุทธ์ Consignment Model ในการขายสินค้าราคาโรงงาน ทำให้ราคาถูกกว่าอย่างมาก
บริษัทจึงปรับกลยุทธ์โดยร่วมมือกับผู้ผลิตโดยตรง เพื่อลดต้นทุนและตั้งราคาให้แข่งขันได้ พร้อมทั้งเน้นจุดเด่นด้านการบริการหลังการขายและรับประกันสินค้า ส่งผลให้ยอดขายกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การปรับปรุงเว็บไซต์ E-Commerce ให้มีรูปแบบที่ทันสมัยและใช้งานง่ายก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มยอดขาย
บริษัท C: ใช้ Affiliate Marketing เพิ่มฐานลูกค้า
บริษัท C ผู้ผลิตอาหารเสริมเพิ่งเข้าสู่ตลาด E-Commerce และประสบปัญหาการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า หลังจากใช้ E-Commerce Listener วิเคราะห์ตลาด พบว่า Affiliate Marketing กำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรงในปี 2025
บริษัทจึงสร้างโปรแกรม Affiliate ของตนเอง และร่วมมือกับ Micro-Influencer ที่มีผู้ติดตามในกลุ่มเป้าหมาย โดยจ่ายค่าตอบแทนตามยอดขายที่เกิดขึ้นจริง ภายในเวลา 6 เดือน บริษัทสามารถเพิ่มฐานลูกค้าได้กว่า 300% และมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 250% การทำ SEO ควบคู่ไปกับการทำ Affiliate Marketing ยังช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
การเลือกใช้ E-Commerce Listening Tools ที่เหมาะสมกับธุรกิจ
การเลือกเครื่องมือ E-Commerce Listening Tools ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณเป็นสิ่งสำคัญ คุณควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้:
- ความต้องการของธุรกิจ: คุณต้องการติดตามข้อมูลอะไรบ้าง เช่น ยอดขาย ราคาตลาด หรือความคิดเห็นของลูกค้า
- งบประมาณ: เครื่องมือแต่ละประเภทมีราคาแตกต่างกัน ตั้งแต่ฟรีไปจนถึงหลายหมื่นบาทต่อเดือน
- ความง่ายในการใช้งาน: เลือกเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและมีรูปแบบการแสดงผลที่เข้าใจง่าย
- ความครอบคลุมของแพลตฟอร์ม: เครื่องมือนั้นสามารถติดตามข้อมูลจากแพลตฟอร์ม E-commerce ที่คุณใช้งานได้หรือไม่
- การรายงานผล: รูปแบบการรายงานผลควรเข้าใจง่ายและสามารถนำไปใช้วางแผนได้ทันที
บริการหลักของ E-Commerce Listener ที่ Cipher มอบให้
Cipher เป็นบริษัทเอเจนซี่ Digital Marketing แบบครบวงจรที่มีบริการ E-Commerce Listener ชั้นนำ ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยและถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตในตลาดออนไลน์ได้อย่างยั่งยืน และแบรนด์ไทยใช้งาน E-Commerce Listener ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริการหลักของเรา ประกอบด้วย:
1. Market Analysis
ตัวช่วยวิเคราะห์ Digital Shelf บน Shopee และ Lazada ที่เปรียบเสมือน Opportunity Finder เพื่อค้นพบกลุ่มสินค้าที่มีโอกาสเติบโต จากคีย์เวิร์ดหรือหมวดหมู่ และดูข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพการขาย เทรนด์ที่กำลังมาแรง และข้อมูลคู่แข่งในที่เดียว
บริการนี้ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมตลาดทั้งใน Shopee และ Lazada พร้อม Advanced Search Mode ที่ช่วยให้หาข้อมูลสินค้าได้ตรงใจมากยิ่งขึ้น คุณสามารถ:
- ค้นหาผ่านตัวกรองตามชื่อสินค้า คีย์เวิร์ด หมวดหมู่ แบรนด์ ร้านค้า ราคา หรือช่องทางการขาย
- ดูภาพรวมตลาด ทั้งจำนวนสินค้า ร้านค้า มูลค่าการขาย จำนวนที่ขายได้ ราคาเฉลี่ย และจำนวนรีวิว
- วิเคราะห์ส่วนแบ่งการตลาดทั้งในด้านยอดขายและจำนวนชิ้นที่ขายได้
- ติดตามเทรนด์ยอดขายและการตั้งราคาในแต่ละช่วงเวลา
- ดูรายการ Top 100 สินค้าขายดีพร้อมข้อมูลประกอบการวิเคราะห์
2. Product Explorer
ตอบโจทย์ว่าจะหาสินค้าอะไรมาขายดีบน Shopee และ Lazada สินค้าไหนกำลังมาแรง คู่แข่งขายสินค้าอะไร ตั้งราคาเท่าไร และเทรนด์ยอดขายเป็นอย่างไร บริการนี้รวบรวมข้อมูลจาก Marketplace ต่าง ๆ มาวิเคราะห์ไว้ในที่เดียว ทำให้คุณได้รับข้อมูล:
- รายละเอียดสินค้า ทั้งรูปภาพ ชื่อ แบรนด์ หมวดหมู่ ราคา ยอดขาย และจำนวนที่ขายได้
- ข้อมูลร้านค้าที่ขาย ทั้งช่องทางการขาย สถานะ Mall จำนวนผู้ติดตาม และคะแนนดาวของร้าน
- เทรนด์การเติบโตของสินค้า ทั้งราคา ยอดขาย และจำนวนที่ขายได้ในแต่ละช่วงเวลา
นอกจากนี้ การออกแบบ E-Commerce Template ที่เหมาะสมก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การนำเสนอสินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. Store Explorer
ช่วยวิเคราะห์ยอดขายของร้านค้าตัวเองและคู่แข่ง ทำให้แบรนด์รู้ว่าสินค้าขายดีที่ร้านไหน ได้รีวิวกี่ดาว และมีประสิทธิภาพการขายอย่างไร บริการนี้ช่วยให้คุณติดตามร้านค้าคู่แข่งหรือคู่ค้าใน Shopee/Lazada ได้ในที่เดียว โดยมีข้อมูล:
- รายละเอียดร้านค้า ทั้งชื่อ รูปภาพ สถานะ Mall ช่องทางการขาย จำนวนผู้ติดตาม คะแนนดาว และอัตราการตอบแชท
- ประสิทธิภาพการขาย ทั้งราคาขายเฉลี่ย จำนวนที่ขายได้ ยอดขาย จำนวนสินค้าในระบบ พร้อมกราฟแสดงเทรนด์
- รายการสินค้าขายดีในร้าน พร้อมเทรนด์การเติบโตของแต่ละสินค้า
แนวโน้มตลาด E-Commerce ที่ควรจับตามองในปี 2025
การเติบโตของโมเดล Consignment
โมเดล Consignment หรือระบบฝากขายกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากที่ Temu เข้ามาทำตลาดในไทย ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสสินค้าราคาโรงงานที่ส่งตรงถึงผู้บริโภค ทำให้ Shopee และ Lazada ต้องปรับตัวด้วยบริการ Shopee Choice และ Lazada Choice ที่นำเสนอสินค้าราคาถูกในลักษณะเดียวกัน
โมเดลนี้ช่วยลดความเสี่ยงสำหรับผู้ขาย เพิ่มความหลากหลายของสินค้าบนแพลตฟอร์ม และสร้างโอกาสให้ผู้ขายรายย่อยสามารถเข้าถึงตลาดได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เกิดการแข่งขันด้านราคาและคุณภาพสินค้าที่เข้มข้นยิ่งขึ้น
การเติบโตของ Affiliate Marketing
Affiliate Marketing กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปี 2025 โดยทุกแพลตฟอร์ม E-Commerce ชั้นนำในไทย ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, TikTok หรือแม้แต่ 7-11 ต่างมีโปรแกรม Affiliate ให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมและได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการแนะนำสินค้า
รูปแบบการจ่ายค่าตอบแทนก็เปลี่ยนจากการจ่ายเป็นค่าจ้างตายตัว (Flat Rate) มาเป็นการจ่ายตามยอดขายที่เกิดขึ้นจริง ทำให้แบรนด์สามารถวัดผลได้ชัดเจนและลดความเสี่ยงในการลงทุนด้านการตลาด
การเติบโตของ Live Commerce
Live Commerce หรือการขายสินค้าผ่านไลฟ์สดกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย โดยจากการสำรวจพบว่า 90% ของคนไทยเคยดูคอนเทนต์ Live Commerce ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา บนแพลตฟอร์มอย่างน้อย 1 แพลตฟอร์ม โดยมี 3 แพลตฟอร์มยอดนิยมคือ TikTok, Shopee และ Facebook
เทรนด์ของ Live Commerce ในปัจจุบันไม่ใช่แค่การขายสินค้า แต่เป็นการผสานความบันเทิงผ่านการพูดคุย เล่นเกม หรือจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ชม นอกจากนี้ Micro-Influencer ก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้น เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับผู้ติดตาม ทำให้การโปรโมทสินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น
สรุป
คำถามที่พบบ่อย
E-Commerce Listener แตกต่างจาก Social Listening อย่างไร?
ธุรกิจขนาดเล็กจำเป็นต้องใช้ E-Commerce Listener หรือไม่?
ต้องใช้งบประมาณเท่าไรในการเริ่มต้นใช้ E-Commerce Listener?
งบประมาณเริ่มต้นขึ้นอยู่กับขนาดธุรกิจและความต้องการ โดยทั่วไปมีตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่นบาทต่อเดือน แต่ ROI ที่ได้มักคุ้มค่ากว่าหลายเท่า Cipher มีแพ็กเกจที่เหมาะสมกับทุกขนาดธุรกิจ สามารถปรึกษาเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะกับธุรกิจของคุณได้