การปรับปรุงเว็บไซต์บริษัทมหาชน: บทบาทสำคัญของ PR ในการสื่อสารวิกฤต

การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการสื่อสารหรือการ PR เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร สำหรับองค์กรขนาดใหญ่หรือบริษัทมหาชนมักจะต้องเจอเหตุการณ์และความเสี่ยงต่อการสูญเสียภาพลักษณ์ที่ดี เนื่องจากผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก ซึ่งอาจทำให้เกิดทัศนคติที่ไม่ดีต่อองค์กรและขาดความน่าเชื่อถือได้ ซึ่งการ PR มีส่วนสำคัญที่สามารถช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีผ่านการให้ข่าวสาร การจัดกิจกรรมที่ดี และการจัดการกับปัญหาวิกฤตต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ขององค์กรได้เช่นกัน

ภาวะวิกฤต คืออะไร? 

ภาวะวิกฤต สำหรับองค์กรหรือบริษัทมหาชนก็คือ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นและส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำเนินงาน ภาพลักษณ์ทางธุรกิจ ความเชื่อมั่นของนักลงทุน หรือราคาหุ้นของบริษัทมหาชน โดยภาวะวิกฤตสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ปัญหาทางการเงิน เรื่องอื้อฉาวในองค์กร ความผิดพลาดในการดำเนินงาน หรือสินค้าหรือบริการส่งผลกระทบในเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในกรณีเหล่านี้ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือขององค์กร ทำให้จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการกับภาวะวิกฤตอย่างเป็นแบบแผน และให้ความสำคัญกับการวางแผน PR และการสื่อสารอย่างชัดเจน มีการชี้แจงข้อเท็จจริง และดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วและโปร่งใสนั่นเอง

บทบาทสำคัญของ PR ในการสื่อสารวิกฤตผ่านเว็บไซต์

PR มีบทบาทสำคัญในการดูแลเนื้อหาที่นำเสนอผ่านเว็บไซต์ โดยเฉพาะเมื่อเกิดวิกฤต การสื่อสารต้องชัดเจน รวดเร็ว และโปร่งใส ซึ่งสามารถทำผ่านส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ เช่น ข่าวสาร คำแถลง หรือหน้าที่เกี่ยวข้องกับ CSR (Corporate Social Responsibillity) เพื่อแสดงให้เห็นถึงการจัดการวิกฤตอย่างมีความรับผิดชอบ ตัวอย่างเช่น การใช้หน้า “ข่าวประชาสัมพันธ์” เพื่ออัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับวิกฤตหรือการจัดการสถานการณ์ และแสดงความตั้งใจในการแก้ปัญหา

การสื่อสารผ่านเว็บไซต์ควรสะท้อนถึงจุดยืนของบริษัทที่ชัดเจน การให้ข้อมูลที่เป็นจริง และการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องอย่างรวดเร็วจะช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจให้กับองค์กรหรือบริษัท

แนวทางการนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับ CSR บนเว็บไซต์

1. บทบาทสำคัญของ PR ในสร้างหน้าเว็บไซต์สำหรับกิจกรรม CSR 

การมีหน้าที่เน้นเฉพาะเรื่อง CSR บนเว็บไซต์เป็นการแสดงออกให้เห็นถึงความจริงจังในการรับผิดชอบขององค์กรหรือบริษัทที่มีต่อสังคม โดยในหน้านี้ของเว็บไซต์ควรมีข้อมูลเกี่ยวกับโครงการหรือกิจกรรม CSR ต่าง ๆ ที่บริษัททำ รวมถึงผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการดังกล่าว ตัวอย่างเช่น รายงานการบริจาคเพื่อชุมชน การลดมลพิษ หรือการใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งควรมีการอัปเดตข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ

2. การใช้เนื้อหาภาพและวิดีโอ

การนำเสนอเนื้อหาหรือการ PR ผ่านภาพถ่ายและวิดีโอของโครงการ CSR จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจและความน่าเชื่อถือ ภาพของการดำเนินกิจกรรมที่บริษัทมีส่วนร่วมในชุมชนสามารถแสดงถึงความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือและพัฒนา การเล่าเรื่องผ่านวิดีโอสั้นที่อธิบายถึงผลลัพธ์จากโครงการ CSR จะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นและผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์

3. การสร้าง Blog หรือบทความที่เกี่ยวกับ CSR ลงบนเว็บไซต์

การมีบล็อกหรือบทความที่ใช้ PR เกี่ยวกับ CSR ที่เน้นเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมสามารถเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีในการสื่อสารเรื่องราวที่ดีขององค์กรหรือบริษัทได้ เช่น บทสัมภาษณ์ของผู้ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการ CSR หรือการอธิบายวิธีการที่บริษัทใช้ในการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ หากเป็นบริษัทที่เกี่ยวกับด้านพลังงาน ควรเป็นกิจกรรม หรือ Content ที่ช่วยสนับสนุนและช่วยส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อม ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่องค์กรหรือบริษัทมหาชนต่าง ๆ นิยมใช้กัน

4. การทำ Social Marketing หรือการทำตลาดเพื่อสังคม 

การนำแนวคิดการตลาดเพื่อสังคมมีจุดประสงค์ในการสร้างประโยชน์กับสังคมมากกว่าการขายสินค้าหรือบริการ ช่วยปลุกจิตสำนึกที่ดีและเพิ่มความยั้งคิดให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับองค์กรหรือบริษัท ซึ่งในปัจจุบันองค์กรธุรกิจก็หันมาให้ความสนใจในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมหรือ CSR กันมากขึ้นเรื่อย ๆ ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นบริษัทเครื่องสำอางอาจใช้ Social Media เพื่อประชาสัมพันธ์แคมเปญ “งดใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย” โดยเชิญชวนลูกค้าให้มีส่วนร่วมในกิจกรรม และใช้เว็บไซต์เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกและแสดงผลการดำเนินงานทำให้เกิดการแชร์เพื่อสร้าง Engagement ได้นั่นเอง

บทสรุป

การสื่อสารวิกฤตและการนำเสนอ CSR ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทมหาชนเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรหรือบริษัท โดยการทำ PR มีบทบาทสำคัญทั้งในการจัดการเนื้อหาและการสื่อสารที่เป็นประโยชน์ มีคุณค่า และเนื้อหาที่แสดงถึงวิสัยทัศน์ขององค์กรหรือบริษัทอย่างชัดเจน ผ่านวิธีการต่าง ๆ เช่น การสร้างหน้า CSR เฉพาะ การใช้ภาพและวิดีโอ รวมถึงการรายงานผลอย่างต่อเนื่อง หาบริษัทหรือองค์กรมีความชำนาญในการจัดการกับภาวะวิกฤตและช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและทำให้บริษัทเป็นที่ยอมรับได้