Table of Contents
HubSpot คืออะไร? เครื่องมือวางระบบ CRM พร้อมฟีเจอร์เด่นและราคา
เชื่อว่าธุรกิจต่าง ๆ ต้องเคยรู้สึกเหนื่อยกับการจัดการลูกค้าจำนวนมาก หรืออยากเพิ่มยอดขายแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน ซึ่ง HubSpot อาจเป็นกุญแจสำคัญ ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้กับธุรกิจของคุณได้
หากคุณอยากให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืน การมีเครื่องมือที่ช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้าของคุณมากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้ธุรกิจของคุณ ได้ผลลัพธ์ที่ได้ คือ การเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น โดยในบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ HubSpot แพลตฟอร์มการตลาดที่ตอบโจทย์ธุรกิจออนไลน์ที่มาแรงที่ที่สุด!
ทำความรู้จักกับ HubSpot คืออะไร?
HubSpot คือ แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยธุรกิจสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำหรับการจัดการด้านการตลาด การขาย และการบริการลูกค้า โดยทั้งทีมขายและทีมการตลาด สามารถจัดการข้อมูลของลูกค้าจากช่องทางต่าง ๆ ได้ภายในแพลตฟอร์มเดียว
หัวใจสำคัญของ HubSpot คือ แนวคิดการทำการตลาดแบบ Inbound Marketing ซึ่งเน้นการดึงดูดลูกค้าด้วยเนื้อหาหรือคอนเทนต์ที่มีคุณค่า เพื่อเปลี่ยนให้ Lead หรือผู้ที่สนใจกลายเป็นลูกค้าที่จงรักภักดีต่อแบรนด์หรือธุรกิจได้ในระยะยาว โดยมีกระบวนการทำงานหลัก ๆ 3 ขั้นตอน ได้แก่
- Attract (ดึงดูด): เป็นการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้า ด้วยการสร้างเนื้อหาหรือคอนเทนต์ที่ตรงใจ มีประโยชน์ เช่น การเขียนบล็อก โพสต์โซเชียลมีเดีย หรือการทำ SEO
- Engage (สานสัมพันธ์): เป็นส่วนที่ใช้ Sales Pipeline ซึ่งเริ่มตั้งแต่เริ่มเข้าชมไปจนถึงการปิดการขาย โดยเป็นการทำให้คนหันมาสนใจสินค้าหรือบริการ เพื่อเปลี่ยน Lead (ผู้ที่สนใจ) ให้กลายเป็น Customer (ลูกค้า) และ
- Delight (สร้างความพึงพอใจ): สร้างความประทับใจและความพึงพอใจ ด้วยการให้บริการหลังการขายที่ดี นอกจากนี้คือการทำให้พวกเขาเห็นถึงคุณค่าของคุณอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสกลับมาหาคุณอีกในอนาคต
HubSpot มีฟีเจอร์อะไรบ้าง?
HubSpot CRM เป็นระบบที่ถูกพัฒนาออกมา เพื่อใช้ในการจัดการระบบ CRM หรือ Customer Relationship Management ที่ใช้สำหรับการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าที่ครบวงจร พร้อมกับฟีเจอร์ที่หลากหลาย เพื่อช่วยธุรกิจในการบริหารการตลาด การขาย การบริการลูกค้า และการจัดการเว็บไซต์ หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่า HubSpot CRM ทำอะไรได้บ้าง ซึ่งฟีเจอร์สำคัญของแพลตฟอร์มนี้ จะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น ดังนี้
1. Marketing Hub
HubSpot CRM เป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการทำการตลาดอัตโนมัติ เช่น
- Email Marketing: เป็นการทำการตลาดผ่านอีเมล ซึ่งทำให้ผู้ใช้ สามารถส่งและติดตามผลของอีเมลหรือแคมเปญต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Content Creation & Management: ผู้ใช้สามารถสร้างและจัดการเนื้อหาที่ใช้สำหรับดึงดูดลูกค้า เช่น บล็อก บทความ และ Landing Page ได้จากแพลตฟอร์มเดียว
- SEO Tools: มาพร้อมกับเครื่องมือที่สามารถช่วยเพิ่มการมองเห็นในเครื่องมือค้นหาได้
- Social Media Management: ตัวช่วยสำหรับใช้จัดการโพสต์และวิเคราะห์ผลในโซเชียลมีเดีย
- Marketing Automation: สามารถทำการตลาดแบบอัตโนมัติ เช่น การส่งอีเมลหรือการจัดการ Lead
2. Sales Hub
HubSpot CRM สามารถช่วยตอบโจทย์ทีมขายได้เป็นอย่างดี โดยผู้ใช้สามารถใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อใช้ติดตามลูกค้าและการขายต่าง ๆ ได้ เช่น
- Sales Pipeline Management: Sales Pipeline คือ หนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยในการติดตามและจัดการกระบวนการขายของทีมขาย ทำให้ทีมขายทราบถึงขั้นตอนการทำงาน ว่าอยู่ในขั้นตอนไหน และนำข้อมูลต่าง ๆ ไปใช้ เพื่อวิเคราะห์และปรับกลยุทธ์การขายได้
- Sales Automation: สามาารถช่วยลดงานซ้ำซ้อนได้ เช่น การส่งอีเมลอัตโนมัติ สำหรับส่งโปรโมชันหรือแคมเปญต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความสนใจ และสร้างโอกาสในการขาย
- Email Tracking & Notifications: การแจ้งเตือนเมื่อลูกค้าเปิดอีเมลหรือคลิกลิงก์ ทำให้ทีมขายสามารถส่งโปรโมชันหรือแคมเปญที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ทันที
3. Service Hub
การบริการลูกค้าได้อย่างเป็นระบบ เป็นสิ่งที่ทำให้ทีมบริการ หรือฝ่ายแอดมิน สามารถแก้ปัญหาและให้บริการลูกค้าได้ทันที เช่น
- Ticketing System: เป็นระบบที่ใช้สำหรับจัดการคำร้องหรือปัญหาของลูกค้า
- Live Chat & Chatbots: ทำให้ทีมบริการสามารถทราบถึงปัญหาของลูกค้า และสามารถตอบคำถามลูกค้าแบบเรียลไทม์ หรือการตอบคำถามที่มีคนถามบ่อยด้วยการใช้แชทบอท ซึ่งช่วยลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน
- Customer Feedback Tools: สามารถใช้รวบรวมความคิดเห็นลูกค้าผ่านแบบสอบถาม และนำไปปรับกลยุทธ์การตลาดให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้
- Reporting Tools: เครื่องที่สามารถวิเคราะห์และประเมินประสิทธิภาพการบริการออกมาเป็นรายงานที่เข้าใจง่าย
4. CMS Hub
CMS Hub เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยทำให้การจัดการหน้าเว็บไซต์ รวมถึงเนื้อหาของโครงสร้างต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในการทำ SEO และมาตฐานต่าง ๆ ในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งานเว็บไซต์ เช่น
- Drag-and-Drop Website Builder: สร้างและปรับแต่งเว็บไซต์โดยไม่ต้องเขียนโค้ดหรือความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค
- SEO Recommendations: การให้คำแนะนำในการปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับ SEO
- Personalization: ปรับแต่งเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของผู้เยี่ยมชม
- A/B Testing: การทดสอบและเปรียบเทียบประสิทธิภาพของหน้าเว็บไซต์ เพื่อใช้ปรับกลยุทธ์การตลาด
- Security Features: ระบบการป้องกันและรักษาความปลอดภัยของเว็บไซต์
5. Operations Hub
สำหรับแบรนด์หรือธุรกิจที่ต้องการระบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยจัดการระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพ และช่วยลดความผิดพลาดในการทำงาน โดย Operation Hub มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ช่วยตอบโจทย์ธุรกิจ เช่น
- Data Sync: เชื่อมต่อข้อมูลระหว่างซอฟต์แวร์ต่าง ๆ
- Custom Automation: สร้างกระบวนการและระบบการทำงานอัตโนมัติที่มีความซับซ้อน
- Data Cleaning: สามารถตรวจสอบและปรับปรุงความถูกต้องของข้อมูลบนเว็บไซต์
- Integration Management: สามารถจัดการการเชื่อมต่อกับเครื่องมือและระบบอื่น ๆ ทำให้สามารถปรับใช้กับทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้อย่างอิสระ
ข้อดีและข้อเสียของ HubSpot
HubSpot มีจุดเด่นในการใช้งานมากมาย ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้กับธุรกิจหลากหลายรูปแบบ ทำให้ทั้งทีมขาย ทีมการตลาด และทีมบริการลูกค้า สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดีของ HubSpot
- แพลตฟอร์มแบบครบวงจร: รวมฟีเจอร์สำหรับการตลาด การขาย การบริการลูกค้า และการจัดการเว็บไซต์ในที่เดียว ช่วยลดความยุ่งยากในการใช้ซอฟต์แวร์หลายตัว
- ใช้งานง่าย: อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ใช้ทุกระดับ ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญ
- การรวมระบบกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ: รองรับการเชื่อมต่อกับเครื่องมือและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้หลากหลาย เช่น Google Ads, Salesforce และ Shopify มี App Marketplace สำหรับเพิ่มฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ธุรกิจทุกรูปแบบ
- มีฟีเจอร์ฟรีสำหรับเริ่มต้นใช้งาน: HubSpot CRM มีฟีเจอร์พื้นฐานให้ใช้งานฟรีสำหรับมือใหม่และธุรกิจขนาดเล็ก ทำให้สามารถทดลองใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
- การวิเคราะห์และรายงาน: มี Dashboard ที่ครอบคลุมภาพรวมของการทำงาน ทำให้สามารถรายงานข้อมูลเชิงลึกแบบได้แบบเรียลไทม์ และนำข้อมูลมาใช้ติดตามประสิทธิภาพทางธุรกิจได้อย่างง่ายดาย
ข้อเสียของ HubSpot
- ค่าใช้จ่ายสูง: สำหรับธุรกิจที่ต้องการใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูงและครอบคลุมการใช้งานมากขึ้น อาจมีแพ็กเกจราคาค่อนข้างสูงตามไปด้วย
- ฟีเจอร์ขั้นสูงมีความซับซ้อนในการใช้งาน: การใช้งานฟีเจอร์ที่สูงขึ้น จำเป็นต้องใช้เทคนิคในการปรับแต่ง ทำให้จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม และต้องใช้เวลาในการฝึกอบรม แต่สำหรับธุรกิจที่ต้องการใช้ระบบ CRM ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเลือกใช้บริการ CRM Traning จากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มศักยภาพขององค์กรได้
ราคา HubSpot แพ็กเกจมีอะไรบ้าง?
สำหรับผู้เริ่มต้นหรืออยากทดลองใช้งาน สามารถใช้งานได้ฟรี แต่เป็นฟีเจอร์ส่วนเล็ก ๆ ที่ยังไม่ครอบคลุมการทำ Inbound นอกเหนือจากเวอร์ชันฟรี ราคาแพ็กเกจจะเริ่มต้นที่ 15 เหรียญต่อเดือน ซึ่งจะเป็นในส่วนของ Marketing Hub, Sales Hub และ Service Hub หากสนใจใช้งานด้านอื่น ๆ เพิ่มเติม ก็จะมีราคาเพิ่มขึ้นตามแต่ละแพ็กเกจ และหากมี Contact จำนวนมากหรือมีฟีเจอร์ที่ต้องการมากขึ้น จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงตามไปด้วย
สรุป
HubSpot คือ แพลตฟอร์มสำหรับใช้ทำ Inbound Marketing สำหรับให้แบรนด์หรือธุรกิจใช้ในการจัดการส่ง Email Marketing เพื่อสร้างความสัมพันธ์ ช่วยดึงดูดลูกค้า และใช้สร้างยอดขายให้กับธุรกิจ พร้อมเครื่องมือการตลาด ที่สามารถนำมาปรับใช้งานให้เหมาะกับรูปแบบของธุรกิจได้
หากธุรกิจของคุณ กำลังมองหาตัวช่วยหรือระบบ CRM ที่ตอบโจทย์ธุรกิจได้อย่างครบครัน CIPHER ถือเป็นคำตอบ! เพราะพวกเรา มีบริการพร้อมจะช่วยยกระดับธุรกิจของคุณให้เติบโตขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ