Website คืออะไร? มีกี่ประเภท รวบรวมสิ่งที่ต้องรู้ในปี 2025

Table of Contents

Website คืออะไร? มีกี่ประเภท รวบรวมสิ่งที่ต้องรู้ในปี 2025

Website คือ สิ่งที่เข้ามามีบทบาทสำคัญและเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของทุกคนในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา ค้นหาข้อมูล ซื้อของออนไลน์ สื่อสาร และความบันเทิง ถ้าคุณกำลังสงสัยว่า Website คืออะไร ทำไมต้องมีเว็บไซต์ มีแล้วดีอย่างไร และมีอีกหลายคำถามเกี่ยวกับเว็บไซต์บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ Website คืออะไร ที่คุณควรรู้ในปี 2025 มาให้แล้ว

Website คืออะไร?

เว็บไซต์ หรือ Website คือแหล่งข้อมูลหรือสถานที่บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่รวบรวมเอกสาร ข้อมูลต่างๆ ในรูปแบบของเว็บเพจ (Web page) หลายๆหน้ามาไว้ด้วยกัน เชื่อมโยงกันในโดเมน (Domain) เดียวกัน ความหมายของเว็บไซต์คือการจัดเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ (Server) และสามารถเข้าถึงได้ผ่านทางโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ (Web browser) เช่น Google Chrome, Safari, Firefox เป็นต้น ผ่านทางอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเว็บไซต์หาข้อมูลนำเสนอข่าวสารการใช้งานเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์ การค้าขายสินค้า และบริการต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ของเจ้าของเว็บหาข้อมูล

ทำไมต้องมีเว็บไซต์ มีแล้วดีอย่างไร?

ในปัจจุบันเป็นยุคแห่งดิจิทัลเว็บไซต์ถือเป็นสิ่งจำเป็นและเข้ามามีบทบาทสำคัญกับชีวิตประจำวันและการทำธุรกิจ ประโยชน์ของเว็บไซต์คือช่วยให้การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการทำได้ง่ายขึ้น เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำกัดเฉพาะในพื้นที่ แต่ยังขยายไปทั่วโลก เป็นช่องทางสร้างภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ และเพิ่มโอกาสในการแข่งขันทางการตลาดออนไลน์ได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าปัจจุบันไม่มี Website คือธุรกิจอาจไปไม่รอดเลยทีเดียว

10 ประเภท Website ที่ควรรู้จัก

แต่ละ Website คือถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอข้อมูล ข่าวสาร ความบันเทิง การศึกษา หรือการทำธุรกิจออนไลน์ เราสามารถแบ่งประเภทของเว็บไซต์ออกเป็น 10 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

1. เว็บไซต์ส่วนตัว (Personal Website)

เว็บไซต์ส่วนตัว เป็นพื้นที่ออนไลน์ที่บุคคลสร้างขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เช่น ประวัติส่วนตัว ผลงาน ความสนใจ บล็อก หรือแบ่งปันข้อมูลที่ตนเองถนัด ใช้ในการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ให้ผู้อื่นได้รู้จัก เป็นช่องทางในการแสดงความคิดเห็น ไลฟ์สไตล์ และทักษะความสามารถของเจ้าของเว็บไซต์

2. เว็บไซต์ธุรกิจ (Business Website)

เว็บไซต์ธุรกิจ หรือเว็บไซต์องค์กร ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ประชาสัมพันธ์และนำเสนอข้อมูลของบริษัท ผลิตภัณฑ์ และบริการต่าง ๆ มีจุดประสงค์เพื่อดึงดูดลูกค้า สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ อำนวยความสะดวกในการจัดแสดงสินค้า การติดต่อสื่อสาร และทำให้ลูกค้ารู้จักองค์กรมากขึ้น ถือเป็นช่องทางสำคัญในการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ

3. เว็บไซต์ขายสินค้า (E-commerce Website)

Website คืออะไร? - เว็บไซต์ E-Commerce
เว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ หรืออีคอมเมิร์ซ ทำหน้าที่เหมือนห้างสรรพสินค้าออนไลน์ ที่จำหน่ายสินค้าและบริการต่างๆ ให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้ทุกที่ทุกเวลา มีระบบตะกร้าสินค้า การชำระเงิน และจัดส่งสินค้าให้ถึงมือผู้ซื้อ เป็นช่องทางการตลาดและการขายที่มีประสิทธิภาพ ช่วยขยายกลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้น ลดต้นทุน และเพิ่มความสะดวกในการใช้งานเว็บไซต์ให้กับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย

4. เว็บไซต์ข่าวสาร (News Agency Website)

เว็บไซต์ข่าว หรือสำนักข่าวออนไลน์ มีหน้าที่หลักในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ และประเด็นที่น่าสนใจในแวดวงต่าง ๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม บันเทิง กีฬา ไลฟ์สไตล์ ฯลฯ ในรูปแบบบทความ คลิปข่าว หรือรายงานพิเศษ โดยมีการอัปเดตข่าวใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่รวดเร็ว ถูกต้อง และทันเหตุการณ์

5. เว็บไซต์ความบันเทิง (Entertainment Website)

เว็บไซต์ความบันเทิง คือแหล่งรวมคอนเทนต์ไว้สำหรับความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ รายการโทรทัศน์ เพลง มิวสิควิดีโอ เกม ข่าวและกอสซิปดารา หรือบทความไลฟ์สไตล์ต่างๆ ผู้ใช้สามารถรับชม ฟัง อ่าน และเสพความบันเทิงจากเว็บไซต์เหล่านี้ได้ตามใจชอบ ทุกที่ทุกเวลา ผ่านหลากหลายอุปกรณ์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี

6. เว็บไซต์การศึกษา (Educational Website)

เว็บไซต์การศึกษา พัฒนาขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ความรู้ในด้านวิชาการและการเรียนการสอน มีเนื้อหาหลากหลายสาขา ครอบคลุมทุกระดับชั้น ตั้งแต่อนุบาล ประถม มัธยม อุดมศึกษา ไปจนถึงหลักสูตรเฉพาะทาง รูปแบบการนำเสนอมีตั้งแต่บทเรียน เอกสารประกอบ สื่อมัลติมีเดีย ไปจนถึงคอร์สเรียนออนไลน์แบบเต็มรูปแบบ ช่วยเพิ่มโอกาสและความเท่าเทียมทางการศึกษา อำนวยความสะดวกให้ผู้เรียนเข้าถึงแหล่งความรู้ได้ง่ายขึ้น เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่าน Website คือการศึกษา

7. เว็บไซต์ข้อมูล (Informational Website)

เว็บไซต์ข้อมูล มีเป้าหมายหลักเพื่อให้ความรู้และข้อมูลในด้านต่างๆ อย่างถูกต้อง ครบถ้วน จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ โดยไม่ได้เน้นการขายสินค้าหรือบริการ ส่วนมากจะจัดทำโดยหน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา หรือองค์กรอิสระที่มุ่งเน้นเผยแพร่ความรู้เพื่อเป็นประโยชน์แก่สังคม เช่น Wikipedia, วิกิพีเดียภาษาไทย, สารานุกรมออนไลน์ หรือเว็บไซต์วิชาการเฉพาะทางต่างๆ เป็นต้น

8. เว็บไซต์องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร (Non-profit Organization Website)

เว็บไซต์องค์กรไม่แสวงหากำไร ถูกพัฒนาขึ้นโดยมูลนิธิ, สมาคม, ชมรม หรือกลุ่มอาสาสมัคร เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรม ให้ข้อมูลข่าวสาร และระดมความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ สำหรับการดำเนินงานเพื่อสังคมและส่วนรวม ไม่ได้มุ่งหวังผลกำไร เช่นเว็บไซต์ของมูลนิธิต่างๆ,เว็บไซต์รณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อม,เว็บไซต์ให้ความช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส เป็นต้น ช่วยสร้างการรับรู้ เชิญชวนให้คนเข้ามามีส่วนร่วม และระดมทรัพยากรเพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคมให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

9. เว็บแอพพลิเคชัน (Web Application)

เว็บไซต์แอปพลิเคชัน คือ Website คือสิ่งที่ถูกพัฒนาให้มีคุณสมบัติการทำงานขั้นสูง คล้ายกับโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันทั่วไป สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้อย่างเต็มรูปแบบ ใช้สำหรับจัดการข้อมูล วิเคราะห์ หรือประมวลผลในเรื่องต่างๆ ได้ตามความต้องการ เช่น ระบบจัดการสต็อกสินค้า, ระบบซื้อขายหุ้นออนไลน์, โปรแกรมแต่งรูปออนไลน์, ระบบรายงานสถิติการขายของพนักงาน เป็นต้นเว็บไซต์แอปพลิเคชันจึงเน้นการใช้งานเว็บไซต์มากกว่าการแสดงผลข้อมูลแบบทั่วไป

10. เว็บบอร์ดออนไลน์ (Online Forum Website)

เว็บไซต์บอร์ดออนไลน์ หรือ Forum เป็น Website คือสิ่งที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับกลุ่มคนที่สนใจในเรื่องเดียวกัน มาแลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นในหัวข้อต่างๆ ลักษณะคล้ายห้องสนทนาขนาดใหญ่ ผู้ใช้ส่วนใหญ่ต้องสมัครสมาชิกเพื่อโพสต์ข้อความและแบ่งปันข้อมูลกัน โดยมีผู้ดูแลควบคุม

เว็บไซต์ที่ดี ควรเป็นอย่างไร?

Website คืออะไร? - เว็บไซต์ที่ดี

การจะเรียกได้ว่าเป็นเว็บไซต์ที่ดี ควรมีองค์ประกอบดังนี้

  • ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย ใช้งานได้ลื่นไหล มีรูปแบบการจัดวาง และใช้สีที่ดึงดูดสายตา มีเอกลักษณ์โดดเด่น แต่ไม่เยอะจนรกรุงรัง ช่วยให้ผู้ใช้จดจำได้ในครั้งแรกที่เห็น
  • มีเนื้อหาที่น่าสนใจ เป็นประโยชน์ ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เขียนอย่างกระชับ อ่านแล้วเข้าใจง่าย ไม่มีคำผิด เนื้อหาถูกต้อง และมีการอัปเดตให้ทันสมัยอยู่เสมอ
  • โหลดเร็ว ทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือ ไม่ใช้เวลามากในการแสดงผล ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดีของผู้ใช้
  • ใช้งานง่าย มีเมนูนำทางที่เป็นหมวดหมู่ชัดเจน มีลิงก์เพื่อเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย การออกแบบและวางองค์ประกอบเป็นระเบียบ ทำให้ใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องเสียเวลาคิดมาก
  • เข้าถึงได้จากทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน โดยเนื้อหาและการแสดงผลจะปรับให้เหมาะสมกับหน้าจอของแต่ละอุปกรณ์ได้อัตโนมัติ
  • SEO เป็นมิตรกับ Search Engine มีการใช้คำสำคัญที่ตรงกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายค้นหา มีการวางลิงก์ภายในเว็บไซต์อย่างเหมาะสม ช่วยให้ติดอันดับบน Search Engine ได้ง่าย
  • ปลอดภัย มีการเข้ารหัสข้อมูลและป้องกันเว็บไซต์จากการโจมตีทางไซเบอร์ ทำให้ผู้ใช้วางใจและกล้าที่จะทำธุรกรรมกับเว็บไซต์
  • เชื่อมโยงกับโซเชียลมีเดีย มีปุ่มแชร์เนื้อหาบนเว็บไซต์ไปยัง Facebook, Twitter หรือ LINE ได้ เป็นการช่วยกระจายคอนเทนต์เพื่อให้เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น

สิ่งที่ควรรู้ก่อนการทำเว็บไซต์

ก่อนจะลงมือทำเว็บไซต์มีสิ่งที่ต้องเตรียมความพร้อมและศึกษาทำความเข้าใจไว้ดังนี้

  1. กำหนดวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์ให้ชัดเจน ว่าต้องการทำเพื่ออะไร ขายสินค้า ประชาสัมพันธ์ หรือให้ความรู้ เพื่อวางแผนรูปแบบ Website คือสิ่งที่ตรงจุด
  2. กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ามาใช้เว็บไซต์ศึกษาความต้องการ พฤติกรรม และสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ เพื่อนำมาวางโครงสร้างเนื้อหาและออกแบบให้โดนใจ
  3. จัดเตรียมเนื้อหาให้พร้อม เนื้อหาควรมีประโยชน์ เป็นเรื่องที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ ไม่ผิดกฎหมายและศีลธรรม มีการตรวจทานให้ถูกต้องก่อนนำไปใช้
  4. ออกแบบเว็บไซต์ ให้สวยงาม น่าสนใจ เมนูใช้งานง่าย ดูแล้วไม่ลายตา ใช้โทนสีที่เหมาะสมกับเนื้อหา และปรับให้ดูได้ดีบนทุกขนาดหน้าจอ
  5. เลือกโดเมน (Domain name) ที่สื่อถึงเนื้อหาในเว็บไซต์สั้น กระชับ จดจำง่าย เป็นชื่อที่ไม่ซ้ำกับใคร ตรวจสอบว่ายังไม่มีคนจดทะเบียนและสามารถใช้งานได้
  6. เลือกโฮสติ้ง (Web Hosting) ที่รองรับเทคโนโลยีที่เราจะใช้พัฒนาเว็บไซต์มีพื้นที่เพียงพอต่อการอัปเดตเนื้อหา มี server ที่เสถียร พร้อมทีมซัพพอร์ตที่พร้อมช่วยเหลือ 24 ชม.
  7. พัฒนาเว็บไซต์ อาจจ้างบริษัท web design & development มืออาชีพมาช่วยดูแลทุกขั้นตอน หรือใช้ website builder อย่าง WordPress ที่ใช้งานง่ายในการสร้างเว็บด้วยตัวเอง
  8. ทดสอบการใช้งานเว็บไซต์หลังจากพัฒนาเสร็จ ต้องมีการทดลองใช้งานจริงทุกเมนู ทุกปุ่ม ทุกลิงก์ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีข้อผิดพลาด ลองเข้าจากอุปกรณ์และเบราว์เซอร์ต่างๆ ปรับแก้จนใช้งานได้ลื่นไหล
  9. SEOเว็บไซต์ด้วยการใช้คำหลัก (Keywords) ที่เกี่ยวข้องกระจายในเนื้อหา ใส่ Alt Text ให้รูปภาพ ใช้ Heading Tag ให้ถูกต้อง ปรับ URL ให้สื่อถึงเนื้อหา เพื่อให้ SEO เป็นมิตรกับ Google
  10. ประชาสัมพันธ์เว็บไซต์หลังจาก Launch เว็บแล้ว อย่าลืมบอกให้ทุกคนรู้ ทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ ผ่านทางอีเมล โซเชียลมีเดีย รวมถึงการทำโฆษณาออนไลน์ เพื่อกระตุ้นให้คนเข้ามาใช้งานเว็บไซต์

ทำเว็บไซต์กับเรา CIPHER ได้แล้ววันนี้!

ไม่ว่าคุณจะอยากมีเว็บไซต์เพื่อวัตถุประสงค์ใด ต้องการเว็บแบบไหน ปรึกษาทีมงานมืออาชีพจาก CIPHER เราพร้อมช่วยออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณ ด้วยประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ผลงานมากมาย เรามั่นใจว่าจะสร้างเว็บไซต์ในฝันของคุณออกมาได้อย่างสวยงาม ใช้งานได้จริง เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และผลักดันธุรกิจของคุณไปสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอน

สรุป

Website คือ แหล่งข้อมูลออนไลน์ที่รวบรวมข้อมูล เนื้อหา หรือบริการต่างๆ มานำเสนอในรูปแบบของเว็บเพจ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้ผ่านทางอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์สามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามวัตถุประสงค์หลัก ได้แก่ เว็บไซต์ส่วนตัว, เว็บไซต์ธุรกิจ, เว็บขายสินค้า, เว็บข่าว, เว็บบันเทิง, เว็บแอปพลิเคชัน และอื่นๆ อีกมากมาย เว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ เป็นช่องทางการตลาดออนไลน์ที่เข้าถึงคนได้ทั่วโลก และช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์

ก่อนจะทำเว็บไซต์ต้องศึกษากลุ่มเป้าหมาย จัดเตรียมเนื้อหา ออกแบบเว็บไซต์ให้สวยงาม ใช้งานง่าย และเป็นมิตรกับ SEO หากต้องการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง สามารถให้ Cipher ผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลได้ทุกขั้นตอน เพื่อการันตีเว็บไซต์คุณภาพ พร้อมใช้งานจริง ส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน และเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการทำธุรกิจออนไลน์

คำถามที่พบบ่อย

เว็บไซต์ (Web Site) หมายถึง อะไร?

เว็บไซต์ หมายถึง กลุ่มของหน้าเว็บเพจ ที่ถูกรวบรวมเข้าไว้ด้วยกัน เชื่อมโยงกันผ่านลิงค์ ภายใต้โดเมน (Domain name) เดียวกัน เพื่อเผยแพร่เนื้อหา บริการ หรือสื่อในรูปแบบต่าง ๆ ให้ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตสามารถเข้าถึงได้

Website ทำอะไรได้บ้าง?

เว็บไซต์มีประโยชน์และสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น

  • นำเสนอข้อมูล ความรู้ ข่าวสาร ความบันเทิง ไลฟ์สไตล์
  • ทำการตลาด ประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการ
  • ขายสินค้าออนไลน์แบบ E-Commerce
  • เป็นช่องทางการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย ชุมชน หรือลูกค้า
  • ให้บริการด้านต่าง ๆ เช่น การจอง การลงทะเบียน การชำระเงิน
  • สร้างแบรนด์ สร้างภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ
  • ใช้เป็น Portfolio แสดงผลงานของบุคคลหรือบริษัท

เว็บไซต์ ต่างกับเว็บเพจอย่างไร?

  • เว็บไซต์ (Website) คือ กลุ่มของเว็บเพจจำนวนมากที่ถูกรวบรวมเข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้โดเมนเดียวกัน เพื่อแสดงข้อมูลในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกัน เปรียบเหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง
  • เว็บเพจ (Web page) คือ หน้าเอกสารแต่ละหน้าในเว็บไซต์ ที่แสดงเนื้อหาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งอาจประกอบไปด้วย ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ เสียง ลิงค์ ฯลฯ เปรียบเหมือนแต่ละหน้าในหนังสือ

โปรแกรมที่ใช้จัดทำเว็บไซต์ (Website) คืออะไร?

โปรแกรมหรือเครื่องมือที่นิยมใช้ในการพัฒนาเว็บไซต์ ได้แก่

  • โปรแกรมเขียนโค้ด (Code Editor) เช่น Sublime Text, Atom, Notepad++
  • โปรแกรมออกแบบกราฟิก เช่น Adobe Photoshop, Figma, Sketch
  • เว็บเซิร์ฟเวอร์ เช่น Apache, Nginx, IIS
  • ภาษาสคริปต์ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ (Server-side Script) เช่น PHP, Python, Ruby, Node.js
  • ภาษาสคริปต์ฝั่งไคลเอนต์ (Client-side Script) เช่น HTML, CSS, JavaScript
  • ระบบจัดการฐานข้อมูล (Database) เช่น MySQL, MongoDB, Oracle
  • CMS หรือเว็บสำเร็จรูป เช่น WordPress, Wix, Shopify

การใช้เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้การสร้างเว็บไซต์ทำได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ไม่ต้องเขียนโค้ดทุกอย่างใหม่ตั้งแต่เริ่ม และยังเพิ่มความสามารถ ความสวยงาม และประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์ได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

Scroll to Top