การเขียนเว็บไซต์มีขั้นตอนอะไรบ้าง? เทคนิคสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเองง่าย ๆ

เขียนเว็บไซต์

ปัจจุบันการมีหน้าเว็บไซต์เป็นของตัวเองถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทั้งธุรกิจและบุคคลทั่วไป การเขียนเว็บไซต์เองสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและทำให้คุณมีอิสระในการออกแบบได้ตามความต้องการ บทความนี้ CIPHER ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ จะแนะนำขั้นตอนการเขียนเว็บไซต์ตั้งแต่เริ่มต้น รวมถึงภาษาที่ใช้ในการพัฒนาเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Table of Contents

ภาษาเขียนเว็บไซต์มีอะไรบ้าง?

ก่อนที่จะเริ่มเขียนเว็บไซต์ คุณควรทำความเข้าใจภาษาพื้นฐานที่ใช้ในการพัฒนาเว็บไซต์ก่อน ซึ่งประกอบด้วยภาษาหลัก 3 ประเภทดังนี้

1. ภาษา HTML

HTML (Hyper Text Markup Language) เป็นภาษาพื้นฐานที่สุดและสำคัญที่สุดในการเขียนเว็บไซต์ ภาษา HTML ทำหน้าที่กำหนดโครงสร้างและเนื้อหาของเว็บเพจ โดยใช้ระบบ Tag ในการควบคุมการแสดงผลต่างๆ บนหน้าจอ เช่น หัวข้อ ย่อหน้า รูปภาพ และลิงก์

ตัวอย่างโค้ด HTML พื้นฐาน:

เขียนเว็บไซต์
การเขียนเว็บไซต์ด้วย HTML ต้องมีความรอบคอบในการเปิดและปิด Tag ให้ถูกต้อง เพราะหากพิมพ์ผิดหรือลืมปิด Tag อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการแสดงผลได้

2. ภาษา CSS

CSS (Cascading Style Sheets) เป็นภาษาที่ใช้สำหรับตกแต่งเว็บไซต์ให้สวยงาม CSS จะทำงานคู่กับ HTML โดยทำหน้าที่กำหนดรูปแบบการแสดงผล เช่น สี ขนาดตัวอักษร ระยะห่าง ขอบ และการจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ บนหน้าเว็บไซต์

ตัวอย่างโค้ด CSS พื้นฐาน:

เขียนเว็บไซต์
การเขียนเว็บไซต์โดยใช้ CSS ช่วยให้คุณสามารถแยกส่วนเนื้อหา (HTML) ออกจากการจัดรูปแบบ (CSS) ทำให้การจัดการเว็บไซต์ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. ภาษา JAVASCRIPT

JavaScript เป็นภาษาโปรแกรมมิ่งที่ใช้เพิ่มความสามารถในการโต้ตอบกับผู้ใช้งานเว็บไซต์ ภาษานี้ช่วยให้เว็บไซต์มีความเคลื่อนไหว สามารถตอบสนองกับการกระทำของผู้ใช้ และสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์

JavaScript สามารถใช้สร้างฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น:

  • การตรวจสอบข้อมูลในฟอร์ม
  • เอฟเฟ็กต์แอนิเมชัน
  • พ็อปอัปและโมดัล
  • การโหลดข้อมูลแบบ dynamic โดยไม่ต้องรีเฟรชหน้าเว็บ

ตัวอย่างโค้ด JavaScript พื้นฐาน:

เขียนเว็บไซต์
การเขียนเว็บไซต์ด้วย JavaScript ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานให้กับเว็บไซต์ของคุณอย่างมาก

ขั้นตอนการเขียนเว็บไซต์

เว็บไซต์ยังคงเป็นแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับแบรนด์หรือธุรกิจของคุณ ดังนั้นหากคุณต้องการสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเอง ควรมีการเตรียมตัวตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. วางแผนและกำหนดเป้าหมายของเว็บไซต์

ก่อนที่จะเริ่มเขียนเว็บไซต์ คุณควรกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายของเว็บไซต์ให้ชัดเจน ว่าคุณต้องการสร้างเว็บไซต์เพื่ออะไร เช่น เพื่อนำเสนอผลงาน เพื่อขายสินค้าออนไลน์ หรือเพื่อแชร์ความรู้และข้อมูล การวางแผนที่ดีจะช่วยให้การพัฒนาเว็บไซต์เป็นไปอย่างมีทิศทางและประสบความสำเร็จ

นอกจากนี้ คุณควรสร้าง Sitemap หรือแผนผังเว็บไซต์เพื่อกำหนดโครงสร้างของเว็บไซต์ ว่าจะมีหน้าเพจอะไรบ้าง และจะเชื่อมโยงกันอย่างไร รวมถึงวาง Layout หรือโครงสร้างของแต่ละหน้าเพจด้วย การวางแผนที่ดีจะช่วยให้การเขียนเว็บไซต์เป็นไปอย่างมีระบบและประหยัดเวลา

2. จดโดเมนและเช่าพื้นที่โฮสติ้ง

หลังจากวางแผนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการจดโดเมนและเช่าพื้นที่โฮสติ้งสำหรับเว็บไซต์ของคุณ โดเมน (Domain Name) คือชื่อเว็บไซต์ เช่น www.yourwebsite.com ส่วนโฮสติ้ง (Hosting) คือพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์เว็บไซต์และข้อมูลทั้งหมด

การเลือกชื่อโดเมนควรเลือกชื่อที่จดจำง่าย เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือเนื้อหาของเว็บไซต์ และไม่ยาวเกินไป ส่วนการเลือกโฮสติ้ง ควรพิจารณาจากความเร็ว ความเสถียร การรองรับเทคโนโลยีที่คุณต้องการใช้ และการให้บริการด้านความปลอดภัย

3. เริ่มเขียนโค้ดหรือใช้ CMS

หลังจากที่คุณมีโดเมนและโฮสติ้งแล้ว คุณสามารถเริ่มเขียนเว็บไซต์ได้ โดยคุณมี 2 ทางเลือก คือ

  1. เขียนโค้ดด้วยตัวเอง – หากคุณมีความรู้เรื่องการเขียนโค้ด HTML, CSS, และ JavaScript คุณสามารถเขียนเว็บไซต์ด้วยตัวเองตั้งแต่ต้น โดยใช้โปรแกรม Text Editor เช่น Visual Studio Code, Sublime Text, หรือ Notepad++ ในการเขียนโค้ด
  2. ใช้ระบบจัดการเนื้อหา (CMS) – หากคุณไม่มีความรู้เรื่องการเขียนโค้ด คุณสามารถใช้ระบบจัดการเนื้อหา เช่น WordPress, Joomla, หรือ Drupal ซึ่งช่วยให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด CMS มีธีมและปลั๊กอินให้เลือกมากมาย ทำให้การสร้างเว็บไซต์ง่ายและรวดเร็วขึ้น

การเขียนเว็บไซต์ด้วย CMS เป็นทางเลือกที่นิยมสำหรับผู้เริ่มต้น เพราะใช้งานง่ายและมีชุมชนขนาดใหญ่คอยให้ความช่วยเหลือ

4. ออกแบบหน้าเว็บไซต์

การออกแบบเว็บไซต์เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณสวยงามและน่าใช้งาน ในขั้นตอนนี้ คุณจะต้องคำนึงถึง:

  • การใช้สีและตัวอักษร – เลือกชุดสีและรูปแบบตัวอักษรที่เข้ากับแบรนด์หรือธีมของเว็บไซต์
  • การจัดวางองค์ประกอบ – จัดวางเนื้อหา รูปภาพ และปุ่มกดต่าง ๆ ให้เหมาะสมและใช้งานง่าย
  • การออกแบบที่ตอบสนอง (Responsive Design) – ทำให้เว็บไซต์แสดงผลได้ดีบนทุกอุปกรณ์ ทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ตโฟน
  • User Experience (UX) – ออกแบบให้ผู้ใช้สามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ

การเขียนเว็บไซต์ที่มีการออกแบบที่ดีจะช่วยสร้างความประทับใจแรกให้กับผู้เข้าชม และทำให้พวกเขาอยู่ในเว็บไซต์ของคุณนานขึ้น

5. พัฒนาฟีเจอร์และฟังก์ชันต่าง ๆ

หลังจากออกแบบหน้าตาเว็บไซต์แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการพัฒนาฟีเจอร์และฟังก์ชันต่าง ๆ ตามที่คุณต้องการ เช่น:

  • ฟอร์มติดต่อ – เพื่อให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อความถึงคุณได้
  • ระบบสมาชิก – สำหรับให้ผู้ใช้ลงทะเบียนและล็อกอิน
  • ระบบค้นหา – เพื่อให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์ได้
  • ระบบชำระเงิน – สำหรับเว็บไซต์ขายสินค้าหรือบริการ
  • การแชร์โซเชียลมีเดีย – เพื่อให้ผู้ใช้สามารถแชร์เนื้อหาจากเว็บไซต์ไปยังโซเชียลมีเดียได้

การพัฒนาฟีเจอร์เหล่านี้อาจใช้ความรู้เรื่อง JavaScript หรือการใช้ปลั๊กอินใน CMS หากคุณไม่มีความรู้ด้านการเขียนโค้ดมากพอ คุณอาจพิจารณาใช้บริการของนักพัฒนาเว็บไซต์มืออาชีพสำหรับฟีเจอร์ที่ซับซ้อน

ทำเว็บไซต์เอง ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?

การเขียนเว็บไซต์ด้วยตัวเองอาจช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เมื่อเทียบกับการจ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์ แต่คุณก็ยังต้องเตรียมงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ดังนี้

  • ค่าเรียนคอร์สสอนทำเว็บไซต์ – หากคุณไม่มีพื้นฐานการเขียนเว็บมาก่อน คุณอาจต้องลงทุนเรียนคอร์สออนไลน์หรือซื้อหนังสือเพื่อเรียนรู้ทักษะที่จำเป็น ราคาคอร์สออนไลน์มีตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับเนื้อหาและระดับความเข้มข้น
  • ค่าเซิร์ฟเวอร์ – สำหรับเว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก คุณอาจต้องใช้บริการเซิร์ฟเวอร์แบบเฉพาะตัว (Dedicated Server) หรือ Cloud Server ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าโฮสติ้งทั่วไป ราคาเริ่มต้นประมาณหลักพันถึงหลักหมื่นบาทต่อเดือน
  • ค่าโดเมน – ชื่อเว็บไซต์ของคุณ เช่น www.yourbusiness.com มีค่าใช้จ่ายประมาณ 300 – 1,000 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับนามสกุลโดเมน (.com, .net, .org, .co.th, ฯลฯ)
  • ค่าโฮสติ้ง – พื้นที่สำหรับเก็บไฟล์เว็บไซต์ มีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,000 – 5,000 บาทต่อปี สำหรับแพ็คเกจพื้นฐาน ราคาจะสูงขึ้นตามขนาดพื้นที่และประสิทธิภาพที่คุณต้องการ
  • ค่าระบบรักษาความปลอดภัยเว็บไซต์ – เพื่อป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์และมัลแวร์ คุณอาจต้องลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัย เช่น SSL Certificate, Firewall, หรือบริการป้องกัน DDoS ซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,000 – 5,000 บาทต่อปี
  • ค่า Template, Plugin และฟีเจอร์เสริมต่าง ๆ (สำหรับ WordPress) – หากคุณใช้ WordPress ในการสร้างเว็บไซต์ คุณอาจต้องซื้อธีมและปลั๊กอินพรีเมียมเพื่อเพิ่มฟังก์ชันและความสวยงามให้กับเว็บไซต์ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไปต่อธีมหรือปลั๊กอิน
  • ค่าออกแบบกราฟิกและภาพประกอบ – คุณอาจต้องจ้างนักออกแบบกราฟิกหรือซื้อภาพจากเว็บไซต์ Stock Photo เพื่อใช้ในเว็บไซต์ของคุณ ราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพและจำนวนภาพที่ต้องการ
  • ค่าแรงและเวลา – แม้ว่าคุณจะเขียนเว็บไซต์เอง แต่คุณก็ยังต้องลงทุนด้านเวลาในการเรียนรู้และพัฒนาเว็บไซต์ ซึ่งอาจเป็นต้นทุนที่สูงหากคุณมีงานประจำหรือธุรกิจที่ต้องดูแล

เมื่อรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด การเขียนเว็บไซต์ด้วยตัวเองอาจมีต้นทุนเริ่มต้นตั้งแต่ 5,000 บาท ไปจนถึงหลักแสนบาท ขึ้นอยู่กับขนาดและความซับซ้อนของเว็บไซต์

เขียนเว็บไซต์เอง vs เว็บไซต์สำเร็จรูปแบบไหนดีกว่ากัน?

การตัดสินใจว่าจะเขียนเว็บไซต์เองหรือใช้เว็บไซต์สำเร็จรูปขึ้นอยู่กับความต้องการ ทักษะ และทรัพยากรของคุณ มาดูข้อดีและข้อจำกัดของแต่ละวิธี

เขียนเว็บไซต์เอง

ข้อดี:

  • มีอิสระในการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ได้ตามต้องการ
  • สามารถปรับแต่งฟังก์ชันและฟีเจอร์ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมรายเดือนหรือรายปีสำหรับแพลตฟอร์ม
  • เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีความซับซ้อนหรือต้องการฟังก์ชันเฉพาะทาง
  • มีการควบคุมเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่ดีกว่า

ข้อจำกัด:

  • ต้องมีความรู้และทักษะในการเขียนโค้ด
  • ใช้เวลาในการพัฒนามากกว่า
  • ต้องดูแลและอัปเดตระบบด้วยตัวเอง
  • อาจมีค่าใช้จ่ายสูงในการพัฒนาฟีเจอร์ที่ซับซ้อน
  • ต้องรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยและการสำรองข้อมูล

เว็บไซต์สำเร็จรูป

การเลือกใช้เว็บไซต์สำเร็จรูปมีข้อดีและข้อจำกัดดังนี้

ข้อดี:

  • ใช้งานง่าย ไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด
  • สร้างเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว
  • มีเทมเพลตและธีมให้เลือกมากมาย
  • มีการอัปเดตและดูแลระบบความปลอดภัยโดยผู้ให้บริการ
  • มีฟีเจอร์พื้นฐานพร้อมใช้งานทันที
  • เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือธุรกิจขนาดเล็ก

ข้อจำกัด:

  • มีข้อจำกัดในการปรับแต่งและออกแบบ
  • อาจมีค่าธรรมเนียมรายเดือนหรือรายปี
  • อาจมีข้อจำกัดด้านพื้นที่และทรัพยากร
  • ไม่เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการฟังก์ชันซับซ้อนหรือเฉพาะทาง
  • อาจมีปัญหาการเคลื่อนย้ายข้อมูลหากต้องการเปลี่ยนผู้ให้บริการ

หากคุณมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดหรือพร้อมที่จะเรียนรู้ การเขียนเว็บไซต์เองจะให้อิสระและความยืดหยุ่นมากกว่า แต่หากคุณต้องการความรวดเร็วและง่ายต่อการใช้งาน เว็บไซต์สำเร็จรูปอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

ความแตกต่างระหว่างเขียนเว็บไซต์เอง vs จ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์

หากคุณไม่มีเวลาหรือทักษะในการเขียนเว็บไซต์เอง การจ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง โดยความแตกต่างระหว่างสองวิธีมีดังนี้

การเขียนเว็บไซต์เอง:

  • ประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้าง
  • มีความยืดหยุ่นในการแก้ไขและปรับปรุง
  • ต้องใช้เวลาเรียนรู้และพัฒนา
  • ต้องแก้ไขปัญหาและดูแลระบบเอง
  • คุณภาพขึ้นอยู่กับทักษะและประสบการณ์ของคุณ
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีความรู้หรือพร้อมเรียนรู้ด้าน IT

จ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์:

  • มีค่าใช้จ่ายในการจ้างที่สูงกว่า
  • ได้เว็บไซต์ที่มีคุณภาพและมาตรฐาน
  • ประหยัดเวลาในการพัฒนา
  • มีทีมมืออาชีพคอยให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหา
  • มีบริการหลังการขาย เช่น การดูแลและอัปเดตเว็บไซต์
  • เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการความเป็นมืออาชีพและไม่มีเวลาดูแลเว็บไซต์เอง

การเลือกระหว่างสองวิธีนี้ขึ้นอยู่กับงบประมาณ เวลา ทักษะ และความต้องการของธุรกิจคุณ หากคุณต้องการเว็บไซต์ที่มีคุณภาพสูงและไม่มีเวลาในการเรียนรู้และพัฒนา การจ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์อาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าในระยะยาว

สร้างเว็บไซต์ให้กับธุรกิจอย่างมืออาชีพด้วยบริการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์จาก CIPHER!

หากคุณต้องการสร้างเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ไม่มีเวลาหรือทักษะในการเขียนเว็บไซต์เอง บริษัท CIPHER พร้อมให้บริการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์แบบครบวงจร

CIPHER เป็นบริษัท IT Solution และ Digital Marketing ชั้นนำที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาเว็บไซต์ให้แก่ธุรกิจชั้นนำต่าง ๆ ในประเทศไทย ด้วยทีมงานที่มีคุณภาพและประสบการณ์สูง CIPHER สามารถสร้างเว็บไซต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจคุณได้อย่างตรงจุด

บริการของ CIPHER ครอบคลุมทั้ง:

การเลือกใช้บริการจาก CIPHER จะช่วยให้คุณได้เว็บไซต์ที่มีคุณภาพสูง ใช้งานได้จริง และพร้อมรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเขียนเว็บไซต์เองที่ต้องใช้เวลาและทรัพยากรมากมาย

สรุป

การเขียนเว็บไซต์เองเป็นทักษะที่มีประโยชน์และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่มีเวลาหรือทักษะในการเขียนเว็บไซต์เอง การใช้เว็บไซต์สำเร็จรูปหรือจ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์มืออาชีพอย่าง CIPHER ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน การเลือกวิธีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการ งบประมาณ และทรัพยากรของคุณ ที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นการเขียนเว็บไซต์เอง การใช้เว็บไซต์สำเร็จรูป หรือการจ้างมืออาชีพ สิ่งสำคัญ คือ การสร้างเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ ใช้งานง่าย และตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจและผู้ใช้งาน เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

จำเป็นต้องมีพื้นฐานการเขียนโค้ดมาก่อนหรือไม่?

ไม่จำเป็น คุณสามารถเริ่มด้วย CMS อย่าง WordPress หรือเว็บไซต์สำเร็จรูปอย่าง Wix ที่ไม่ต้องเขียนโค้ด แต่การเรียนรู้ HTML และ CSS พื้นฐานจะช่วยให้ปรับแต่งได้ดียิ่งขึ้น

ใช้เวลานานแค่ไหนในการเขียนเว็บไซต์?

ขึ้นอยู่กับขนาดและความซับซ้อน เช่น

  • เว็บไซต์ขนาดเล็ก: 1-2 สัปดาห์
  • เว็บไซต์ขนาดกลาง: 1-2 เดือน
  • เว็บไซต์ขนาดใหญ่/E-Commerce: 3-6 เดือน ผู้เริ่มต้นควรวางแผนเผื่อเวลาสำหรับการเรียนรู้เพิ่มเติม

เครื่องมือที่แนะนำสำหรับมือใหม่?

เครื่องมือสร้างเว็บไซต์สำหรับมือใหม่และใช้งานง่าย เช่น

  • Text Editor: Visual Studio Code, Sublime Text
  • CMS: WordPress, Joomla
  • เว็บไซต์สำเร็จรูป: Wix, Shopify
  • แหล่งเรียนรู้: W3Schools, Codecademy, freeCodeCamp

การทำ SEO สำหรับเว็บไซต์ที่เขียนเองยากกว่าหรือไม่?

ไม่จำเป็น เว็บไซต์ที่เขียนเองให้อิสระในการปรับแต่งโค้ดได้เต็มที่แต่ต้องมีความรู้ ส่วนเว็บสำเร็จรูปมีเครื่องมือ SEO ในตัวแต่อาจมีข้อจำกัด สิ่งสำคัญคือคุณภาพเนื้อหาและโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดี ไม่ว่าจะเลือกวิธีใด
Shopping Cart
Scroll to Top