Table of Contents
ในโลกของ WordPress ที่มี Plugin มากมายให้เลือกใช้งาน บางคนอาจคิดว่า Plugin สำเร็จรูปก็เพียงพอแล้วสำหรับเว็บไซต์ แต่สำหรับคนทำธุรกิจแล้ว การพัฒนา WordPress Plugin ขึ้นมาใช้เองนั้นกลับเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า ที่ Cipher เรารวบรวม 5 เหตุผลสำคัญ ว่ามี WordPress Plugin ดีอย่างไร? ทำไมธุรกิจของคุณถึงควรมี WordPress Plugin เฉพาะตัว เพื่อช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณขับเคลื่อนไปได้ไกลกว่า
WordPress Plugin คืออะไร?
5 เหตุผล ทำไมคุณควรมี WordPress Plugin แบบเฉพาะตัว
1. ฟังก์ชันการทำงานที่ตรงตามความต้องการ
2. ความปลอดภัยที่เหนือกว่า
3. การบูรณาการกับระบบธุรกิจอื่น ๆ
4. ความยืดหยุ่นในการปรับแต่งและพัฒนาต่อยอด
5. ความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ
WordPress Plugin ทำงานอย่างไร?
โดยพื้นฐานแล้ว ปลั๊กอิน คือ ชุดของโปรแกรมหรือ function ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อทำงานร่วมกับระบบหลัก ในกรณีนี้คือ WordPress โดย Plugin WordPress ส่วนใหญ่จะถูกพัฒนาด้วยภาษา PHP ซึ่งเป็นภาษาหลักของ WordPress เช่นกัน
เมื่อติดตั้งและเปิดใช้งาน Plugin แล้ว มันจะทำงานพร้อมกับ WordPress ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในโค้ด เช่น เมื่อมีคนเข้าชมเว็บ Plugin จะทำการบันทึกข้อมูลการเข้าชม หรือเมื่อมีการโพสต์เนื้อหา ปลั๊กอินจะทำการแชร์ไปยังโซเชียลมีเดียโดยอัตโนมัติ เป็นต้น ทำให้ WordPress มีความสามารถที่หลากหลายมากขึ้น ภายใต้การควบคุมของ Plugin นั่นเอง
WordPress Plugin ส่งผลอย่างไรต่อ SEO?
มี WordPress Plugin มากมายที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับที่ดีขึ้นบนหน้าผลการค้นหา ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของ SEO โดย Plugin เหล่านี้มีฟังก์ชันที่ช่วยในการทำ on-page SEO เช่น การกำหนดชื่อ title, meta description, heading และ alt text ของรูปภาพ ให้เหมาะสมกับหน้าเว็บและคีย์เวิร์ดเป้าหมาย
นอกจากนี้ยังมี WordPress Plugin ที่ช่วยในเรื่องของ technical SEO เช่น การสร้างไฟล์ sitemap, การ redirect หน้าเว็บเก่าไปหน้าใหม่ที่ถูกต้อง, การแสดงเนื้อหาแบบ AMP, การปรับปรุงความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ เป็นต้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับของ Google ดังนั้นการมี WordPress Plugin ด้าน SEO ที่ดี จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
วิธีติดตั้งปลั๊กอิน WordPress
การติดตั้ง Plugin ใน WordPress นั้นทำได้ง่าย ๆ ผ่านทางหน้า admin dashboard โดยมีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้
- เข้าสู่ระบบ admin ของ WordPress
- ไปที่เมนู Plugins และเลือก Add New
- ค้นหา Plugin ที่ต้องการโดยพิมพ์คำค้น เลือกประเภท และคลิกปุ่ม Search
- เลือก Plugin ที่ต้องการติดตั้ง อ่านรายละเอียดและรีวิวให้ดี แล้วคลิกปุ่ม Install Now
- รอจนกระบวนการติดตั้งเสร็จสิ้น จากนั้นคลิก Activate เพื่อเปิดใช้งาน Plugin
- ตั้งค่าการใช้งานผ่านเมนูของ Plugin (บางตัวอาจไม่มี) ให้เหมาะสมตามต้องการ
หากเป็น Plugin ที่ดาวน์โหลดมาจากเว็บอื่นในรูปแบบไฟล์ zip ก็สามารถติดตั้งได้โดยเลือก Upload Plugin ในเมนู Add Plugin แล้วลากไฟล์ zip เข้ามา ส่วนการติดตั้งผ่าน FTP นั้นจะยากขึ้นหน่อย ต้องอัปโหลดโฟลเดอร์ของ Plugin ไปไว้ในโฟลเดอร์ wp-content/Plugins จากนั้นไปเปิดใช้งานที่หน้า admin dashboard เหมือนเดิม
แนะนำ 10 ปลั๊กอิน WordPress ที่น่าใช้ ปี 2025
1. Yoast SEO
2. WooCommerce
3. Ahrefs SEO
4. Redirection
5. Imagify
6. All in One SEO for WordPress
7. MonsterInsights
8. Akismet Anti-Spam
9. W3 Total Cache
10. WP Rocket
แนะนำวิธีเลือก Plugin WordPress ที่มีคุณภาพ
วิธีเลือก Plugin แบบฟรี
- มียอด Active Installation สูง แสดงว่ามีคนใช้งานจริงเยอะ
- มีคะแนนรีวิวเฉลี่ยอยู่ในระดับ 4-5 ดาว
- มีการอัปเดตล่าสุดไม่เกิน 1 ปี และใช้ได้กับ WordPress เวอร์ชันล่าสุด
- มีจำนวน 5-star review มากกว่า 1-star review
- ดูจาก support forum ว่ามีการตอบคำถามและแก้ไขปัญหาให้ผู้ใช้หรือไม่
- มี documentation หรือคู่มือการใช้งานที่ละเอียด
วิธีเลือกซื้อ Plugin แบบ Pro
สำหรับ WordPress Plugin เสียเงินนั้น นอกจากจะดูจากเกณฑ์ข้างต้นแล้ว ยังต้องพิจารณาเพิ่มเติมในจุดต่อไปนี้
- ผู้พัฒนามีความน่าเชื่อถือ เป็นบริษัทหรือ developer ที่มีชื่อเสียง
- มีการรับประกันหรือให้ทดลองใช้ฟรีในระยะเวลาหนึ่ง เช่น 30 วัน
- มี support ที่ดี ทั้งทาง ticket, live chat หรือโทรศัพท์
- มีฟีเจอร์ที่จำเป็นกับธุรกิจ และนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
- ราคาไม่แพงเกินไปเมื่อเทียบกับคุณภาพ อาจจ่ายรายเดือน/ปี หรือจ่ายครั้งเดียว
นอกจากนี้ ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรลองหา Plugin ประเภทเดียวกันหลาย ๆ ตัวมาเปรียบเทียบดูก่อน ดูรีวิวจากผู้ใช้ทั้งใน website, youtube และ social media ต่าง ๆ ว่ามีความพึงพอใจในระดับไหน มีปัญหาในการใช้งานบ้างหรือไม่ จะช่วยให้คุณเลือกได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
ระหว่าง Plugin Free กับ Plugin Premium ต่างกันอย่างไร?
Plugin Free
- ใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
- มีฟังก์ชันพื้นฐาน อาจไม่ครอบคลุมการใช้งานขั้นสูง
- อัปเดตไม่บ่อยนัก บางตัวอาจไม่ได้รับการพัฒนาต่อ
- แก้ไขปัญหาได้ช้า เนื่องจากมีนักพัฒนาน้อยกว่า
- อาจมีโฆษณาหรือลิงก์ไปยัง Plugin เสียเงินแสดงอยู่บ้าง
Plugin Premium
- ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการใช้งาน ซื้อครั้งเดียวหรือจ่ายรายเดือน/ปี
- มีฟีเจอร์ที่หลากหลายและใช้งานได้ลึกกว่า ตอบโจทย์ธุรกิจได้ดีกว่า
- มีการอัปเดตปรับปรุง version ใหม่ ๆ อยู่เสมอ
- มีทีมงานคอยให้ความช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาเฉพาะด้านได้รวดเร็วกว่า
- ไม่มีโฆษณารบกวนการทำงาน มีเฉพาะฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
หากสนใจบริการทำ WordPress Plugin สามารถใช้บริการ Cipher ได้แล้ววันนี้!
ที่ไซเฟอร์ เรามีทีมงานมืออาชีพที่พร้อมให้บริการ การพัฒนา WordPress Plugin แบบเฉพาะตัว ที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจคุณได้อย่างครบถ้วน ทั้ง Plugin สำหรับทำ SEO, ระบบสมาชิก, จัดการร้านค้าออนไลน์ หรือฟังก์ชันอื่น ๆ โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และมีกระบวนการทำงานที่เป็นมาตรฐาน เพื่อให้ Plugin ของคุณใช้งานได้อย่างเสถียร ปลอดภัย และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งานเสมอ
ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของเว็บไซต์ขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ เราก็พร้อมให้บริการในราคาที่คุ้มค่า พร้อมดูแลและให้คำปรึกษาในระยะยาว เพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจให้กับคุณบนโลกออนไลน์ ติดต่อเราได้ตั้งแต่วันนี้ ผ่านช่องทางต่าง ๆ ทีมงานของเรายินดีให้บริการ
สรุป
มี WordPress Plugin ดีอย่างไร? ปลั๊กอินใน WordPress นั้นมีหน้าที่สำคัญในการเพิ่มความสามารถ ฟังก์ชัน และประสิทธิภาพของเว็บไซต์ แต่หากเป็น Plugin สำเร็จรูปทั่วไปอาจยังไม่ตอบโจทย์ธุรกิจได้มากนัก
การพัฒนา WordPress Plugin แบบเฉพาะตัว จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ทำให้เราได้ฟีเจอร์ที่ตรงตามความต้องการ ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพกว่า สามารถเชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ ได้อย่างลงตัว รวมทั้งยังปรับแต่งและพัฒนาต่อยอดได้ในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจของคุณสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้มากขึ้น
หากคุณเล็งเห็นความสำคัญของ WordPress Plugin ต่อธุรกิจออนไลน์ และอยากได้ Plugin ดี ๆ มาใช้งาน เพื่อพัฒนาเว็บไซต์ลองปรึกษากับทีมผู้เชี่ยวชาญจาก Cipher ได้ เราพร้อมช่วยคุณพัฒนา WordPress Plugin ให้ออกมาดีที่สุด และนำพาธุรกิจออนไลน์ของคุณให้เติบโตไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ยาวนานในการ พัฒนา WordPress Plugin ให้กับธุรกิจต่าง ๆ มากมาย
คำถามที่พบบ่อย
ปลั๊กอินใน WordPress มีหน้าที่หลักอะไร?
ปลั๊กอิน คือ ส่วนเสริมที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับ WordPress ให้ทำงานได้หลากหลายยิ่งขึ้น ทั้งการเพิ่มฟังก์ชัน, การปรับแต่งรูปลักษณ์ และการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเว็บไซต์ เป็นต้น ทำให้ WordPress สามารถรองรับการใช้งานได้หลายรูปแบบมากขึ้น
ปลั๊กอิน WordPress อะไรบ้างที่จําเป็น?
ปลั๊กอินที่ถือว่าจำเป็นมีหลายประเภท อาทิ
- ปลั๊กอินสำหรับทำ SEO เช่น Yoast SEO, Rank Math, All in One SEO
- ปลั๊กอินเพิ่มความเร็วเว็บไซต์ เช่น W3 Total Cache, WP Rocket
- ปลั๊กอินป้องกันสแปม เช่น Akismet, Antispam Bee
- ปลั๊กอินสำหรับทำฟอร์มต่าง ๆ เช่น Contact Form 7, WPForms
- ปลั๊กอินสำรองข้อมูล เช่น UpdraftPlus, BackWPup
- ปลั๊กอินสำหรับทำ E-commerce เช่น WooCommerce แต่หาก WordPress Plugin สำเร็จรูป ยังไม่ตอบโจทย์ธุรกิจ การพัฒนา custom Plugin ขึ้นมาเองจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
การติดตั้ง Plugin WordPress ทําได้โดยวิธีใดบ้าง?
สามารถทำได้ 3 วิธีหลัก คือ
- ผ่านหน้า Admin Dashboard โดยการค้นหาชื่อ Plugin แล้วคลิกติดตั้ง
- อัปโหลดไฟล์ .zip ของ Plugin ผ่านหน้า Admin Dashboard
- อัปโหลดไฟล์ของ Plugin ผ่าน FTP ไปยังโฟลเดอร์ wp-content/Plugins
ปลั๊กอินมีประโยชน์อะไรบ้าง?
- ช่วยขยายขีดความสามารถของ WordPress ให้ทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น
- ทำให้ไม่ต้องเขียนโค้ดเอง ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
- มี Plugins ฟรีและเสียเงินให้เลือกใช้มากมายรองรับทุกความต้องการ
- ปรับแต่งและจัดการเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมเอง
- เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ WordPress ครองตลาด CMS อันดับหนึ่ง แต่ก็ควรเลือกใช้แต่ปลั๊กอินที่จำเป็นต่อธุรกิจจริง ๆ เพื่อไม่ให้กระทบต่อความเร็วเว็บไซต์