Remarketing

สำหรับทุกธุรกิจแล้ว ลูกค้าหน้าใหม่เป็นกลุ่มลูกค้าที่สำคัญเพราะนั่นหมายถึงการที่ธุรกิจจะได้รายได้เพิ่มมาจากคนใหม่ๆและแพร่หลายมากยิ่งขึ้น แต่กลุ่มเป้าหมายที่จะลืมไปเสียไม่ได้เลยนั่นคือลูกค้าเก่าหรือผู้ที่เคยสนใจในธุรกิจของเรา เพราะนั่นก็เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ทำให้ธุรกิจของเราสามารถดำรงอยู่ได้ ดังนั้นการที่เราจะยิงโฆษณากลับไปหากลุ่มคนเหล่านี้จะทำให้พวกเขาระลึกถึงแบรนด์เราได้ และหากพวกเขามีความประทับใจหรือความรู้สึกที่ดีกับแบรนด์หรือสินค้า พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้อหรือใช้บริการอีกครั้ง

เหมาะสำหรับธุรกิจแบบไหน?

การทำ Remarketing หรือ Retargeting นั้นเหมาะสมสำหรับธุรกิจทุกๆประเภท เพราะการทำการตลาดแนวนี้สามารถช่วยลดต้นทุนในการทำโฆษณาได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากการลงโฆษณาแบบนี้มีค่าต้นทุนในการลงโฆษณาที่ต่ำมากที่สุด เพราะเป็นการกำหนดการยิงโฆษณาไปยังกลุ่มลูกค้าเก่าหรือคนที่สนใจและเคยเข้ามาดูในเพจหรือหน้าเว็บไซต์มาก่อนแล้ว นั่นก็เท่ากับว่ากลุ่มคนเหล่านี้เคยสนใจสินค้าหรือบริการของเรา ดังนั้นก็มีสิทธิ์สูงที่กลุ่มคนเหล่านี้จะกลับมาสนใจและซื้อสินค้าหรือบริการของเราอีกครั้ง

ทำไมถึงเหมาะแก่ธุรกิจทุกๆประเภท?

การทำธุรกิจทุกๆประเภท ต้นทุนคือสิ่งที่เจ้าของกิจการหรือธุรกิจทุกคนอยากเลี่ยงหรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็อยากจะให้ต้นทุนนั้นต่ำที่สุด เพื่อที่จะได้เหลือกำไรมากที่สุดหรือเพื่อนำเงินในส่วนที่เหลือจากต้นทุนไปบริหารจัดการส่วนอื่นๆในองค์กรต่อไป ซึ่งต้นทุนการลงโฆษณานั้นก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เจ้าของกิจการหรือเจ้าของธุรกิจต่างๆพยายามเลี่ยง แล้วยิ่งในยุคนี้ การตลาดออนไลน์นั้นมีการแข่งขันที่สูงมาก ซึ่งทำให้การประมูลราคาในการลงโฆษณาออนไลน์แต่ละครั้งนั้นสูงมากขึ้นเรื่อยๆตามจำนวนผู้ลงโฆษณา ฉะนั้นแล้วการทำ Remarketing หรือ Retargeting นั้นก็เป็นอีกทางเลือกที่เจ้าของกิจการหรือเจ้าของธุรกิจต่างๆเลือกใช้เป็นอันดับต้นๆในการลงโฆษณาออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่างๆ

คำถามที่พบบ่อย

Remarketing คืออะไร?

Remarketing หรือ Retargeting คือการยิงโฆษณาซ้ำไปหากลุ่มลูกค้าเก่าหรือผู้ที่เคยสนใจแบรนด์ของเรา เช่น เคยเข้าเว็บไซต์ กดดูสินค้า หรือมีปฏิสัมพันธ์กับเพจมาก่อน

Remarketing ทำงานอย่างไร?

ระบบจะใช้คุกกี้หรือพิกเซลเก็บข้อมูลผู้ใช้ที่เคยเข้าเว็บไซต์หรือเพจของคุณ จากนั้นแสดงโฆษณาให้พวกเขาเห็นซ้ำในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ

ทำไม Remarketing ถึงสำคัญ?

เพราะลูกค้าที่เคยสนใจมาก่อนมีแนวโน้มสูงที่จะซื้อซ้ำ การยิงโฆษณาซ้ำช่วยเพิ่ม Conversion ได้ดีกว่าการหาลูกค้าใหม่เพียงอย่างเดียว

Remarketing เหมาะกับธุรกิจแบบไหน?

เหมาะกับทุกธุรกิจ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง เพราะสามารถลดต้นทุนการตลาดและเข้าถึงลูกค้ากลุ่มที่มีโอกาสซื้อสูงที่สุด

Remarketing ช่วยลดต้นทุนโฆษณาได้อย่างไร?

เพราะเป็นการโฆษณาไปยังกลุ่มคนที่เคยมีความสนใจอยู่แล้ว จึงไม่ต้องลงทุนมากเพื่อสร้างการรับรู้ใหม่ โอกาสปิดการขายสูงขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อการซื้อ (CPA) ต่ำลง

Remarketing ต่างจากการหาลูกค้าใหม่อย่างไร?

การหาลูกค้าใหม่ต้องใช้เวลาและงบประมาณมากเพื่อสร้างการรับรู้ ส่วน Remarketing เจาะกลุ่มที่ “รู้จักหรือเคยสนใจแบรนด์แล้ว” ทำให้มีโอกาสเปลี่ยนเป็นลูกค้าจริงได้เร็วกว่า

Remarketing ใช้ได้บนแพลตฟอร์มไหนบ้าง?

ใช้ได้บนหลายช่องทาง เช่น Google Display Network, Facebook, Instagram, YouTube, Twitter และเว็บไซต์อื่น ๆ ที่รองรับการติดตั้งพิกเซล

Remarketing ช่วยเพิ่มยอดขายได้จริงหรือไม่?

ได้จริง เพราะลูกค้ากลุ่มนี้มักอยู่ในช่วงตัดสินใจ หากได้รับการเตือนหรือกระตุ้นซ้ำ โอกาสที่จะกลับมาซื้อสินค้าหรือบริการจะสูงขึ้นมาก

ควรใช้ Remarketing เมื่อไร?

ควรใช้เมื่อมีคนเข้าชมเว็บไซต์หรือสนใจสินค้าแล้วแต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ เช่น การทิ้งสินค้าไว้ในตะกร้า หรือการดูเพจโปรโมชั่นโดยไม่กดซื้อ

ธุรกิจควรเริ่มทำ Remarketing อย่างไร?

เริ่มจากการติดตั้ง Pixel/Tag ของแพลตฟอร์มที่ต้องการ เช่น Facebook Pixel หรือ Google Ads Tag จากนั้นสร้างกลุ่มเป้าหมาย (Audience) และออกแบบโฆษณาที่ตรงใจเพื่อดึงลูกค้ากลับมา
สนใจบริการ Online Advertising ลงทะเบียนเพื่อรับการติดต่อกลับ

เรายินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!

Shopping Cart
Scroll to Top