สร้างระบบ Marketplace เหมือน Lazada, Shopee ต้องมีฟีเจอร์อะไรบ้าง?

สร้างระบบ Marketplace ให้โดดเด่น: เทคนิคลับจากผู้เชี่ยวชาญ

Table of Contents

การสร้างระบบ Marketplace ให้ประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ที่เข้มแข็งสำหรับธุรกิจที่ต้องการก้าวไปข้างหน้า เมื่อดูตัวอย่างแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง Lazada และ Shopee เราจะเห็นว่าระบบเหล่านี้ช่วยเชื่อมต่อผู้ซื้อและผู้ขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะสามารถสร้างเส้นทางการซื้อขายที่สะดวกและรวดเร็ว ตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี และนี่คือโอกาสสร้างยอดขายที่ธุรกิจไม่ควรพลาด โดยในบทความนี้ CIPHER ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลและพัฒนาเว็บไซต์ จะพาไปเจาะลึกกับการสร้างระบบ Marketplace พร้อมฟีเจอร์เด็ดที่จะทำให้ยอดขายในธุรกิจของคุณเพิ่มสูงขึ้น!

Marketplace คืออะไร?

สร้างระบบ Marketplace - Marketplace คืออะไร
E-Marketplace คือ แพลตฟอร์มดิจิทัลที่เป็นตลาดกลางออนไลน์สำหรับการซื้อขายสินค้าและบริการ โดยเชื่อมต่อระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ ทำหน้าที่คล้ายตลาดจริงแต่อยู่ในรูปแบบเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน ให้ผู้ขายสามารถเสนอขายสินค้าภายใต้แพลตฟอร์มเดียวกัน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกและสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีให้กับลูกค้า

Marketplace กับ Website E-Commerce แตกต่างกันอย่างไร?

การสร้างระบบ Marketplace กับการสร้างเว็บไซต์ E-Commerce มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในแง่ของโมเดลธุรกิจและการดำเนินงาน โดย Platform Marketplace ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงผู้ขายหลายรายกับผู้ซื้อหลายราย แตกต่างจาก E-Commerce ที่ธุรกิจเพียงรายเดียวขายสินค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งส่งผลต่อการจัดการสินค้า รายได้ และความรับผิดชอบในการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

Marketplace

สร้างมาร์เก็ตเพลสเปรียบเสมือนการสร้างช่องทางหรือพื้นที่ให้ผู้ขายหลายรายมาเสนอสินค้าและบริการของตน โดยเจ้าของแพลตฟอร์มรับผิดชอบในการสร้างและดูแลระบบ แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของสินค้า รายได้หลักมาจากค่าคอมมิชชัน ค่าธรรมเนียมการลงขายสินค้า หรือค่าโฆษณา ซึ่งความท้าทายอยู่ที่การสร้างความสมดุลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายให้เกิดระบบนิเวศที่ยั่งยืน

Website E-Commerce

เว็บไซต์ E-Commerce เป็นร้านค้าออนไลน์ของธุรกิจเพียงรายเดียว ที่ขายสินค้าหรือบริการของตนโดยตรงถึงผู้บริโภค เจ้าของเว็บไซต์มีอำนาจควบคุมเต็มที่ในการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง การตั้งราคา และการตลาด รายได้มาจากการขายสินค้าโดยตรง ทำให้มีอิสระในการสร้างแบรนด์และกำหนดกลยุทธ์ แต่ต้องรับผิดชอบในการดูแลลูกค้าและการจัดส่งสินค้าทั้งหมด ซึ่งประเภทเว็บไซต์ E-Commerce ในประเทศไทย มีหลายรูปแบบ

ประเภทของระบบ Marketplace Online

Platform Marketplace มีการพัฒนารูปแบบต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่หลากหลาย โดยแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลักที่มีลักษณะการดำเนินงานและกลุ่มเป้าหมายเฉพาะตัวดังนี้

1. Product Online Marketplace

Product Online Marketplace เป็นรูปแบบที่พบเห็นได้ทั่วไปและได้รับความนิยมสูงสุด เช่น Lazada, Shopee และ Amazon มุ่งเน้นการซื้อขายสินค้าที่จับต้องได้ ตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า จนถึงสินค้าอุปโภคบริโภค โดยผู้ขายสามารถนำสินค้ามาลงขายและจัดส่งให้ลูกค้าโดยตรง หรือใช้บริการคลังสินค้าและการจัดส่งของแพลตฟอร์ม ซึ่งเหมาะสำหรับธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้

2. Online Service Marketplace

Online Service Marketplace เน้นการเชื่อมต่อผู้ให้บริการกับผู้ที่ต้องการใช้บริการ เช่น Fiverr, Upwork หรือ TaskRabbit ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ผู้เชี่ยวชาญเสนอบริการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ การเขียนโปรแกรม การให้คำปรึกษา หรือแม้แต่งานซ่อมบ้าน ทำให้ผู้ซื้อสามารถเลือกผู้ให้บริการที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณได้อย่างสะดวก

3. Online Rental Marketplace

E-Marketplace คือ แพลตฟอร์มที่ช่วยให้เกิดการเช่าสินค้าแทนการซื้อขาด อย่าง Airbnb ที่เชื่อมโยงเจ้าของที่พักกับนักเดินทาง หรือ Turo ที่ให้บริการเช่ารถระหว่างบุคคล โมเดลนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในยุคเศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy) เนื่องจากช่วยให้เจ้าของทรัพย์สินสามารถสร้างรายได้จากสิ่งที่ตนมีอยู่แล้ว ขณะที่ผู้เช่าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับการซื้อ

4. Hybrid Model Ecommerce

Hybrid Model Ecommerce เป็นการผสมผสานระหว่างการขายสินค้าและบริการในแพลตฟอร์มเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น Amazon ที่นอกจากขายสินค้าแล้วยังมีบริการ Amazon Web Services หรือ Apple ที่ขายทั้งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และให้บริการซอฟต์แวร์ รูปแบบนี้ช่วยให้ธุรกิจมีรายได้หลายทาง และสามารถนำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมให้กับลูกค้า ทำให้เกิดความผูกพันกับแบรนด์มากขึ้น

5. Hyperlocal Marketplace

Hyperlocal Marketplace มุ่งเน้นการให้บริการในพื้นที่เฉพาะ ตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนท้องถิ่น เช่น Grab, Foodpanda ที่เชื่อมโยงร้านอาหารในละแวกใกล้เคียงกับลูกค้า หรือแอปพลิเคชันสั่งของชำในพื้นที่ จุดแข็งของโมเดลนี้คือความรวดเร็วในการจัดส่ง และความเข้าใจในความต้องการเฉพาะของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ ซึ่งทำให้สามารถแข่งขันกับแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ได้

วิธีสร้างระบบ Marketplace

การสร้างระบบ Marketplace ที่ประสบความสำเร็จต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบและดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยครอบคลุมตั้งแต่การกำหนดแนวคิด การพัฒนาแพลตฟอร์ม ไปจนถึงการเปิดตัวและการเติบโตในระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างมาร์เก็ตเพลสที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยมีวิธีการสร้างระบบ Marketplace ดังนี้

1. ระบุความต้องการของธุรกิจ

จุดเริ่มต้นของการสร้างระบบ Marketplace คือการกำหนดแนวคิดที่ชัดเจนว่าแพลตฟอร์มของคุณจะแก้ปัญหาอะไร ตอบสนองความต้องการของใคร และมีความแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร ระบุสินค้าหรือบริการที่จะนำเสนอ กลุ่มเป้าหมายทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย และคุณค่าที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อให้แพลตฟอร์มของคุณมีจุดยืนที่ชัดเจนในตลาด

2. สำรวจตลาด

การวิจัยตลาดอย่างละเอียดช่วยให้คุณเข้าใจสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่กำลังจะเข้าไปแข่งขัน โดยควรศึกษาคู่แข่งทั้งทางตรงและทางอ้อม วิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของพวกเขา สำรวจความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และระบุช่องว่างในตลาดที่แพลตฟอร์มของคุณสามารถเติมเต็มได้ นอกจากนี้ควรติดตามเทรนด์อุตสาหกรรมเพื่อคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

3. พัฒนาโมเดลธุรกิจ

การกำหนดโมเดลธุรกิจที่ชัดเจนเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของ Platform Marketplace โดยต้องระบุวิธีการสร้างรายได้ ซึ่งอาจรวมถึงค่าธรรมเนียมต่อธุรกรรม ค่าสมาชิกรายเดือน ค่าลงประกาศ หรือรายได้จากการโฆษณา นอกจากนี้ ยังต้องกำหนดโครงสร้างต้นทุน กลยุทธ์การตลาดของธุรกิจ และการเติบโตในระยะยาว รวมถึงวางแผนการลงทุนและจุดคุ้มทุนเพื่อให้ธุรกิจมีความยั่งยืนทางการเงิน

4. กําหนดฟังก์ชันของแพลตฟอร์ม

ฟังก์ชันหลักของแพลตฟอร์มต้องออกแบบให้ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย โดยอาจรวมถึงระบบลงทะเบียนและยืนยันตัวตน ระบบค้นหาและกรองสินค้า ระบบจัดการคำสั่งซื้อ ระบบชำระเงินที่ปลอดภัย ระบบให้คะแนนและรีวิว ระบบจัดการข้อพิพาท และแดชบอร์ดสำหรับผู้ขายและผู้ดูแลระบบ ฟังก์ชันเหล่านี้ต้องใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้

5. เลือกเทคโนโลยีที่เหมาะกับธุรกิจ

การเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างระบบ Marketplace ที่แข็งแกร่ง คุณมีตัวเลือกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาจากศูนย์ การใช้แพลตฟอร์มสำเร็จรูป หรือการปรับแต่งแพลตฟอร์มที่มีอยู่ ปัจจัยที่ควรพิจารณาได้แก่ งบประมาณ ระยะเวลา ความสามารถในการปรับขนาด ความปลอดภัย และความต้องการเฉพาะของธุรกิจ รวมถึงการเลือกเทคโนโลยีที่สามารถรองรับการเติบโตในอนาคต

6. สร้างแพลตฟอร์ม

ขั้นตอนการพัฒนาและสร้างแพลตฟอร์มต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบ โดยเริ่มจากการออกแบบ UI/UX ที่ใช้งานง่ายและน่าดึงดูด จากนั้นพัฒนาฟีเจอร์หลักก่อนขยายไปสู่ฟีเจอร์เสริม โดยอาจใช้วิธีการพัฒนาแบบ Agile เพื่อความยืดหยุ่นและรวดเร็ว ระหว่างการพัฒนา ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูล ประสิทธิภาพของระบบ และการรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ที่หลากหลาย รวมถึงการเชื่อมต่อกับระบบชำระเงินและโลจิสติกส์

7. ทดสอบแพลตฟอร์มของคุณ

การทดสอบอย่างละเอียดเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนเปิดตัวแพลตฟอร์มสู่สาธารณะ โดยควรทดสอบทั้งด้านเทคนิค เช่น ความเสถียร ความเร็ว และความปลอดภัย รวมถึงด้านประสบการณ์ผู้ใช้ (UX Testing) เพื่อประเมินความสะดวกและความพึงพอใจในการใช้งาน นอกจากนี้ ควรทดสอบกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่การลงทะเบียน การค้นหาสินค้า การสั่งซื้อ การชำระเงิน ไปจนถึงการจัดการคำสั่งซื้อและการรีวิว เพื่อค้นหาและแก้ไขข้อบกพร่องก่อนเปิดใช้งานจริง

8. ดึงดูดผู้ขาย

ในระยะเริ่มต้น การดึงดูดผู้ขายเข้าสู่แพลตฟอร์มเป็นความท้าทายสำคัญ เนื่องจากผู้ขายมักลังเลที่จะเข้าร่วมแพลตฟอร์มใหม่ที่ยังไม่มีฐานลูกค้า คุณอาจใช้กลยุทธ์ต่างๆ เช่น การยกเว้นค่าธรรมเนียมในช่วงแรก การให้เครดิตโฆษณา การสนับสนุนด้านการถ่ายภาพหรือการตั้งร้าน หรือการทำสัญญากับแบรนด์หรือผู้ขายรายใหญ่เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โดยมุ่งเน้นที่คุณภาพของผู้ขายมากกว่าปริมาณเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ซื้อ

9. เปิดตัวแพลตฟอร์มของคุณ

การเปิดตัวแพลตฟอร์มควรทำอย่างมีกลยุทธ์ โดยอาจเริ่มจากการเปิดตัวแบบ Soft Launch ให้กับกลุ่มผู้ใช้จำนวนจำกัดเพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะและปรับปรุงแพลตฟอร์มก่อนเปิดตัวเต็มรูปแบบ จากนั้นจึงทำการ Grand Launch พร้อมกับแคมเปญการตลาดที่ดึงดูดทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งอาจรวมถึงการจัดกิจกรรมพิเศษ โปรโมชันเปิดตัว หรือการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ โดยวางแผนการเปิดตัวให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่เหมาะสมในตลาดหรือฤดูกาลช้อปปิ้ง

10. ทําการตลาดแพลตฟอร์ม

Marketplaces Marketing เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างการรับรู้และดึงดูดผู้ใช้งาน โดยควรใช้กลยุทธ์การตลาดแบบผสมผสาน ทั้งการตลาดดิจิทัล เช่น SEO, SEM, โซเชียลมีเดีย และอีเมลมาร์เก็ตติ้ง รวมถึงการตลาดแบบดั้งเดิมหากเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ การสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่า การทำ Influencer Marketing หรือโปรแกรมแนะนำเพื่อน (Referral Program) ก็สามารถช่วยขยายฐานผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยควรมุ่งเน้นที่ประโยชน์และคุณค่าที่แพลตฟอร์มของคุณมอบให้แก่ผู้ใช้

11. รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และปรับปรุง

การพัฒนาแพลตฟอร์มต้องเป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและข้อเสนอแนะจากผู้ใช้ ควรจัดตั้งระบบรวบรวมข้อมูลป้อนกลับผ่านช่องทางต่างๆ เช่น แบบสำรวจความพึงพอใจ การสัมภาษณ์ผู้ใช้ แบบฟอร์มรายงานปัญหา หรือการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ จากนั้นจัดลำดับความสำคัญของปัญหาและข้อเสนอแนะ แล้วนำไปพัฒนาปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่อง การแสดงให้ผู้ใช้เห็นว่าคุณใส่ใจและตอบสนองต่อความเห็นของพวกเขาจะช่วยสร้างความภักดีและความเชื่อมั่นในแพลตฟอร์ม

12. พัฒนาและขยายธุรกิจ

เมื่อแพลตฟอร์มเติบโตถึงจุดหนึ่ง ควรวางแผนกลยุทธ์การขยายธุรกิจเพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันและเพิ่มส่วนแบ่งตลาด ซึ่งอาจรวมถึงการขยายไปยังตลาดสากล ด้วยการเพิ่มหมวดหมู่สินค้าหรือบริการ การพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ หรือการสร้างพาร์ทเนอร์

ข้อดีของการสร้างระบบ Marketplace

การสร้างระบบ Marketplace มอบประโยชน์และโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลาย ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยแพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างรายได้ แต่ยังสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่เติบโตได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ซึ่ง Platform Marketplace ที่ถูกออกแบบอย่างชาญฉลาดจะมอบข้อได้เปรียบ ดังนี้

  • สร้างการเติบโตทางธุรกิจ: การสร้างมาร์เก็ตเพลสทำให้เกิดระบบที่ผู้ซื้อและผู้ขายต่างได้รับประโยชน์ร่วมกัน เมื่อมีผู้ขายมากขึ้น จะดึงดูดผู้ซื้อมากขึ้น และเมื่อมีผู้ซื้อมากขึ้น ก็จะดึงดูดผู้ขายมากขึ้นเช่นกัน สร้างวงจรการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  • รายได้หลากหลายช่องทาง: แพลตฟอร์มสามารถสร้างรายได้จากหลายแหล่ง เช่น ค่าคอมมิชชันจากการขาย ค่าธรรมเนียมการลงทะเบียน ค่าโฆษณา และบริการพรีเมียมต่าง ๆ ทำให้มีโอกาสในการสร้างผลกำไรสูง
  • ไม่ต้องสต๊อกสินค้าเกินความจำเป็น: ธุรกิจ Marketplace E-Commerce ไม่จำเป็นต้องลงทุนในสินค้าหรือบริการ เนื่องจากผู้ขายเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนนี้ ทำให้ลดความเสี่ยงและต้นทุนในการดำเนินงาน
  • ข้อมูลเชิงลึก: แพลตฟอร์มสามารถรวบรวมข้อมูลของลูกค้าจำนวนมาก ซึ่งสามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงบริการ พัฒนากลยุทธ์การตลาด และสร้างประสบการณ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้
  • ขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว: เมื่อระบบมีความพร้อม สามารถเพิ่มผู้ขาย สินค้า และบริการได้อย่างรวดเร็ว
  • ความหลากหลายของสินค้าและบริการ: Platform Marketplace สามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่หลากหลาย ช่วยสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่น่าสนใจ

บริการรับสร้างระบบ Marketplace ของ CIPHER

บริษัท CIPHER เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการรับทำระบบ Marketplace ชั้นนำที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปีในการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลคุณภาพสูง เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้าน IT Solution และ บริการ Digital Marketing ที่พร้อมให้คำปรึกษาและพัฒนาระบบครบวงจร ตั้งแต่การวิเคราะห์ความต้องการทางธุรกิจ การออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ ไปจนถึงการพัฒนาฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยและการดูแลระบบหลังการเปิดตัว

บริการของเรารวมถึงการพัฒนา Platform Marketplace ที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการเฉพาะของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นระบบการจัดการร้านค้า ระบบชำระเงินที่ปลอดภัย ระบบจัดการคำสั่งซื้อและการจัดส่ง รวมถึงฟีเจอร์การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างชาญฉลาด เรามุ่งมั่นสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดเพื่อให้ธุรกิจของคุณก้าวล้ำคู่แข่งในตลาดดิจิทัล

ประโยชน์ของการสร้างระบบ Marketplace

การสร้างระบบ Marketplace มอบประโยชน์ที่สำคัญหลายประการสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจในโลกดิจิทัล ระบบเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้า แต่ยังช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

1. สร้างการรับรู้

Platform Marketplace ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น โดย E-Marketplace คือ ช่องทางที่ดึงดูดผู้เข้าชมหลายล้านคนต่อวัน ทำให้แบรนด์และผลิตภัณฑ์ของคุณได้รับการมองเห็นมากขึ้น แม้จะเป็นธุรกิจเริ่มต้นหรือธุรกิจขนาดเล็ก คุณก็สามารถแข่งขันกับผู้เล่นรายใหญ่ได้ในพื้นที่เดียวกัน โดยไม่ต้องลงทุนมหาศาลในการทำการตลาดด้วยตนเอง

2. การประหยัดต้นทุน

การสร้างมาร์เก็ตเพลสช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานหลายด้าน ผู้ขายสามารถแบ่งปันโครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบการชำระเงิน การจัดส่ง หรือการบริการลูกค้า นอกจากนี้ แพลตฟอร์มสามารถใช้ต่อรองกับพาร์ทเนอร์ ช่วยให้ได้อัตราค่าบริการที่ดีกว่าการดำเนินการเอง

3. ใช้งานง่ายและสะดวก

ระบบ Marketplace ที่ออกแบบมาอย่างดีจะมีความใช้งานง่ายและมีความคล่องตัวสูง ทั้งสำหรับผู้ขายและผู้ซื้อ โครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมใช้งาน ทั้งการลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ การประมวลผลการชำระเงิน และระบบการจัดส่ง ช่วยให้ผู้ขายสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องพัฒนาระบบขึ้นมาเอง ขณะที่ผู้ซื้อได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ราบรื่นและสะดวกสบาย

4. ลดความเสี่ยง

สร้างระบบ Marketplace มอบโอกาสในการทดสอบตลาดและแนวคิดใหม่ๆ ด้วยความเสี่ยงที่ต่ำกว่า ธุรกิจสามารถเริ่มต้นด้วยการลงทุนที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับการสร้างร้านค้าออนไลน์ของตนเอง และสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้อย่างยืดหยุ่นตามการตอบรับของตลาด สำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ แพลตฟอร์มยังให้การสนับสนุนและแนวทางที่จำเป็น ช่วยลดอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดและโอกาสในการล้มเหลว

5. การสร้างยอดขายและกำไร

การเพิ่มยอดขายใน Marketplace เป็นไปได้อย่างรวดเร็วกว่าช่องทางอื่น เนื่องจากมีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่าและมีฟีเจอร์ที่ช่วยกระตุ้นการซื้อ เช่น ระบบแนะนำสินค้า การขายต่อเนื่อง (Cross-selling) และการอัปเซล (Up-selling) แพลตฟอร์มยังมีเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่ช่วยให้ผู้ขายเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าและปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขาย

6. ความน่าเชื่อถือ

E-Marketplace คือ แพลตฟอร์มที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค ช่วยให้ธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นได้รับความน่าเชื่อถือมากขึ้น ผู้ซื้อมักรู้สึกปลอดภัยที่จะซื้อสินค้าจากร้านค้าที่อยู่ในแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียง เนื่องจากมีระบบคุ้มครองผู้ซื้อ ระบบรีวิวและให้คะแนน รวมถึงมาตรฐานการบริการที่ชัดเจน การสร้างมาร์เก็ตเพลสที่มีมาตรฐานสูงจะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือของแบรนด์และธุรกิจที่เข้าร่วม

7. การขยายสู่สากล

Platform Marketplace ที่ดีจะช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายขอบเขตการดำเนินงานไปสู่ตลาดทั่วโลกได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานหรือทีมงานในต่างประเทศ แพลตฟอร์มชั้นนำมีระบบรองรับหลายภาษา สกุลเงิน และวิธีการชำระเงิน ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางสามารถเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สิ่งที่คุณต้องพิจารณาเมื่อขายของบน Marketplace มีอะไรบ้าง?

แม้การสร้างระบบ Marketplace จะมอบโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ แต่ก็มีประเด็นสำคัญที่ผู้ประกอบการควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ เพื่อให้สามารถวางกลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสมและเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น

  • ข้อตกลงของตลาดออนไลน์: แต่ละ Platform Marketplace มีกฎระเบียบและนโยบายเฉพาะที่อาจส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของคุณ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการคืนสินค้า การกำหนดราคา ค่าธรรมเนียม หรือการให้บริการลูกค้า ผู้ขายจึงต้องศึกษาและปรับตัวให้สอดคล้องกับกฎระเบียบเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ
  • ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา: การเพิ่มยอดขายใน Marketplace มักต้องอาศัยการลงทุนในการโฆษณาภายในแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะในหมวดหมู่ที่มีการแข่งขันสูง ผู้ขายต้องวางแผนงบประมาณการตลาดอย่างรอบคอบ ทดสอบและวิเคราะห์ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้จ่ายด้าน Marketplaces Marketing คุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่ได้รับ
  • การควบคุมแบรนด์ที่จำกัด: E-Marketplace คือ พื้นที่ที่แบรนด์ของคุณต้องอยู่ภายใต้รูปแบบและข้อจำกัดของแพลตฟอร์ม ทำให้มีอิสระในการนำเสนอและสร้างประสบการณ์แบรนด์น้อยกว่าบนเว็บไซต์ของตนเอง ธุรกิจจึงควรพิจารณาใช้ Marketplace ควบคู่ไปกับช่องทางอื่นไปด้วย

เทคนิคการรักษาลูกค้าบน Marketplaces

การสร้างระบบ Marketplace ไม่เพียงแค่การดึงดูดลูกค้าใหม่ แต่ยังรวมถึงการรักษาลูกค้าเดิมให้กลับมาซื้อซ้ำ ซึ่งมักมีต้นทุนต่ำกว่าและให้ผลตอบแทนสูงกว่า แพลตฟอร์มที่ประสบความสำเร็จจะมีกลยุทธ์การรักษาลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความภักดีและเพิ่มมูลค่าตลอดอายุของลูกค้า โดยมีเทคนิคดังนี้

การเก็บข้อมูลลูกค้า

การเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างมาร์เก็ตเพลสที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ Platform Marketplace ที่ดีควรมีระบบจัดเก็บข้อมูลที่ครอบคลุม ทั้งข้อมูลพื้นฐาน พฤติกรรมการซื้อ และความชอบส่วนบุคคล โดยสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าเต็มใจแชร์ข้อมูล เช่น สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก ส่วนลด หรือบริการที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้าดียิ่งขึ้นและนำเสนอสินค้าหรือโปรโมชันที่ตรงกับความต้องการได้อย่างแม่นยำ

การใช้กลยุทธ์ Up-Selling และ Cross-Selling

E-Marketplace คือพื้นที่ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้เทคนิค Up-Selling การเสนอสินค้าเกรดสูงขึ้น และ Cross-Selling การเสนอสินค้าที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ซึ่งไม่เพียงเพิ่มมูลค่าตะกร้าสินค้า แต่ยังช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ครบวงจรมากขึ้น การสร้างระบบ Marketplace ควรมีระบบอัจฉริยะที่วิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อและแนะนำสินค้าที่เหมาะสม เช่น “ลูกค้าที่ซื้อสินค้านี้มักจะซื้อ…” หรือ “อัปเกรดเป็นรุ่นพรีเมียมเพิ่มเพียง…” เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อเพิ่มโดยที่ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับคุณค่าเพิ่มขึ้น

การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

การสื่อสารอย่างต่อเนื่องและมีความหมายกับลูกค้าเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาลูกค้าบน Platform Marketplace ควรพัฒนาระบบการติดตามและการแจ้งเตือนอัตโนมัติที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งสถานะคำสั่งซื้อ การแนะนำสินค้าใหม่ หรือการติดตามความพึงพอใจหลังการซื้อ และสร้างช่องทางการสื่อสารสองทางที่สะดวกรวดเร็ว เช่น แชทสด อีเมล หรือระบบข้อความ การตอบสนองอย่างรวดเร็วและแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยสร้างความประทับใจและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า

จัดแคมเปญเพื่อดึงดูดลูกค้า

การจัดแคมเปญโปรโมชันที่น่าสนใจเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำบน E-Marketplace แทนที่จะลดราคาทั่วไป ควรสร้างโปรโมชันที่มีเอกลักษณ์และมุ่งเป้าไปที่ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เช่น คูปองส่วนลดส่วนตัว โปรโมชันในวันเกิด หรือส่วนลดสำหรับสินค้าที่ลูกค้าเคยสนใจ Marketplaces Marketing ที่ดีจะใช้ข้อมูลพฤติกรรมการซื้อเพื่อออกแบบแคมเปญที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มลูกค้า ทำให้โปรโมชันมีความเป็นส่วนตัวและตรงใจมากขึ้น

สร้างความภักดีด้วยระบบสะสมแต้มหรือระบบสมาชิก

การสร้างมาร์เก็ตเพลสที่ประสบความสำเร็จควรมีแคมเปญรางวัลให้แก่ลูกค้าที่ซื้อซ้ำหรือใช้จ่ายจำนวนมาก โดยแพลตฟอร์มอาจใช้ระบบสะสมแต้ม ระดับสมาชิก หรือสิทธิพิเศษเฉพาะกลุ่ม เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าหรือบริการผ่านแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง เช่น สิทธิ์การจัดส่งฟรี ส่วนลดพิเศษ หรือบริการพิเศษเฉพาะสมาชิก ซึ่งสิทธิประโยชน์เหล่านี้สามารถช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น

สนใจสร้างระบบ Marketplace บริษัท CIPHER พร้อมให้บริการคุณแล้ววันนี้!

CIPHER เป็นผู้นำด้านการรับทำระบบ Marketplace ที่ครบวงจรและทันสมัย พร้อมยกระดับธุรกิจของคุณสู่โลกดิจิทัลอย่างมืออาชีพ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทีมงาน เราพร้อมสร้างแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของธุรกิจคุณไม่ว่าจะเป็น

  • บริการแบบครบวงจร: บริการของเราครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ การออกแบบ UI/UX การพัฒนาระบบ ไปจนถึงการดูแลหลังการเปิดตัวและการตลาดดิจิทัล
  • เทคโนโลยีล้ำสมัย: เราใช้เทคโนโลยีล่าสุดในการสร้างระบบ Marketplace ที่มีประสิทธิภาพสูง รองรับการใช้งานจำนวนมาก มีความปลอดภัย และปรับขนาดได้ตามการเติบโตของธุรกิจ
  • ฟีเจอร์ที่ครบครัน: Platform Marketplace ของเรามาพร้อมฟีเจอร์หลักที่จำเป็นทั้งหมด เช่น ระบบจัดการผู้ขาย ระบบชำระเงินที่ปลอดภัย ระบบจัดการคำสั่งซื้อ ระบบรีวิว และแดชบอร์ดวิเคราะห์ข้อมูล
  • การปรับแต่งตามความต้องการ: เราเข้าใจว่าแต่ละธุรกิจมีความต้องการที่แตกต่างกัน จึงสามารถปรับแต่งแพลตฟอร์มให้ตรงกับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์เฉพาะของคุณ
  • การสนับสนุนระยะยาว: การสร้างมาร์เก็ตเพลสเป็นการเดินทางระยะยาว เราจึงพร้อมให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการอัปเดตระบบ การแก้ไขปัญหา และการให้คำปรึกษาเพื่อการเติบโต

สรุป

การสร้างระบบ Marketplace เป็นโอกาสทางธุรกิจที่ทรงพลังในยุคดิจิทัลปัจจุบัน โดยมอบประโยชน์หลายประการ ทั้งการเข้าถึงลูกค้าที่กว้างขึ้น การลดต้นทุน ความเสี่ยงที่ต่ำกว่า และโอกาสในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด แม้จะมีความท้าทายบางประการ แต่กับพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญอย่าง CIPHER คุณสามารถพัฒนา Platform Marketplace ที่มีประสิทธิภาพและสร้างความสำเร็จในระยะยาวได้

คำถามที่พบบ่อย

Marketplace ในไทย มีอะไรบ้าง?

ประเทศไทยมี E-Marketplace หลากหลายที่มีความโดดเด่นและเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภค แต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นที่แตกต่างกันและให้บริการกลุ่มลูกค้าเฉพาะ เช่น

  • Shopee: มาร์เก็ตเพลสที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงในไทย เน้นราคาที่แข่งขันได้และโปรโมชันที่หลากหลาย เหมาะสำหรับสินค้าทั่วไปและสินค้าราคาประหยัด
  • Lazada: แพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่มีทั้งร้านค้าอิสระและแบรนด์ชั้นนำ มีระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่งและเน้นประสบการณ์ผู้ใช้ที่สะดวกสบาย
  • Line Shopping: เชื่อมโยงกับแอปพลิเคชัน Line ซึ่งเป็นที่นิยมในไทย เน้นการช็อปปิ้งผ่านโซเชียลและสะดวกในการแชร์สินค้ากับเพื่อน
  • Facebook Marketplace: เหมาะสำหรับการซื้อขายสินค้ามือสองหรือสินค้าในชุมชนท้องถิ่น มีการใช้งานง่ายและเข้าถึงได้กว้าง

Market Place หมายถึงอะไร?

Market Place หรือตลาดออนไลน์ คือพื้นที่ดิจิทัลที่เชื่อมโยงผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมากให้สามารถทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าหรือบริการได้อย่างสะดวก โดยผู้ให้บริการ Platform Marketplace ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง อำนวยความสะดวกในการค้นหา เปรียบเทียบ และซื้อขาย รวมถึงให้บริการด้านการชำระเงิน การจัดส่ง และการรับประกันความปลอดภัยในการทำธุรกรรม

มาร์เก็ตเพลส ของใคร?

มาร์เก็ตเพลสไม่ได้เป็นของบุคคลหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เป็นรูปแบบธุรกิจที่หลายบริษัทชั้นนำทั่วโลกพัฒนาขึ้น บริษัทเหล่านี้รวมถึง Amazon, eBay, Alibaba, Etsy ในระดับโลก และ Shopee, Lazada ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปัจจุบัน การสร้างมาร์เก็ตเพลสเป็นโอกาสสำหรับทุกธุรกิจที่ต้องการพัฒนาแพลตฟอร์มซื้อขายของตนเอง

ธุรกิจแบบ Marketplace คืออะไร?

ธุรกิจแบบ Marketplace คือโมเดลธุรกิจที่สร้างรายได้จากการเป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินค้าหรือบริการเอง E-Marketplace คือแพลตฟอร์มที่สร้างรายได้หลักจากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม ค่าคอมมิชชัน ค่าสมาชิก หรือค่าโฆษณา ข้อดีของธุรกิจนี้คือสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว มีต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำกว่า และมีโอกาสในการขยายธุรกิจที่หลากหลาย
Scroll to Top