แอปขนส่ง Shopify ที่รองรับ Kerry, Flash, และไปรษณีย์ไทย มีอะไรบ้าง?

แอปขนส่ง Shopify ที่รองรับ Kerry, Flash, และไปรษณีย์ไทย

Table of Contents

เมื่อคุณเริ่มต้นขายของบน Shopify การจัดส่งสินค้าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาซื้อซ้ำ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีบริการขนส่งหลากหลาย การเลือกแอปขนส่ง Shopify ที่รองรับผู้ให้บริการขนส่งยอดนิยมอย่าง Kerry, Flash และไปรษณีย์ไทย จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่กำลังขายของใน Shopify มาดูกันว่ามีแอพขนส่งสินค้าอะไรบ้างที่จะช่วยให้การจัดส่งของคุณเป็นเรื่องง่าย

ทำไมต้องใช้แอปขนส่งกับร้าน Shopify?

แอปขนส่ง Shopify - supported shopify shipping apps

ก่อนที่เราจะไปดูว่ามีแอปส่งของอะไรบ้าง มาทำความเข้าใจก่อนว่าทำไมคุณถึงควรใช้แอปขนส่ง Shopify ที่รองรับการจัดส่งในประเทศไทย Shopify คืออะไร? Shopify เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำที่ช่วยให้คุณสร้างและบริหารร้านค้าออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้แอพขนส่งสินค้าช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการจัดการออเดอร์ ลดความผิดพลาดในการป้อนข้อมูล และที่สำคัญคือช่วยให้ลูกค้าติดตามพัสดุได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับร้านค้าของคุณอย่างมาก

แอปขนส่งยอดนิยมสำหรับ Shopify ในไทย

สำหรับShopify ในไทย มีแอปขนส่ง Shopify ที่รองรับผู้ให้บริการขนส่งยอดนิยมหลายราย มาดูกันว่ามีแอปอะไรบ้างที่รองรับทั้ง Kerry, Flash และไปรษณีย์ไทย ตามข้อมูลจากแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับแอปขนส่ง Shopify ที่ดีที่สุด:

แอปขนส่ง Shopify ที่รองรับ

1. Packwai

Packwai เป็นพาร์ทเนอร์ด้านการขนส่งที่เหมาะกับร้านค้าออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบน Shopify ที่มีเครือข่ายกระจายครอบคลุมทั่วประเทศไทยกว่า 2,000 สาขา พร้อมส่งสินค้าให้ทันใจลูกค้าทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของประเทศ ทั้งในเมืองใหญ่อย่างในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด 

จุดเด่นของ Packwai:

  • ผสานเข้ากับระบบของ Shopify ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
  • มีประกันพัสดุสูญหายหรือเสียหายระหว่างการขนส่ง
  • ให้คำแนะนำในการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัย
  • โปรโมชันและส่วนลดสุดคุ้มสำหรับลูกค้า Shopify โดยเฉพาะ

2. SHIPPOP

SHIPPOP เป็นแอปส่งของสัญชาติไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่ขายของบน Shopify ด้วยความสามารถในการรองรับบริษัทขนส่งชั้นนำของไทยหลายราย

จุดเด่นของ SHIPPOP:

  • รองรับขนส่งหลากหลาย: Kerry, Flash, ไปรษณีย์ไทย, J&T, DHL, SCG Express และอื่น ๆ
  • มีระบบเปรียบเทียบราคา ช่วยให้คุณเลือกบริการขนส่งที่คุ้มค่าที่สุด
  • พิมพ์ใบจ่าหน้าได้ง่าย และมีระบบติดตามพัสดุในแอปเดียว
  • เชื่อมต่อกับ Shopify แบบไร้รอยต่อ ข้อมูลออเดอร์ถูกส่งไปยัง SHIPPOP โดยอัตโนมัติ

3. Shipnity

Shipnity เป็นอีกหนึ่งแอพขนส่งสินค้าที่พัฒนาโดยคนไทยสำหรับคนไทยโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับผู้ที่ขายของใน Shopify ที่ต้องการระบบจัดการขนส่งที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพสูง

จุดเด่นของ Shipnity:

  • รองรับขนส่งหลักของไทย: Kerry, Flash, ไปรษณีย์ไทย, J&T Express
  • มีฟีเจอร์ COD (เก็บเงินปลายทาง) ที่ใช้งานได้จริงและตรวจสอบได้
  • ระบบจัดการคลังสินค้าในตัว ช่วยให้คุณจัดการสต็อกได้ง่ายขึ้น
  • การติดตามสถานะพัสดุแบบเรียลไทม์ และแจ้งเตือนลูกค้าอัตโนมัติ

4. EasyShip

EasyShip เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่มีการรองรับแอปขนส่ง Shopify ที่รองรับขนส่งในไทยอย่างครอบคลุม เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการจัดส่งทั้งในและต่างประเทศ

จุดเด่นของ EasyShip:

  • รองรับขนส่งในไทย: Kerry, ไปรษณีย์ไทย และ DHL
  • มีระบบคำนวณภาษีศุลกากรอัตโนมัติ สำหรับการส่งระหว่างประเทศ
  • ให้ส่วนลดค่าขนส่งสูงถึง 70% กับพาร์ทเนอร์ขนส่ง
  • ระบบประกันพัสดุและการจัดการคืนสินค้าที่มีประสิทธิภาพ

วิธีเลือกแอปขนส่งที่เหมาะกับร้านค้าของคุณ

การเลือกแอพขนส่งสินค้าที่เหมาะสมกับการขายของบน Shopify ของคุณนั้น ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้:

  1. ปริมาณการขาย: ถ้าคุณมีออเดอร์จำนวนมาก ควรเลือกแอปที่มีฟีเจอร์การจัดการแบบกลุ่ม (Bulk Processing)
  2. งบประมาณ: แอปแต่ละตัวมีโครงสร้างราคาที่แตกต่างกัน บางแอปคิดค่าบริการรายเดือน บางแอปคิดตามจำนวนออเดอร์
  3. ความต้องการพิเศษ: เช่น ถ้าคุณต้องการระบบ COD ที่แม่นยำ Shipnity อาจเป็นตัวเลือกที่ดี
  4. การส่งต่างประเทศ: หากคุณมีลูกค้าต่างประเทศ EasyShip อาจเหมาะสมกว่าตัวเลือกอื่น

เทคนิคการใช้แอปขนส่งให้คุ้มค่าที่สุด

เพื่อให้การใช้แอปขนส่ง Shopify ที่รองรับมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับผู้ที่ขายของใน Shopify มีเทคนิคง่าย ๆ ที่คุณควรทำความเข้าใจ:

  1. ตั้งค่าเทมเพลตการจัดส่ง: กำหนดรูปแบบบรรจุภัณฑ์และวิธีการจัดส่งที่คุณใช้บ่อยเป็นเทมเพลต เพื่อประหยัดเวลาในการป้อนข้อมูลซ้ำ ๆ
  2. ใช้ระบบเปรียบเทียบราคา: แอปส่งของอย่าง SHIPPOP มีฟีเจอร์เปรียบเทียบราคาระหว่างผู้ให้บริการขนส่ง ช่วยให้คุณประหยัดต้นทุนได้มาก
  3. ตั้งค่าการแจ้งเตือนอัตโนมัติ: ให้ระบบส่งอีเมลหรือ SMS แจ้งลูกค้าเมื่อสถานะการจัดส่งเปลี่ยน เพื่อลดคำถามและเพิ่มความพึงพอใจ
  4. วิเคราะห์รายงาน: ใช้ข้อมูลจากรายงาน เพื่อหาจุดที่สามารถปรับปรุงกระบวนการจัดส่งให้ดีขึ้น

การแก้ปัญหาที่พบบ่อยในการใช้แอปขนส่ง

แม้ว่าแอปขนส่งสินค้าจะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นสำหรับผู้ที่ขายของบน Shopify แต่ก็อาจมีปัญหาเกิดขึ้นได้ นี่คือปัญหาที่พบบ่อยและวิธีแก้ไข:

1. การซิงค์ข้อมูลล่าช้า

  • แก้ไขโดยตรวจสอบการเชื่อมต่อ API ระหว่าง Shopify และแอปขนส่ง
  • ลองติดตั้งแอปใหม่หรือติดต่อฝ่ายสนับสนุนของแอป

2. ข้อมูลลูกค้าไม่ครบ

  • แก้ไขโดยตั้งค่าฟอร์มเช็คเอาท์ให้มีฟิลด์ที่จำเป็นเป็นฟิลด์บังคับ
  • ใช้ระบบตรวจสอบที่อยู่อัตโนมัติเพื่อลดความผิดพลาด

3. การคำนวณค่าส่งไม่ถูกต้อง

  • ตรวจสอบการตั้งค่าน้ำหนักและขนาดสินค้าในระบบ Shopify
  • อัปเดตอัตราค่าส่งในแอปให้ตรงกับราคาปัจจุบัน

บริการที่น่าสนใจของแอปขนส่ง

นอกจากฟีเจอร์พื้นฐานแล้ว แอปขนส่ง Shopify ที่รองรับหลายตัวยังมีบริการพิเศษที่น่าสนใจสำหรับ Shopify ในไทย ตามข้อมูลจาก Cipher:

  • บริการพิมพ์ฉลากแบบกลุ่ม: พิมพ์ฉลากจำนวนมากในครั้งเดียว
  • การจัดการรับคืนสินค้า: ระบบที่ช่วยจัดการกระบวนการส่งคืนสินค้า
  • การประกันพัสดุ: คุ้มครองค่าเสียหายหากพัสดุสูญหายหรือเสียหาย
  • รายงานประสิทธิภาพการจัดส่ง: วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงกระบวนการ
  • การบูรณาการกับแพลตฟอร์มอื่น: เชื่อมต่อกับระบบบัญชีหรือ CRM

สรุป

การเลือกใช้แอปขนส่ง Shopify ที่รองรับขนส่งยอดนิยมในไทยเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้ที่ขายของใน Shopify ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมั่นคง ไม่ว่าคุณจะเลือก SHIPPOP, Shipnity, EasyShip หรือ ShipRocket แอปขนส่งสินค้าเหล่านี้ล้วนมีความสามารถในการรองรับผู้ให้บริการขนส่งชั้นนำในไทยอย่าง Kerry, Flash และไปรษณีย์ไทย

การพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ปริมาณการขาย งบประมาณ และความต้องการพิเศษ จะช่วยให้คุณเลือกแอปส่งของที่ตอบโจทย์ธุรกิจได้ดีที่สุด นอกจากนี้ การใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น การตั้งค่าเทมเพลต การเปรียบเทียบราคา และการวิเคราะห์รายงาน จะช่วยให้คุณได้ประโยชน์จากแอปขนส่งอย่างเต็มที่

เริ่มต้นใช้แอปขนส่ง Shopify ที่รองรับวันนี้ เพื่อยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งของลูกค้าและลดภาระงานของคุณให้น้อยลง! หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกแอปขนส่งที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: บทความเกี่ยวกับ Shopify สำหรับธุรกิจ

คำถามที่พบบ่อย

1. แอปขนส่ง Shopify ใดที่รองรับผู้ให้บริการขนส่งไทยได้ครบถ้วนที่สุด?

SHIPPOP เป็นแอปที่รองรับขนส่งไทยได้ครบถ้วนที่สุด โดยรองรับทั้ง Kerry, Flash, ไปรษณีย์ไทย, J&T, DHL และอื่น ๆ อีกหลายราย พร้อมระบบเปรียบเทียบราคาที่ช่วยให้คุณเลือกบริการที่คุ้มค่าที่สุด

2. แอปขนส่ง Shopify มีค่าใช้จ่ายอย่างไรบ้าง?

แอปขนส่งแต่ละตัวมีโครงสร้างค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน บางแอปคิดค่าบริการรายเดือน (เริ่มต้นประมาณ $10-30 ต่อเดือน) บางแอปคิดตามจำนวนออเดอร์ และบางแอปมีแพ็กเกจฟรีที่มีข้อจำกัดจำนวนออเดอร์ คุณควรเปรียบเทียบราคาและเลือกตามความเหมาะสมกับปริมาณการขายของคุณ

3. ฉันสามารถใช้ระบบเก็บเงินปลายทาง (COD) กับแอปขนส่ง Shopify ได้หรือไม่?

ได้ แอปขนส่งส่วนใหญ่สำหรับ Shopify ในไทยรองรับระบบเก็บเงินปลายทาง (COD) โดย Shipnity มีระบบ COD ที่ใช้งานได้จริงและตรวจสอบได้ง่าย พร้อมรายงานสรุปยอดเงินที่จัดเก็บและโอนเข้าบัญชีของคุณได้อย่างแม่นยำ
Scroll to Top