Table of Contents
การขายของบน Shopify กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างร้านค้า Shopify สำหรับธุรกิจใหม่ หรือการย้ายร้านค้าเดิมมาใช้ Shopify แต่ความสำคัญของการส่งของให้ลูกค้าอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพก็เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ประสบความสำเร็จ การเลือกใช้แอปขนส่งสินค้าที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณจัดการการส่งของได้ง่ายขึ้น ประหยัดเวลา และสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าได้มากขึ้น
ทำไมแอปขนส่งถึงสำคัญสำหรับร้านค้าออนไลน์บน Shopify
ในปัจจุบันลูกค้าที่ซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ใช้ Shopify เพื่อธุรกิจ คาดหวังที่จะได้รับสินค้าอย่างรวดเร็วและสามารถติดตามสถานะการจัดส่งได้ตลอดเวลา ร้านค้าออนไลน์จึงต้องมีแอปส่งของที่มีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองความต้องการนี้ แอปขนส่งบน Shopify จะช่วยให้คุณ:
- จัดการการส่งของได้อัตโนมัติและรวดเร็วขึ้น
- เชื่อมต่อกับระบบขนส่งหลาย ๆ บริษัทได้ในที่เดียว
- ลดข้อผิดพลาดจากการทำงานแบบ manual
- ประหยัดค่าจัดส่งด้วยการเลือกบริการที่เหมาะสมที่สุด
- มอบประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าด้วยการติดตามพัสดุแบบ real-time
5 แอปขนส่ง Shopify ยอดนิยมสำหรับร้านค้าไทย
สำหรับคุณที่กำลังขายของบน Shopify หรือวางแผนรับบริการ Shopify Implementation ให้กับธุรกิจของคุณเอง นี่คือ 5 แอปขนส่งสินค้าที่ได้รับความนิยมและเหมาะกับร้านค้าในประเทศไทย ตามที่แนะนำจากแหล่งข้อมูลชั้นนำ:
1. Packwai
Packwai คือผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจ Shopify โดยเฉพาะ ด้วยเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้าที่ครอบคลุมทุกภูมิภาคของไทย จึงพร้อมส่งสินค้าให้ลูกค้าของคุณได้อย่างรวดเร็วทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ที่มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลเป็นพิเศษ
จุดเด่นของ Packwai:
- บริการรับพัสดุถึงมือผู้ส่งและจัดส่งให้ผู้รับโดยไม่ต้องไปส่งที่ศูนย์บริการ
- รายงานสถานะพัสดุแบบเรียลไทม์และใช้งานง่ายบน Dashboard
- บริการประกันความเสียหายของสินค้าระหว่างการขนส่ง
- มีทีม Customer Support คอยให้บริการแบบ 24 ชั่วโมง
2. Aftership
Aftership เป็นแอปส่งของที่ได้รับความนิยมสูงในหมู่ร้านค้าออนไลน์บน Shopify เพราะรองรับบริษัทขนส่งกว่า 1,000 บริษัททั่วโลก รวมถึงไปรษณีย์ไทย, Kerry Express, Flash Express และบริษัทขนส่งชั้นนำในประเทศไทย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ขายของใน Shopify ในประเทศไทย
ความสามารถหลักของ Aftership:
- แจ้งเตือนสถานะพัสดุแบบอัตโนมัติทาง Email และ SMS
- มีหน้าติดตามพัสดุที่ปรับแต่งได้ให้เข้ากับแบรนด์ของคุณ
- วิเคราะห์ข้อมูลการจัดส่งเพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ
- มี Free Plan ให้ทดลองใช้งานได้
3. Logismart Thailand
แอปขนส่งสินค้าที่พัฒนาโดยคนไทยสำหรับร้านค้าไทยโดยเฉพาะ ใช้งานง่ายและรองรับการทำงานกับบริษัทขนส่งในไทยอย่างครบถ้วน เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังขายของบน Shopify และต้องการแอปส่งของที่รองรับภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบ
คุณสมบัติเด่นของ Logismart Thailand:
- เชื่อมต่อกับขนส่งไทยได้หลายบริษัท ทั้ง Kerry, Flash, SCG Express
- มีระบบเปรียบเทียบราคาค่าจัดส่งแบบ real-time
- ออกใบปะหน้ากล่องได้พร้อมกันหลายออเดอร์
- รองรับการชำระเงินปลายทาง (COD) ได้ดี
4. Easy Ship
แอปจัดส่งที่เน้นความง่ายในการใช้งาน เหมาะกับร้านค้าที่เพิ่งเริ่มต้นหรือกำลังทำธุรกิจ Shopify Dropshipping และไม่ต้องการความซับซ้อนมาก
ความโดดเด่นของ Easy Ship:
- มี interface ที่เรียบง่าย เข้าใจง่าย
- คำนวณค่าจัดส่งและภาษีให้อัตโนมัติ
- รองรับการจัดส่งระหว่างประเทศได้ดี
- มีแผนการใช้งานที่หลากหลายตามขนาดธุรกิจ
5. Parcel Perform
แอปที่เน้นการสร้างประสบการณ์การติดตามพัสดุที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้า เหมาะกับร้านค้าที่ต้องการสร้างแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ
คุณสมบัติหลักของ Parcel Perform:
- มีหน้าติดตามพัสดุที่สวยงามและปรับแต่งได้
- แจ้งเตือนลูกค้าได้หลายช่องทาง ทั้ง Email, SMS และ LINE
- วิเคราะห์พฤติกรรมการติดตามพัสดุของลูกค้า
- มีระบบจัดการปัญหาการจัดส่งล่าช้าอัตโนมัติ
บริการเสริมที่น่าสนใจของ 5 แอปขนส่ง Shopify
1. การประกันสินค้าระหว่างขนส่ง
2. การจัดการสินค้า Return/Exchange
3. การส่งแบบ Multi-warehouse
4. การพรินต์เอกสารแบบกำหนดเอง
สร้างและพรินต์เอกสารต่าง ๆ เช่น ใบแพ็กสินค้า ใบเสร็จ หรือใบกำกับภาษี ในรูปแบบที่กำหนดเองได้
5. ระบบแจ้งเตือนที่ปรับแต่งได้
กำหนดเงื่อนไขการแจ้งเตือนต่าง ๆ เช่น แจ้งเตือนเมื่อพัสดุถึงคลังสินค้า หรือเมื่อมีปัญหาในการจัดส่ง
วิธีเลือกแอปขนส่งที่เหมาะกับร้านค้าของคุณ
การเลือกแอปขนส่งสินค้าที่เหมาะสมสำหรับการขายของใน Shopify ควรพิจารณาจากหลายปัจจัย ตามคำแนะนำจาก Cipher:
- ขนาดและปริมาณการขาย – ร้านค้าที่มีออเดอร์เยอะควรเลือกแอปที่รองรับการทำงานแบบอัตโนมัติ เช่น ShipStation หรือ Logismart Thailand
- งบประมาณ – เปรียบเทียบราคาและฟีเจอร์ที่ได้รับ บางแอปมี Free Plan ให้ทดลองใช้ก่อน ซึ่งเหมาะกับร้านค้าที่เพิ่งเริ่มขายของบน Shopify
- การรองรับบริษัทขนส่งในไทย – ตรวจสอบว่าแอปขนส่งสินค้ารองรับบริษัทขนส่งที่คุณใช้อยู่หรือไม่
- ความง่ายในการใช้งาน – ควรเลือกแอปส่งของที่มี interface เข้าใจง่าย ไม่ต้องใช้เวลาเรียนรู้นาน โดยเฉพาะถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้นขายของใน Shopify
- การบริการหลังการขาย – เลือกแอปขนส่งสินค้าที่มีทีมซัพพอร์ตที่ดี โดยเฉพาะถ้ามีทีมที่พูดภาษาไทยได้ สำหรับผู้รับทำ Shopify ในประเทศไทย
สรุป
การใช้ 5 แอปขนส่ง Shopify เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Aftership ที่เหมาะกับการติดตามพัสดุ, ShipStation ที่เหมาะกับร้านค้าขนาดใหญ่, Logismart Thailand ที่ใช้งานง่ายสำหรับคนไทย, Easy Ship ที่เรียบง่ายสำหรับมือใหม่ หรือ Parcel Perform ที่เน้นประสบการณ์ลูกค้า การเลือกแอปส่งของที่เหมาะสมกับความต้องการจะช่วยลดภาระงาน ประหยัดเวลา และสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าของคุณได้มากขึ้น
ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกแอปขนส่งสินค้าตัวไหน แนะนำให้ลองใช้ Free Trial ของแต่ละแอปก่อน เพื่อหาแอปที่เหมาะกับการขายของใน Shopify ของคุณมากที่สุด การลงทุนกับระบบจัดส่งที่ดีจะส่งผลให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม Shopify ในประเทศไทย คุณสามารถศึกษาเพิ่มเติมเพื่อใช้ระบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
