ปรับตัว Go online ผ่านวิกฤตโควิด

สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดจากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 คือ การที่ผู้คนมีความจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีเพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในชีวิตเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม E-Commerce การจ่ายเงินผ่านระบบ E-Banking การสั่งซื้ออาหารผ่านแอปพลิเคชั่น อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่รัฐบาลออกมาตรการให้ทุกคนอยู่บ้านเพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปโดยฉับพลัน ส่งผลให้หลายธุรกิจเองต้องปรับตัวปรับกลยุทธ์ใหม่ โดยเฉพาะการ Go Online เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในช่วงที่ตลาดออฟไลน์หยุดชะงัก

การทำการตลาดออนไลน์ยังรุ่ง แม้หลังวิกฤตโควิด 19

หากยังกังวลว่าการทำการตลาดออนไลน์จะเป็นเรื่องสิ้นเปลือง เพราะเมื่อหมดช่วงระบาดผู้คนอาจจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม ทำให้การทำการตลาดออนไลน์ อาจจะต้องเปลี่ยนมุมมองเสียใหม่ เนื่องจากข้อมูลต่างๆพบว่ามีการคาดการณ์ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคนั้นจะเปลี่ยนแปลงเข้าสู่โลกออนไลน์และดิจิทัลมากขึ้น นั่นเพราะว่า

  • พวกเขาคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีในการดำรงชีวิตช่วงกักตัวอยู่บ้านจนเป็นความเคยชิน และกลายเป็นนิสัย
  • แม้จะมีการปลด Lockdown แต่การระบาดของไวรัสโควิด 19 ไม่ได้จบลง 100% ผู้คนยังคงต้องรักษาระยะห่าง และเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเพื่อป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัสทำให้เทคโนโลยียังมีบทบาทสำคัญ และการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ยังจำเป็นในการดำรงชีวิต
  • จากข้อมูลจากจีนพบว่า แม้ประเทศจะคลายการ Lockdown แต่ผู้คนก็ยังซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ สั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่น พวกเขาไม่ได้กลับไปใช้ชีวิตเหมือนดังก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสแต่อย่างไร

จะเห็นได้ว่าการทำการตลาดออนไลน์เป็นสิ่งที่จะยังคงสำคัญและสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจ แม้ว่าจะผ่านพ้นช่วงวิกฤตจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 แล้วก็ตาม

แล้วจะเริ่ม Go Online อย่างไรดี

เมื่อพูดถึงการทำการตลาดออนไลน์หรือ Digital Marketing หลายคนอาจจะนึกถึง Facebook , Lazada  หรือ Shopee เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มการขายออนไลน์ที่คนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ทั้งแม่ค้าหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ต่างก็ล้วนเคยผ่านแพลตฟอร์มเหล่านี้

แต่การตลาดออนไลน์มิใช่เพียงการเริ่มขายออนไลน์บนแพลตฟอร์ม E-Commerce เท่านั้น แต่ยังมีองค์ประกอบอื่นๆอีกมากมาย และก่อนจะเริ่ม Go Online เจ้าของธุรกิจ หรือผู้ที่กำลังจะทำการตลาดออนไลน์เอง ก็ควรต้องมีแผนในการทำธุรกิจออนไลน์ด้วย เพราะหากคิดเพียงจะลงขายช่องทางออนไลน์ต่างๆ แล้วทุ่มโปรโมทเท่านั้น อาจจะสูญเสียกำไรมหาศาลไปกับค่าโฆษณาก็เป็นได้  ดังนั้นก่อนที่จะ Go Online สิ่งสำคัญคือเจ้าของธุรกิจ ร้านค้าหรือแบรนด์ต่างๆ ต้องรู้จักตัวเอง

New call-to-action

รู้จักตัวเอง รู้จักธุรกิจ รู้จักสินค้า อย่างไรบ้าง

  • ธุรกิจหรือสินค้าของเราคืออะไร มีจุดแข็งจุดอ่อนอย่างไร แตกต่างจากสินค้าที่ชานบนแพลตฟอร์ม E-Commerce อื่นๆ หรือไม่อย่างไร
  • ธุรกิจหรือสินค้าของเราช่วยแก้ปัญหาหรือเติมเต็มความต้องการใดให้กับลูกค้า
  • กลุ่มเป้าหมายของสินค้าหรือธุรกิจของเราคือใคร ข้อนี้เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก

เมื่อเรารู้จักสินค้าหรือธุรกิจของเราดีแล้ว จึงเริ่มทำการศึกษาแพลตฟอร์ม E-Commerce ต่างๆ ที่สนใจ และคิดว่าเหมาะกับธุรกิจหรือสินค้าของตนเอง ซึ่งหากเป็นสินค้าในไทยนั้นดูเหมือนว่า แพลตฟอร์ม E-Commerce ยอดนิยมนั้นจะได้แก่ Lazada Shopee และ Facebook และยังมีอีกมากมายหลายแพลตฟอร์ม เช่น Central Online, 11 Street, TARAD หรือจะเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นที่นิยมทั่วโลกเช่น AMAZON เป็นต้น ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป และมีความเหมาะสมกับธุรกิจและสินค้าที่แตกต่างกันด้วย

วางแผนการทำการตลาดออนไลน์

นอกเหนือจากการรู้จักสินค้า ธุรกิจของตนเอง และรู้จักแพลตฟอร์ม E-Commerce ต่างๆเป็นอย่างดีแล้วการจะ Go Online ให้ได้ผลจำเป็นต้องมีการวางแผนการทำการตลาดออนไลน์ เพื่อจะได้นำสินค้าไปวางอยู่บนแพลตฟอร์ม E-Commerce ที่เหมาะสม และทำโฆษณาออนไลน์ให้ได้ประสิทธิภาพ การมีแผนการตลาดออนไลน์ที่ชัดเจน ก็เหมือนการเดินทางที่มีจุดหมายปลายทาง เมื่อจุดหมายชัดเจน วิธีทำก็จะตามมา เช่น ในช่วงแรก แผนการทำการตลาดออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้ วิธีการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายก็จะแตกต่างกับแผนการทำการตลาดออนไลน์ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างยอดขาย  นอกจากนี้แผนการตลาดออนไลน์ยังทำให้สามารถพิจารณาเลือกเครื่องมือที่จะใช้ในการทำการตลาดออนไลน์ได้อย่างเหมาะสมด้วย ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องมือในการทำการตลาดออนไลน์ออนไลน์เกิดขึ้นมากมาย อาทิ Hubspot ที่คิดค้นการทำการตลาดแบบ Inbound Marketing , MailChimp, Keyword Planner ฯลฯ ไม่เพียงเทานั้นการที่ธุรกิจมีแผน การทำการตลาดออนไลน์ที่ชัดเจน จะทำให้สามารถควบคุมทิศทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะรวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายต้นทุนต่างๆด้วย

แม้จะเป็นช่วงที่ธุรกิจ Start Up และ SME ต้องปรับตัวอย่างมากเพื่อรับมือกับวิกฤตที่เข้ามาอย่างกะทันหัน แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้การปรับตัวคือการปรับทัศนคติ ความคิดและมุมมองให้พร้อมรับมือกับวิกฤตที่เข้ามา หากแต่ละธุรกิจมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถเริ่มขายออนไลน์ วางแผนในการทำการตลาดออนไลน์ หาเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการทำการตลาดออนไลน์ ก็จะสามารถปรับตัวและฝ่าฝันวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน