การตลาดในยุคดิจิทัลทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ทำให้ทุกบริษัทต้องมีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับยุคสมัย เพราะนักข่าวหรือสื่อเองก็มีการเปลี่ยนแปลงการค้นคว้าหาข้อมูล เพื่อนำมาเสนอแก่ผู้ชมเช่นเดียวกัน ดังนั้นการจะทำการส่งข่าวประชาสัมพันธ์ให้นักข่าวหรือบล็อกเกอร์นำไปเขียนเหมือนแต่ก่อนนั้นอาจจะเป็นวิธีที่ไม่ค่อยได้ผลมากเท่าไหร่ เนื่องจากแหล่งหาข้อมูลในทุกวันนี้มีอยู่ด้วยกันมากมายอีกทั้งยังมีรายละเอียดที่มากกว่าข่าวประชาสัมพันธ์ที่ส่งให้เสียอีก

วิธีการสืบค้นข้อมูลแบบดั้งเดิมและการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างซีอีโอ, พนักงาน และโฆษกผู้ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ (Spoke person) ยังคงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ แต่สื่อและนักข่าวในปัจจุบันนี้มีความสนใจและชื่นชอบที่จะค้นหาข้อมูลด้วยตนเองผ่านการสืบค้นออนไลน์ก่อนที่จะติดต่อพูดคุยกับแบรนด์เพื่อให้ได้ข้อมูลและรายละเอียดเชิงลึกต่าง ๆ มากขึ้นกว่าเดิม

มีงานวิจัยที่ได้จัดทำขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้จาก ISEBOX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารแบบดิจิทัลที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง พบว่านักข่าวกว่า  95% มีการเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัทอย่างน้อยเดือนละ 41 %  และมีการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทเป็นประจำในทุก ๆ วันผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งบริษัทจำนวนไม่น้อยที่มีทีมสื่อสารมวลชนที่มีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นทีมของบริษัทเองหรือการจัดการผ่านเอเจนซี่ แต่ก็มีบริษัทอีกจำนวนไม่น้อยที่ประสบความล้มเหลวในการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ที่มีประโยชน์ออกสู่โลกออนไลน์และทำให้นักข่าวไม่อาจหาข้อมูลที่พวกเขาต้องการจากบริษัทเหล่านี้ได้

การเข้าถึงห้องข่าวประชาสัมพันธ์ Inbound PR

แนวคิดที่อยู่เบื้องหลังการสร้างห้องข่าวประชาสัมพันธ์ Inbound PR นั้นไม่ซับซ้อน กล่าวคือ เมื่อไหร่ก็ตามที่นักข่าวคลิกเข้ามายังเว็บไซต์ของบริษัท ทีมงาน PR ของบริษัทจะต้องจัดเตรียมรายละเอียดและเนื้อหาที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นข่าวประชาสัมพันธ์, ข่าวสารที่สำคัญ, รูปภาพ, วีดีโอ, กิจกรรมล่าสุดของทางแบรนด์ รวมไปถึงข้อมูลผู้ติดต่อเพื่อทำให้นักข่าวเข้าถึงรายละเอียดต่าง ๆ ที่พวกเขาต้องการได้อย่างง่ายดาย

มีหลายบริษัทที่พยายามสร้างห้องข่าวประชาสัมพันธ์หรือ  Inbound Newsroom แต่เท่าที่ได้มีการสำรวจกันอย่างจริงจังพบว่านอกเหนือจากแบรนด์หลัก ๆ อย่างเช่น Coca Cola, Red Bull และ Nike ที่ประสบความสำเร็จในการสร้าง  Inbound Newsroom ที่มีประสิทธิภาพแล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงอื่นๆจำนวนไม่น้อยต่างล้มเหลวในการสร้างห้องข่าวประชาสัมพันธ์เพื่อตอบสนองความต้องการในการค้นคว้าข้อมูลของนักข่าว อ้างอิงจากการวิจัย ISEBOX 70% ของนักข่าวที่บอกว่าห้องข่าวประชาสัมพันธ์ของบริษัทชื่อดังหลายแห่งที่พวกเขาเข้าเยี่ยมชมนั้นไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง กล่าวคือ ไม่มีข้อมูลที่จำเป็น,การจัดทำเนื้อหาไม่ตอบสนองต่อสิ่งที่ผู้ชมและนักข่าวอยากรู้ รวมถึงการสร้างห้องข่าวประชาสัมพันธ์ที่เข้าถึงได้ยาก

ข้อมูลสำหรับติดต่อแบรนด์ที่อัพเดทอยู่เสมอ

เมื่อไหร่ก็ตามที่นักข่าวเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท พวกเขาย่อมคาดหวังว่าจะได้รับข้อมูลที่ดีที่สุดและสามารถติดต่อกับทีมงานของบริษัทได้อย่างสะดวกรวดเร็วเพื่อให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติม ดังนั้นทีมงาน PR จึงต้องมีการอัพเดทข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยอยู่เสมอ รวมทั้งหมายเลขโทรศัพท์และอีเมล์ที่ถูกต้อง สามารถติดต่อได้อย่างรวดเร็วรวดเร็ว เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่นักข่าวต้องการข้อมูลเพิ่มเติมแต่ไม่สามารถติดต่อกับทีมงานได้ก็อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดี อีกทั้งยังเสียเวลาในการติดต่อมาบ่อย ๆ แต่ไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งเมื่อเป็นแบบนี้บ่อยเข้าก็ทำให้พวกเขาหมดความอดทนและไม่อยากจะเขียนถึงแบรนด์ของคุณอีกต่อไป ดังนั้นควรให้ความสำคัญกับการอัพเดทที่อยู่ติดต่อที่ถูกต้องและทันสมัยอยู่เสมอ

เนื้อหาในรูปแบบมัลติมีเดีย (รวมถึงภาพความละเอียดสูง)

มีสิ่งหนึ่งที่คุณควรจะรู้เอาไว้ถึงเคล็ดลับสำคัญของการทำเว็บไซต์ให้มีความน่าสนใจและดึงดูดใจให้นักข่าวคลิกเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณอยู่บ่อย ๆ นั่นก็คือเว็บไซต์ของบริษัทที่ได้รับการออกแบบจัดทำมาเป็นอย่างดี ดูมีความทันสมัย น่าสนใจ น่าคลิกเข้าไปอ่าน พร้อมทั้งมีเนื้อหามัลติมีเดียอย่าง ภาพถ่ายความคมชัดสูง,วีดีโอ รวมไปถึงไฟล์เสียงที่มีคุณภาพอัดแน่นอยู่ภายในเว็บไซต์ที่พวกเขาสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้

ในแต่ละวันที่มีการโพสท์บทความและเนื้อหาต่าง ๆ ลงบนเว็บไซต์ออนไลน์และ Social media ต่าง ๆ  มากมาย แต่เนื้อหาที่มีความน่าสนใจที่มีความยาวประมาณ 350 คำที่เขียนรายละเอียดเนื้อหาที่สำคัญอย่างกระชับและชัดเจน อย่างใคร, ทำอะไร, เมื่อไหร่, ที่ไหน และทำไม นั้นเป็นรูปแบบโครงสร้างของบทความที่สามารถสื่อสารกับคนดูได้อย่างมีประสิทธิภาพ น่าเสียดายที่คนทำเนื้อหาจำนวนมากละเลยมันไปเป็นเวลานานแล้วทั้งที่เป็นโครงสร้างบทความที่ดีมากที่สุดแบบหนึ่งเลยทีเดียว ดังนั้นอย่าลืมใช้โครงสร้างบทความเช่นนี้กับเว็บไซต์และห้องข่าวของคุณ

หากทีมงาน PR กำลังจัดทำเนื้อหาที่เกี่ยวกับประกาศของบริษัท ให้คงเนื้อหาที่เป็นข้อความเอาไว้แต่อาจเพิ่มเติมเนื้อหาที่เป็นวิดีโอให้ขึ้นมาแสดงอยู่ข้าง ๆ และวางเนื้อหาเหล่านี้เอาไว้ใน ห้องข่าวประชาสัมพันธ์ Inbound PR Newsroom เพื่อให้นักข่าวสามารถนำไปใช้งานต่อได้อย่างอิสระ

ในยุคปัจจุบันนี้ที่ธุรกิจจำเป็นต้องทำทุกอย่างเพื่อให้แบรนด์หรือบริษัทของตนเองมีความโดดเด่นขึ้นมาเหนือคนอื่น เนื้อหาที่เป็นวีดีโอที่สร้างมาอย่างดีเป็นเคล็ดลับอย่างหนึ่งที่จะทำให้แบรนด์ของคุณแตกต่างและโดดเด่นขึ้นมาเหนือคนอื่น อย่างน้อยที่สุดก็ต้องแน่ใจว่ารูปภาพที่แสดงในเว็บไซต์เป็นภาพที่มีความละเอียดคมชัดสูง ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพของผลิตภัณฑ์ไปจนกระทั่งรูปภาพของผู้บริหาร เพราะไม่มีอะไรที่แย่ไปกว่าการที่นักข่าวต้องไปค้นหาภาพผลิตภัณฑ์ของบริษัทจากที่อื่นเพื่อให้ได้ภาพที่ดีกว่าภาพที่มีอยู่ในเว็บไซต์ของบริษัทเอง

Media Kit เครื่องมือช่วยในการทำประชาสัมพันธ์

เมื่อนักข่าวเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทและกำลังพยายามค้นหาข้อมูลพื้นฐานบางอย่างเกี่ยวกับธุรกิจ ทีม PR ควรจัดเตรียมเนื้อหาเหล่านี้เอาไว้ให้พร้อมใช้งานและสามารถเข้าถึงได้ตามลำดับ ซึ่งในส่วนนี้ชุดเครื่องมือช่วยในการทำประชาสัมพันธ์หรือ Media kit สามารถช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก ซึ่ง Media kit อาจรวมถึงโลโก้ที่มีขนาดและความละเอียดที่คมชัด, ประวัติของผู้บริหารและทีมงาน รวมทั้งภาพประกอบที่เหมาะแก่การเล่าเรื่องเพื่อให้นักข่าวสามารถนำไปใช้ต่อได้ง่าย เมื่อไหร่ก็ตามที่เว็บไซต์ของคุณเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีเยี่ยม จะทำให้สื่อและนักข่าวนึกถึงเป็นที่แรกเมื่อพวกเขาต้องเขียนข่าวหรือเขียนคอลัมน์รวมทั้งจะยังทำให้พวกเขากลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณบ่อย ๆ

การทำ Inbound PR จะมีการทำ Buyer persona หรือการกำหนดรูปแบบของลูกค้าในอุดมคติเพื่อที่จะได้วางแผนการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพที่เหมาะสมกับลูกค้าในอุดมคติเหล่านี้ เช่นเดียวกับการเข้าถึงสื่อและนักข่าว ซึ่งทีม PR จะต้องทำการศึกษาและสร้างรูปแบบของสื่อที่เราอยากให้เป็นผู้เผยแพร่เนื้อหาของแบรนด์จากนั้นก็เตรียมชุดเนื้อหาต่าง ๆ ที่เหมาะสมเพื่อให้พวกเขาสามารถนำไปใช้ต่อได้สะดวก ชุดเนื้อหา Media kit เหล่านี้รวมไปถึงทรัพยากรต่าง ๆ ที่อยู่ในเว็บไซต์และบางส่วนที่สามารถดาวน์โหลดไปใช้ได้ อย่างเช่น e-books, แผ่นคำแนะนำ, วีดีโอ, บล็อกโพสท์ และอื่น ๆ

ทุกวันนี้มีเพียงแบรนด์ใหญ่เท่านั้นที่เป็นเจ้าของ Inbound PR Newsroom ที่มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับ อย่างเช่น Cisco, Lenovo, coca cola และ Redbull ซึ่งบริษัทอื่น ๆ ที่แม้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่ากันก็สามารถนำแนวคิดการสร้าง Newsroom จากแบรนด์ชื่อดังเหล่านั้นมาเป็นแบบอย่างในการสร้างห้องข่าวประชาสัมพันธ์ของตนเองได้ แต่เหตุผลที่บริษัทขนาดเล็กหลายแห่งไม่ยอมสร้างห้องข่าวของตนเองก็เพราะพวกเขาคิดแต่ว่ามีแค่แบรนด์ใหญ่เท่านั้นที่ควรมีห้องข่าวที่มีคุณภาพอีกทั้งยังมองไม่เห็น ROI หรือผลตอบแทนจากการลงทุนทำห้องข่าวที่ชัดเจน จึงไม่ยอมทำ Inbound PR Newsroom ของตนเองเสียที ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะการมีห้องข่าวที่มีข้อมูลเพียบพร้อมเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ทำให้ลูกค้าสามารถจดจำแบรนด์ได้มากขึ้นและเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเนื่องจากสื่อสามารถหยิบเนื้อหาที่เป็นประโยชน์จากห้องข่าวไปนำเสนอต่อและสามารถเผยแพร่เข้าถึงกลุ่มผู้คนเป็นจำนวนมากได้นั่นเอง

เชื่อมต่อไปยัง Social media

Social media สามารถใช้เป็นเครื่องมือวิจัยในการพัฒนาเรื่องราวที่ต้องการจะเล่า, การสร้างรายชื่อสำหรับติดต่อและการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานออนไลน์ ซึ่งทุกวันนี้  Social media ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้คนและมีบทบาทในชีวิตประจำวันอย่างมาก ดังนั้นจึงสามารถนำมาใช้เป็นห้องข่าวประชาสัมพันธ์สมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี เพราะนักข่าวและสื่อจะใช้วิธีการติดตามหรือ follow บัญชี Social media ของแบรนด์ที่มีความน่าสนใจ ซึ่งสามารถใช้ฟังก์ชั่น Shared ในการแชร์ข้อมูลที่น่าสนใจไปยังกลุ่มผู้ติดตามของตนเองได้ ดังนั้นทีม PR จึงสามารถช่วยให้นักข่าวทำงานได้ง่ายขึ้นโดยรวมลิงค์ในเว็บไซต์ไปยังโปรไฟล์ Social media ของบริษัท อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าลิงค์เหล่านั้นสามารถใช้งานได้ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้พวกเขาติดตามคุณและดูว่าเรื่องราวและกิจกรรมใดที่คุณกำลังโปรโมทอยู่

อัพเดทข่าวล่าสุดอยู่เสมอ

มีเรื่องน่าแปลกใจอย่างหนึ่งในวงการ PR นั่นก็คือแบรนด์และธุรกิจจำนวนมากแทบจะไม่ค่อยโพสท์ข่าวล่าสุดของตนเองลงในเว็บไซต์ และทีม PR จำนวนไม่น้อยที่ลงข่าวในเว็บไซต์ของตนเองภายหลังจากที่มันได้เผยแพร่ออกไปสู่สื่ออื่น ๆ ก่อนหน้านั้นแล้ว ทั้งที่ตนเองซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์และเป็นคนต้นข่าวนั้นเองควรโพสท์อัพเดทล่าสุดลงในเว็บไซต์หรือ Social media ของตนเองเป็นที่แรก

การโพสท์อัพเดทข่าวล่าสุดของกิจกรรมหรือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมทั้งเรื่องสำคัญใด ๆ ลงในเว็บไซต์ของบริษัทก่อนเป็นที่แรกจะทำให้สื่อและนักข่าวมองเห็นความชัดเจนในการทำธุรกิจ หากข่าวหรือเนื้อหานั้นเป็นที่สนใจหรือตรงกับความชอบของพวกเขาก็จะทำให้มีการติดตามและเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณอย่างสม่ำเสมอเพื่อที่จะได้รู้เรื่องราวคืบหน้าก่อนใคร จากนั้นจึงทำการเผยแพร่และขยายประเด็นข่าวอัพเดทของคุณให้แก่ผู้ติดตามและผู้ชมของพวกเขา ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความสนใจของผู้ชมเป็นจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กล่าวโดยสรุปก็คือ การสร้างห้องข่าวประชาสัมพันธ์ Inbound PR Newsroom ที่มีคุณภาพสำหรับนักข่าวและสื่อต่าง ๆ เป็นเรื่องที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะพวกเขาจะไม่ต้องกังวลและใช้เวลานานเกินไปในการตามหาข่าวซึ่งจะเป็นผลดีต่อแบรนด์ในแง่ที่ว่าเราไม่ต้องออกไปประชาสัมพันธ์ตัวเอง เพื่อให้คนอื่นสนใจอีกต่อไป เพราะสื่อและนักข่าวจะเป็นฝ่ายที่เข้ามาหาเราเอง ซึ่งนักข่าวในปัจจุบันนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการหาไอเดียและข้อมูลจากแบบเดิม ๆ มาเป็นการหาข้อมูลออนไลน์มากขึ้น ดังนั้นการให้ข้อมูลที่ใช้งานได้ดี, มีรายละเอียดที่น่าสนใจและครบถ้วน, สามารถเข้าถึงได้และนำไปแชร์หรือใช้งานต่อได้ง่ายผ่าน Inbound PR Newsroom จะช่วยเพิ่มโอกาสของบริษัทในการสร้างความสนใจแก่สื่อและนักข่าวโดยไม่ต้องใช้วิธีการทำ PR แบบเดิม ๆ ที่ต้องออกไปหาผู้ชมเหมือนแต่ก่อน