แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคที่อาจเปลี่ยนไปหลังจบโควิด 19
คงต้องยอมรับว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่เพียงสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนไทยเท่านั้น แต่ยังนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนไทยครั้งใหญ่ด้วย แม้ว่าแต่เดิมคนไทยจะเริ่มเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น แต่การระบาดของไวรัสโควิด – 19 จะเป็นตัวเร่งที่ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคต้องพึ่งพาระบบดิจิทัล ระบบออนไลน์ และแพลตฟอร์ม E-Commerce กว่า 80% และวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังนำมาซึ่งความกังวลต่างๆมากมายในชีวิตซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคหลังวิกฤตโควิดอีกด้วย
ผู้คนยังกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสแม้สถานการณ์จะดีขึ้น
คงต้องยอมรับว่าความกังวลนี้จะยังอยู่ไปอีกระยะเวลาหนึ่ง แม้จะเริ่มมองเห็นว่าอีกไม่นานอาจจะมีมาตรการผ่อนปรนการ Lock down ลง และผู้คนจะได้ออกจากบ้านไปจับจ่ายสินค้าและบริการหลังวิกฤตโควิดมากขึ้น แต่พวกเขาเหล่านั้นจะยังกังวลเรื่องความสะอาด ความปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 สิ่งสำคัญคือแบรนด์ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดกับผู้บริโภคโดยการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งการสร้าง Content ออนไลน์ การทำโฆษณาออนไลน์ การทำการตลาดออนไลน์ ต้องสามารถสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย เพื่อให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในแบรนด์ให้ได้
ผู้คนกังวลเรื่องการเงิน และวางแผนเพื่ออนาคตกันมากขึ้น
จากเดิมที่คนไทยเน้นการท่องเที่ยวเพื่อสร้างประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ แต่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ทำให้การเดินทางหยุดชะงัก ทั้งการเดินทางในประเทศและการเดินทางระหว่างประเทศ ธุรกิจการบิน ธุรกิจท่องเที่ยวที่เคยหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของประเทศเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้คนเกิดความกังวลเรื่องการเงินมากขึ้น เนื่องจากอะไรที่เคยดูมั่นคงกลับสั่นคลอน หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 จึงมีแนวโน้มที่ผู้คนจะสนใจวางแผนการเงิน ลดค่าใช้จ่ายต่างๆ และมีความรัดกุมในเรื่องการใช้เงินมากขึ้น อาจจะมีการลดการใช้เงินเพื่อการเดินทางและความสบายลงเพื่อสร้างความมั่นคง และลดความกังวลใจด้านการเงินของตนเองลง
ผู้คนเป็นห่วงเรื่องสุขภาพและการรักษาพยาบาลมากขึ้น
นอกจากกังวลเรื่องการเงินแล้ว สิ่งหนึ่งที่ผู้บริโภคมีความกังวลเพิ่มขึ้นคือปัญหาเรื่องสุขภาพและสวัสดิการในการรักษาพยาบาล จากข้อมูลพบว่าช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ผู้คนค้นหาเกี่ยวกับประกันสุขภาพเพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจประกันสุขภาพเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจากการซื้อประกันสุขภาพจะเชื่อมโยงไปถึงการวางแผนทางด้านการเงินด้วย นอกจากนี้คนมองว่าการล้มป่วยโดยปราศจากประกันเป็นเรื่องน่าวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง เพราะนั่นหมายถึงการต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นเงินก้อนใหญ่ การสูญเสียรายได้ และความยากลำบากของคนในครอบครัว
นอกจากการซื้อประกันสุขภาพแล้ว ผู้คนยังตระหนักถึงการสร้างสุขภาพที่ดีด้วย ผู้คนมองหาตัวช่วยในการสร้างสุขภาพที่ดีกันมากขึ้น ทั้งอาหารคลีน การออกกำลังกาย วิตามิน อาหารเสริมต่างๆ ซึ่งเป็นโอกาสที่ธุรกิจเหล่านี้จะสามารถเข้าไปมีบทบาทในการลดความกังวลใจของผู้คนได้ โดยสามารถเริ่มจากการทำDigital Marketing, Inbound Marketing, การตลาดออนไลน์, การโฆษณาออนไลน์, การสร้าง Content ออนไลน์เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
ผู้คนมองหากิจกรรมผ่อนคลายในบ้านมากขึ้น
ช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผู้คนจำเป็นต้องกักตัวอยู่บ้าน แม้การทำงานก็ต้องเป็นแบบ Work From Home ส่งผลให้หลังวิกฤตผู้คนจะเริ่มเคยชินกับการอยู่บ้านมากขึ้น และมีความรู้สึกว่าภายในบ้านนั้นเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับตนเอง การรับประทานอาหารระหว่างกลุ่มเพื่อนอาจจะย้ายจากร้านอาหารมาเป็นในพื้นที่บ้านของคนใดคนหนึ่งมากขึ้น การออกกำลังกายอาจจะเปลี่ยนจากฟิตเนสมาเป็นการออกกำลังผ่านคลิปใน Youtube ภายในบ้าน นอกจากนี้ผู้คนจะมองหากิจกรรมต่างๆที่สามารถทำในบ้านได้มากขึ้น อาทิ งานคราฟท์ การเย็บปักถักร้อย การทำสบู่ การปลูกต้นไม้ ฯลฯ สิ่งสำคัญคือแบรนด์ต้องปรับตัวเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเหล่านี้ โดยการ Go Online ผ่านทำ Digital Marketing ที่มีประสิทธิภาพ
ผู้คนคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น
เนื่องจากความจำเป็นที่ต้องอยู่บ้านในช่วงการ Lockdown ทำให้ผู้คนต้องหันมาพึ่งพาแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ทั้งการจับจ่ายใช้สอย การสั่งอาหารผ่านช่องทางออนไลน์ การซื้อสินค้าผ่าน E-Commerce รวมถึงการจ่ายเงินค่าสินค้าและบริการต่างๆด้วย พฤติกรรมผู้บริโภคหลังวิกฤตโควิด – 19 คือพวกเขาจะยังเคยชินกับการจ่ายเงินผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ดังนั้นธุรกิจต่างๆ จึงควรเพิ่มช่องทางการจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงการมองหาพันธมิตรทางธุรกิจอื่นๆ เพื่อช่วยให้เรื่องการ Shopping เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ทุกเวลา อาทิ ธุรกิจอาหารที่เป็นพันธมิตรกับธุรกิจขนส่ง ทำให้ผู้บริโภคสามารถสั่งอาหารผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ไม่เพียงเท่านั้น แบรนด์เองต้องสร้างโปรโมชั่นเฉพาะสำหรับช่องทางออนไลน์เพื่อกระตุ้นยอดขายด้วย
ผู้คนต้องการเห็นของจริง แบบไม่ไปสถานที่จริง
อย่างที่บอกว่าผู้คนจะยังกังวลในการใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ ดังนั้นพวกเขาจะค้นหาข้อมูลสินค้าต่างๆผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น รวมถึงการซื้อสินค้าเช่นเดียวกัน สำหรับสินค้าบางอย่างที่ไม่สามารถซื้อทางช่องทางออนไลน์หรือซื้อผ่านแพลตฟอร์ม E-Commerce ได้ อาทิ อสังหาริมทรัพย์หรือยานยนต์ ผู้บริโภคจะยังค้นหาข้อมูลสินค้าที่พวกเขาสนใจ อาทิรถรุ่นต่างๆ ลักษณะ ราคา เงื่อนไข โครงการบ้านที่สนใจ ราคา แบบแปลน ข้อมูลเหล่านี้จะถูกค้นหาผ่าน Google สิ่งสำคัญคือแบรนด์ต้องทำให้ผู้บริโภคสามารถเห็นสินค้าเหล่านี้ได้อย่างเสมือนจริง โดยใช้เทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วย อาทิ AR Application, Live Streaming, Video call เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้อย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแต่แบรนด์สินค้าอย่างอสังหาริมทรัพย์หรือยานยนต์เท่านั้น สินค้าอุปโภคบริโภคก็เช่นเดียวกัน นอกจากการทำให้ลูกค้าได้เห็นสินค้าเสมือนจริงแล้ว การทำ Digital Marketing ผ่านแพลตฟอร์มสำหรับการตลาดออนไลน์ การทำโฆษณาออนไลน์ การทำ Inbound Marketing ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ด้วย
พฤติกรรมผู้บริโภคหลังวิกฤตโควิดย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน ธุรกิจ Start Up และ SME รวมถึงธุรกิจขนาดใหญ่และแบรนด์ต่างๆ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปรับตัว สิ่งสำคัญคือการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายผ่านการทำ Digital Marketing ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย สร้างการรับรู้ และเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้กลายเป็นลูกค้าได้ในที่สุด